เรื่องสั้น : ธิดากษัตริย์ : ฉมังฉาย

เรื่องสั้น : ธิดากษัตริย์ : ฉมังฉาย

 

            อินบ็อกเตือนมาว่ามีข้อความใหม่  เหลือบดูคำเตือนแต่ยังไม่กดเข้าไปอ่าน หล่อนกับผมสนิทสนมกันไม่เท่าไหร่ ผมเคยไปเป็นเอ็นจีโอในพื้นที่ใกล้ ๆ โรงเรียนสามีหล่อน แต่พอนึกได้ว่าไม่ได้คุยกันนานเกือบครึ่งปีแล้วหล่อนต้องธุระสำคัญแน่ ๆ ถึงได้ทักมา ในกล่องข้อความหล่อนต้องการให้ผมตัดต่อภาพด้วยโปรแกรมโฟโตชอป อยากได้ภาพคู่ของหล่อนกับสามีนั่งอยู่เบื้องหน้ากษัตริย์พระองค์หนึ่งของกรุงสุโขทัย หล่อนถามราคา และกำชับว่าห้ามคิดแพง งานโฟโตชอปเป็นเรื่องกล้วย ๆ ผมสามารถช่วยเหลือเพื่อนฝูงโดยเอาสักบาทก็ยังได้ และผมก็ตอบหล่อนไปอย่างนั้น จากนั้นให้หล่อนส่งภาพที่จะต้องใช้ตัดต่อมาให้

            พูดเรื่องการตัดต่อภาพจบ หล่อนตัดสินใจเล่าเรื่องปัญหาต้นตอของความบาดหมางอย่างหนักหน่วงในหนนี้ หล่อนว่าสามีหน่ายแหนงหล่อนสุด ๆ ทำหน้าบึ้งหน้าง้ำงอมาเป็นสัปดาห์แล้ว ถามอะไรก็ไม่ตอบ จนกระทั่งหล่อนจนปัญญาที่จะแก้ไข หล่อนเห็นว่าครอบครัวผมอบอุ่น จึงถามผมว่าปัญหาของหล่อนนอกจากจะใช้ภาพตัดต่อนั่นแล้ว ยังสามารถปรับปรุงตัวโดยวิธีการปรับความเข้าใจได้หรือไม่ ผมพอจะทราบว่าทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกันมานานแล้ว หล่อนเป็นคนมีอีโก้สูงมาก สามีเป็นครู ติดนิสัยขี้สอนกลับมาบ้านด้วย หล่อนแทบไม่ยอมเขา เพราะที่ผ่านมาหล่อนคิดว่าในฐานะนักเขียน หล่อนมีปัญญามากกว่าเขา จึงคิดเป็นผู้นำทางความคิดเสมอมา ที่หล่อนแน่ใจแบบนั้น เพราะงานเขียนของหล่อนได้รับรางวัลเยอะมาก   ต่อเรื่องนี้ผมเคยบอกไปสองครั้งแล้ว ถ้าจำไม่ผิด และทุกครั้งหล่อนก็ไม่เคยเห็นด้วยหนนี้ผมก็ยังยืนยันเหมือนเก่า คือว่าให้หล่อนเลือกวิธีการถอยเพื่อให้เขาเป็นคนก้าวนำ โดยหล่อนต้องทำใจให้ได้ว่าหากเขานำผิดทางหรือเกิดความผิดพลาดขึ้น หล่อนก็ต้องน้อมรับความเสียหายนั้นร่วมกับเขาอย่างเต็มใจ ทำแบบนี้บ่อย ๆ  สามีหล่อนก็จะได้สติเอง แล้วทุกอย่างก็จะกลับเข้ามาสู่การปรึกษาหารือกันอย่างราบรื่นและมีความสุข เรื่องการยอมกันนั้น จริงแล้ว ผมก็อยากบอกกับสามีของหล่อนด้วย แต่โอกาสนี้ไม่เอื้ออำนวย หากเราถือหลักเอาตามหมู่อย่างที่ครูบาอาจารย์ทางธรรมสั่งสอนมา คือเอาตามเสียงส่วนมาก หรือเอาตามอีกฝ่ายหากมีความเห็นไม่ตรงกัน ความร้อนรนหรือความทุกข์ใจระหว่างสามีภรรยาไม่เกิดขึ้นแน่ นอกจากปัญหาเรื่องอัตตามานะของหล่อนที่สูงปรี้ดทะลุเพดานแล้ว ปัญหาอีกอย่างหนึ่ง ผมมองเห็น แต่ผมไม่พูดกับหล่อนหรอก หล่อนอายุหกสิบต้น ๆ สามียังไม่ถึงห้าสิบเลย แน่นอนผู้ชายวัยขนาดนี้ เรื่องบนเตียงยังไม่ลดราวาศอกหรอก หากเทียบกับสังขารของหล่อน เอาเป็นว่าเรื่องบนเตียงให้พวกเขาแก้ไขไปตามเหตุและปัจจัยก็แล้วกัน ผมไม่ก้าวก่ายล่วงล้ำ หลังจากแนะนำจบ หล่อนกดส่งสติ๊กเกอร์ใบหน้าหัวเราะน้ำตาร่วงมา

