บทกวี : อ่านฟ้า : ชมัยภร แสงกระจ่าง

บทกวี : อ่านฟ้า : ชมัยภร แสงกระจ่าง              

 

ฉันยืนมองโค้งฟ้าทุกคราครั้ง

ฉันมีหวังทุกครั้งคราที่ตาเห็น

ฟ้ากว้างไกลสุดหล้าที่ฟ้าเป็น

กว้างแต่เร้นหลบมุมได้ในตาเรา

 

ฟ้ามีความเวิ้งว้างเคว้งคว้างอยู่

เป็นหนทางพร่างพรูความเหงาเศร้า

ยามทิวามีตะวันอันแรงเร้า

และมีเพ็ญซ่อนเงายามกลางคืน

 

ทั้งแอบดาวระยิบวับระยับฟ้า

กระพริบแสงแรงกล้าอยู่ดาษดื่น

ซ่อนมวลเมฆครึ้มข่มดูกลมกลืน

เคลื่อนเป็นคลื่นในความกว้างกลางนภา

 

แท้ฟ้าคือโลกข้างในไม่รู้จบ

อ่านไม่ครบอ่านเท่าใดไม่ชาญกล้า

จิตขยายใหญ่กว้างทางมรรคา

และจิตอาจซ่อนตาอยู่ภายใน

 

ฉันเห็นได้เท่าจิตนึกคิดอยู่

ฉันรับรู้เท่าที่จิตขบคิดได้

ฉันสำนึกลึกซึ้งถึงเท่าใด

ก็เท่าจิตซ่อนไว้ในจิตเอง

 

ฉันอ่านฟ้ามองฟ้าด้วยตาจิต

พบว่าฟ้าน้อยนิดกว่าจิตเก่ง

ฉันผยองมองฟ้าล่าบรรเลง

พบว่าฟ้าแตกเพล้งด้วยเพลงฟ้า

 

หล่นพร่างพรูกรูกราวราวฟ้ารั่ว

ลั่นระรัวเปรี้ยงปร้างดัง !!! ฟ้าผ่า

ฉันเข้าบ้านหลบลี้เล่นลีลา

ไปอยู่ใต้หลังคาสบายใจ

 

ทันใดนั้น น้ำหยดจากเพดาน

ติ่งติ๋งผ่านสู่กองหนังสือใหญ่

ฉันกรีดร้องไหวหวาดปานขาดใจ

โอ้ ปัญญาละลายไหลหัวใจลาญ

 

................................

ชมัยภร แสงกระจ่าง

๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔

..................................................................................

 

ชมัยภร บางคมบาง (แสงกระจ่าง)
ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2557

  

 

Link ที่เกี่ยวข้อง 

 

                 “บางกอกไลฟ์นิวส์” เปิดรับ “เรื่องสั้น” และ “บทกวี”

 

                 บทกวี : นั่นแหละ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์         

 

                 เรื่องสั้น : เรื่องมันยาว เล่าให้สั้น : จำลอง ฝั่งชลจิตร

 

                 เรื่องสั้น : วันตะวันดับบนดาวมรสุม : วีรพร นิติประภา

 

                 บทกวี : ภ า พ พ บ : สถาพร ศรีสัจจัง

 

                 บทกวี : โควิดหนึ่งเก้า : อัคนี หฤทัย

 

                 เรื่องสั้นเม่นแคระน้ำจืด : กล้า สมุทวณิช

 

                 บทกวี กลับตาลปัตรศุ บุญเลี้ยง

 

                 บทกวี : กางจอ กลางแจ้ง : โชคชัย บัณฑิต'

 

                 บทกวี : 1 + 1 = 1 : มนตรี ศรียงค์ 

 

                 บทกวี : ที่นี่เมืองไทย : นิภา บางยี่ขัน

 

//..........................