บทกวี : บทบันทึกบนเส้นทางผ้าขาวที่ทอดยาวไปจนถึงโลกหน้า : สุไฮมี.

บทกวี : บทบันทึกบนเส้นทางผ้าขาวที่ทอดยาวไปจนถึงโลกหน้า : สุไฮมี.

 

            เหมือนหนอนเน่าแมลงวันบนผ้าขาว,

            ข้าเกลือกกลิ้งไปบนถนนหนทางที่ผู้คนแห่งยุคสมัยมองว่ามันคือเส้นทางแห่งความดีงาม สูงส่งคุณธรรม บูชาจริยธรรม โอบมอบความอารี มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกทั้งผอง รวมไปถึงสสารและพลังงานไร้ชีวิต

 

            หากแต่ข้าเป็นเพียงคนดีฝึกหัด,

            รับคำสั่งจากผู้นำขบวนอันสูงส่งให้ต้องคืบคลานกระเสือกกระสนถูไถลแผ่นอกอันลีบบางไปตามเส้นทางผ้าขาวที่เต็มไปด้วยเสี้ยวเศษแก้วแตกกระจายอย่างเจ็บปวดทุรนทุราย,

 

            บาดแผลบนแผ่นอกของข้าเป็นรอยบาดกรีดคมลึกจนเหวอะหวะ กลิ่นหื่นของเนื้อสดกับคาวเลือดคละคลุ้งตีเข้าจมูกจนข้าอยากสำรอกอยู่ตลอดเวลา,

            “ความอดทนเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา” – ผู้นำขบวนบอกมาอย่างนั้น

 

            แม้ปากท้องหิวโหย บาดแผลเหวอะหวะ แต่ด้วยความหวังว่าสักวันจะหยัดยืนลุกขึ้นเดินด้วยสองเท้าของตัวเอง

            มันจึงเป็นธรรมดาที่ทุกคนจะฝันถึงรองเท้าสักคู่กับอาหารสักมื้อขณะผ่านเคลื่อนไปตามหนทางรกชัฏวิบากหนาม,

            “ทุกคนต้องเผชิญกับความยากลำบากในช่วงแรกเริ่ม” – ผู้นำขบวนว่ามาอย่างนั้น

 

            เลือดไหลพรากเป็นทางยาวตามเส้นทางที่ข้าคลานเคลื่อนผ่าน นั่นดูไม่ต่างจากรอยเลื้อยของงูในทะเลทรายร้อนฉ่า

            ผู้นำขบวนกับรองเท้าแก้วแวววาวย่ำเหยียบแผ่วถางไปบนก้อนกรวดเรียวแหลม,

            “ตามข้ามา ทุกความรู้สึกและความต้องการในโลกนี้ล้วนแล้วแต่มายา” – ผู้นำขบวนกล่าวมาอย่างนั้น

 

            ข้าพยายามคลานตัวผ่านความแหลมคมสารพัด มีบางครั้งที่เนื้อส่วนอกฉีกขาดเผยให้เห็นกระดูกซี่โครง

            กัดฟันจนแตกหักเป็นเสี่ยง ๆ ความอดทนเป็นส่วนหนึ่งของความศรัทธา,

            พยายามอย่าให้หัวใจโดนขูดข่วนจนน่ารังเกียจก็พอ แล้วสักวันพระเจ้าจะตอบแทนความผาสุกพร้อมอาหารสักมื้อหรือรองเท้าดาด ๆ สักคู่ให้ข้าได้ลุกขึ้นเดิน

            ..

            ของขวัญจากพระผู้เป็นเจ้าจะถูกส่งลงมาเพื่อทุกคนโดยผ่านผู้นำขบวน,

            ไม่ได้มีเพียงข้าที่เฝ้ารอโอกาสอันศักดิ์สิทธิ์นั่น หากยังมีผู้คนนับร้อยนับพันไต่คลานยั้วเยี้ยเหมือนกองทัพหนอนเน่าแมลงวันบนผืนผ้าสีขาวบริสุทธิ์

 

            วันหนึ่ง, รางวัลสำหรับข้าถูกส่งลงมาจากฟากฟ้าของพระผู้เป็นเจ้า ผู้นำขบวนเดินตรงมายังข้า น้อมตัวลงต่ำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทีสงบเยือกเย็น แล้วพูดกับข้าว่า “รางวัลของเจ้ามาถึงแล้ว เจ้านักศรัทธาฝึกหัด”

 

            ข้ายิ้มละมุน ยกสองมือขึ้นแบราวกับขอทานปรารถนาเศษอาหารข้างถังขยะ ดวงตาพร่าเลือน อ่อนเพลียและหิวโซ

 

            “และรางวัลของเจ้า จะถูกตอบแทนในโลกหน้า” นั่นเป็นคำพูดที่ทำให้ข้าสะดุ้งและหดหู่จนแหงนหงายสบตากับผู้นำขบวน

 

            นับเป็นครั้งแรกที่ข้าเหลือบมองเห็นแผ่นหนังบนอกของเขา มันกลวงโหว่งเป็นโพรงใหญ่จนข้ามองไม่เห็นหัวใจแม้สักเศษเสี้ยวเดียว,

            มันดูคล้ายหลุมดำที่ปราศจากขอบฟ้าเหตุการณ์เสียมากกว่า

 

            “ตามข้ามา” ผู้นำขบวนเชิญชวน

            ...

            ข้าหลุบตาลงต่ำ เพ่งมองแผ่นอกของตัวเอง

            ถึงจะมีรอยถลอกยับเยิน ทว่าหัวใจยังปลอดภัยดี แต่ท้องร้องโกรกกรากจนไส้แทบขาด,

            เมียงมองไปบนหนทางอีกครั้ง ข้างหน้ามีทางแยก แต่ปราศจากผืนผ้าสีขาว

            และบางทีอีกทางอาจตอบแทนปากท้องของข้าก่อนจะถึงโลกหน้าด้วยซ้ำ !

 

            บัดซบสิ้นดี !!, กระเสือกกระสนไปซะ !!!

            ....

 

            ........................................................

            สุไฮมี.

 

 

 

Link ที่เกี่ยวข้อง  

 

          “บางกอกไลฟ์นิวส์” เปิดรับ “เรื่องสั้น” และ “บทกวี”  

  

           วรรณกรรมออนไลน์