            เรื่องการตัดต่อรูปภาพของพวกเขา โดยมีกษัตริย์พระองค์หนึ่งของอาณาจักรสุโขทัยเป็นพื้นหลัง มีที่มาอย่างนี้ หล่อนเล่าว่า หล่อนเอาปัญหาความร้าวฉานในครอบครัวไปปรึกษาหมอดู แม่หมอตรวจตราดวงชะตาแล้วพบว่า อดีตชาติหล่อนเคยเป็นธิดาของกษัตริย์พระองค์ดังกล่าว ดังนั้น ปัญหาสามีไม่ยอมลงให้แก่หล่อน แก้ไขโดยไม่ยากเลย คือให้พวกเขาไปยืนถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์ของกษัตริย์ และอัดใส่กรอบติดข้างฝาบ้าน เมื่อสามีเข้าบ้านมา เขาจะได้หวาดหวั่นหรือเกรงใจกษัตริย์ จะได้มีสติระลึกได้ว่า เขาไม่ควรล่วงเกินภรรยา ซึ่งเป็นถึงพระธิดากษัตริย์ในอดีตชาติและในฐานะลูกเขยหากเขากระทำไม่บังควร มันก็จะกระทบต่อพระเกียรติของพระองค์ด้วย หล่อนเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเขา เขาไม่พูดอะไรมาก ได้แต่ยิ้มตรงมุมปาก  แต่ด้วยว่าบ้านของพวกเขาอยู่ไกลจากจังหวัดสุโขทัย จึงไม่ได้เดินทางไปถ่ายภาพจริง หล่อนค้นภาพให้อินเตอร์เน็ต โหลดภาพกษัตริย์พระองค์นั้นส่งมาให้ผม พร้อมกับภาพคู่ของหล่อนกับสามี อันที่จริงเรื่องนี้มันแก้ปัญหาไม่ตรงจุดหรอก แต่ผมก็ไม่พูดอะไรมาก ทำตามที่เจ้าตัวต้องการก็พอ

            ไม่ถึงสองวันผมก็ตัดต่อภาพเสร็จ ทำเป็นสองเวอร์ชั่นให้เลือก หล่อนชอบทั้งสองเวอร์ชั่น จึงขอปริ๊นท์ใส่กรอบทั้งหมดเลย หล่อนพูดอย่างเกรงใจว่า รบกวนผมมาก แถมผมไม่คิดเงินอีกต่างหาก ผมยินดีอยู่แล้วอย่างที่พูดข้างต้นนั้นแหละ แต่มาถึงตอนนี้อดจะกระเซ้าหล่อนไม่ได้ เลยพูดไปว่า หากการแก้ปัญหาโดยวิธีนี้ได้จริง ผมจะคิดเงินนะ ผมจะเอาหนึ่งพันบาท หล่อนหัวเราะ (พิมพ์คำว่า 5555 มา) แล้วพิมพ์ตอบมาว่า เอาไปเลยสองพันบาท ถ้าสามีของหล่อนยอมอ่อนข้อให้  ผมไม่ได้ฝันหวานถึงเงินก้อนนั้นหรอก ผมฝันหวานถึงความสุขที่จะบังเกิดขึ้นกับครอบครัวของหล่อนต่างหาก แต่ความฝันกับความจริง ส่วนใหญ่มันคนละเรื่องกัน

            หายไปสามวัน หล่อนอินบ็อกแจ้งว่า พฤติกรรมของสามีเปลี่ยนไป ทุกครั้งที่เดินเข้าบ้าน เขาจะมองกรอบรูปนั้น แววตาความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเกรงใจกษัตริย์ในรูปภาพมาก ๆ เรื่องนี้หล่อนไม่ได้เข้าใจหรือเดาเองเอง คำพูดคำจาของเขาในช่วงนี้ที่เปลี่ยนไปเป็นสุภาพนอบน้อมเป็นประจักษ์พยาน ก่อนจบการสนทนากับหล่อน หล่อนทิ้งท้ายว่า สงสัยจะต้องเสียเงินสองพันแน่นอน ดี ผมดีใจด้วย หล่อนย้ำเสมอว่า เพราะหล่อนรักเขามาก หล่อนจึงแคร์ความรู้สึกของเขามาก เมื่อหล่อนได้ความรักคืนมา มันมีค่ายิ่งกว่าได้สิ่งใดในโลก

