บทกวี : ในกวีบางบทของอีหม่ามชาฟิอีย์ : อนุสรณ์ มาราสา

บทกวี : ในกวีบางบทของอีหม่ามชาฟิอีย์ : อนุสรณ์ มาราสา

 

ท่านว่า คนมีรักเป็นกวีได้

ใช่สิ ชื่นเช้ากุหลาบก็คงหัดยิ้ม

คอยเวลาใบไม้จูบลาน้ำค้าง

ฝันทักทายกับหมู่ผีเสื้อยามบ่าย

 

ใช่  รักสั่งลมทอดกายใต้ไม้ใหญ่

เธอนอนพักออมแรงกาย

เธอจะนัดหมายฝูงปลาใต้ผิวน้ำ

คืนนี้จะร่วมตะโกนคำรักแทนสวดมนต์

 

วันนั้นถึงวันนี้ยี่สิบปีกว่าแล้วสินะ

คำสั้น ๆ ว่า รัก ผูกตรวนทะเลพันเดือน

ตั้งแต่วันสองเราแต่งงานกันปีนั้น

ขึ้นเรือเดินทางท่องทะเลเขียนกวี

 

ผู้หญิงสวยที่สุดในวันแต่งงาน

ที่รัก คงลืมหมดสิ้นแล้วสินะ

รอยยิ้มที่ทิ่มแทงทะลุตาถึงหัวใจ

ฉันไม่เคยลืมมันเลยนานมาก 

 

ฉันไม่รู้หรอกน้ำตาท่วมท้นยี่สิบปีผ่าน

ปริมาณน้อยกว่าหรือมากกว่ามหาสมุทร

เราต่างหม่นเศร้าในบทกวีรักที่โศกเศร้า

ยิ้มเหงาในสายลมบ่ายเยือกหนาว

 

เครื่องพยากรณ์ชีวิตยังไม่ถูกประดิษฐ์

ถ้ามองเห็นฉันคงเป็นฝ่ายจากไป

ดีกว่านั่งเถียงกันในบทกวีคนละบท

น้ำตาหยดร่วงสู่ท้องทะเลสีน้ำเงิน

 

กวีรักของเราน้ำกับฟ้าคงหัวเราะเยาะ

สองหนุ่มสาวเขียนบทกวีหาความรัก

กี่ครั้งที่เราผิดหวัง กี่ครั้งเราโศกเศร้า

คลื่นและลมมิเคยอนาทรหรอก

 

รอยยิ้มวันแรกเจอไม่เคยพบอีกเลย

คิดแล้วใจหายในคืนวันล่วงมา

รอยยิ้มประทับใจ ดวงตาที่สื่อหมาย

โบกบินหายไปในคืนวันเก่าก่อน

 

ฉันต้องสารภาพที่ผิดสัญญา

วิมานรักได้กลายเป็นอื่นแล้วหรือ

ยี่สิบปีมันมากพอให้ประจันหน้าภาพฝัน

เสียงร้องไห้ทะลุแผ่นกระดาษยามขีดเขียน

 

 

ฉันอยากบอกเธอ

รอให้โศกเศร้ายุติลงที่ชายฝั่งข้างหน้า

ณ ขอบโค้งฟ้าที่มีคำว่ารักเดินทาง

เรือรักแล่นในทะเลชะตากว้างสุดตา

กี่ครั้งที่ถูกพายุร้ายกระหน่ำเราสอง

ความรักอาจเป็นเพียงกวีเศร้าบทหนึ่ง  

ทั้ง ๆ เราสองคนช่วยกันประดิษฐ์ถ้อยคำรัก.

 

.....................................................

อนุสรณ์ มาราสา

 

 

Link ที่เกี่ยวข้อง 

 

          “บางกอกไลฟ์นิวส์” เปิดรับ “เรื่องสั้น” และ “บทกวี” 

 

          วรรณกรรมออนไลน์