            หายไปอีกสองสัปดาห์ ผมพยายามส่องเฟซบุ๊กของหล่อน ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ  ปกติหล่อนใช้เฟซบุ๊กน้อยอยู่แล้ว ช่วงนี้จึงน้อยลงไปอีก มีเพียงสเตตัสเดียวเมื่อสองวันที่แล้ว หล่อนโพสต์วิจารณ์สั้น ๆ เรื่องเตียงหักของดาราตลกชายกับนักร้องสาวคู่หนึ่ง ผมรอฟังข่าวจากหล่อนต่อไปอีกสามสี่วัน หล่อนก็ยังเงียบอยู่ ผมไม่ทักแชทไป แต่แอบดีใจอยู่ลึก ๆ ความคิดของผมผิดหมดเลย ที่ไม่เห็นด้วยกับการเอาความเป็นกษัตริย์ เอาความเป็นธิดากษัตริย์เข้าข่มขวัญสามี เอาเถอะในเมื่อหล่อนมีความสุขแล้ว ในเมื่อความสงบกลับคืนมาแล้ว ผมต้องยินดีกับพวกเขา

            ถัดจากนั้นได้สามวัน หล่อนทักแชทมา ผมรีบอ่านทันที เพราะความกระหายใคร่ทราบข่าวคราวของหล่อน อ่านข้อความยาวเหยียด พลอยให้จิตหม่นกับหล่อนไปด้วย หล่อนรำพันมาว่า สามีของหล่อนกลับไปมีนิสัยเหมือนเดิมอีกแล้ว และที่ร้ายกาจกว่านั้น เขากระชากภาพสองภาพนั้นลงจากผนังบ้านอย่างเสียจริต แล้วด่าทอหล่อนว่ากระทำอย่างสิ้นคิด ทั้งที่เป็นนักคิดนักเขียนดัง เขาหายไปจากบ้านสามคืน สืบว่าไปนอนที่โรงเรียน และเขาก็ยังยืนยันจะนอนที่บ้านพักครูที่โรงเรียนอีกพักใหญ่ หล่อนเหลืออดพูดท้าทายเขาว่า หากไม่คิดจะมานอนบ้านในคืนนี้ ก็เชิญตามสบาย อย่าได้เข้ามาบ้านอีกเลย

            ผมไม่รู้ว่าหลังจากนี้เป็นอย่างไร ผ่านไปอีกสามเดือนเธอก็ไม่ส่งข่าวมา วันหนึ่งผมลองทักแชทไปหาหล่อน เงียบ ไม่มีการเปิดอ่าน หรือเขียนตอบมาใด ๆ เฟซบุ๊กของหล่อนก็หยุดนิ่ง  ผมพักเรื่องของหล่อนไว้  เพราะผมมีงานที่ต้องทำอีกมาก

            เข้าสู่เดือนที่ห้าหล่อนโพสต์ภาพน้ำท่วม หล่อนกับสามีและจิตอาสาคนอื่นออกแจกของผู้ประสบภัย สีหน้าระรื่นนัก แต่แคปชั่นยังเห็นความมีอีโก้ของหล่อนชัดเจน ทำกิจกรรมร่วมกันแบบนี้แสดงว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวดีแล้ว ผมกดเครื่องหมายหัวใจสีแดงให้สเตตัสนั้น

            หลังจากโพสต์นั้นหนึ่งสัปดาห์หล่อนแชทมาหาผม เขียนมาสั้น ๆ ว่า ถึงรักมากแค่ไหน เมื่อมันสุดทางแล้ว ก็ต้องจบกัน หล่อนเพิ่งไปจดทะเบียนหย่ากับเขาเมื่อวานนี้เอง และอีกสองสามวันจะเดินทางออกจากพะเยากลับบ้านเกิดที่ชุมพร ไปอยู่กับพ่อแม่สักพัก ค่อยวางแผนใหม่ ผมไม่แสดงความเห็นอะไร ตามมารยาทต้องเขียนว่า เสียใจด้วย ขอให้เดินทางปลอดภัย แต่ผมเลือกที่จะเขียนตามจริงว่า ดีใจด้วยกับชีวิตใหม่ ขอให้เดินทางปลอดภัย

 

                                    .....................................................................

 

 

Link ที่เกี่ยวข้อง      

 

 

           “บางกอกไลฟ์นิวส์” เปิดรับ “เรื่องสั้น” และ “บทกวี”  

  

           วรรณกรรมออนไลน์