เรื่องสั้น : สภาหนูโต๊ะกลมเขต 26 : ดารัช
เรื่องสั้น : สภาหนูโต๊ะกลมเขต 26 : ดารัช
“ฯพณฯ ท่านหนูผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ณ ที่ประชุมอันศักดิ์สิทธ์แห่งนี้ ข้าพเจ้าในนามตัวแทนสภาหนูโต๊ะกลมทั้งสิบสองมีความยินดีที่ในที่สุดพวกเราทั้งหมดได้มารวมกัน เพื่อร่วมออกความเห็นในฐานะสภาที่ปรึกษาของเขต 26 ซึ่งทุกท่านล้วนทราบโดยทั่วกันในแง่ของความคิดที่น้อมรับแนวทางอารยะ พัฒนาตนดังเหล่าชุมชนหนูผู้เจริญแล้ว” เสียงก้องกังวานดังมาจากหนูหริ่งหางยาวที่ยืนสองขาบนเก้าอี้ แววตาเต็มตื้นด้วยความปีติเมื่อเห็นสมาชิกในที่ชุมนุมพร้อมหน้า
ในรูหนูโอ่โถงที่อาศัยความอุตสาหะของหนูจากรุ่นสู่รุ่นในการขุดและขยายพื้นที่ ยามนี้ หนูต่างเผ่าพันธุ์สิบสองตัวรายล้อมกันรอบโต๊ะหินกลมเกลี้ยง ตรงกลางสลักลายหนูในกรอบวงกลมวาดลวดลายสวยงาม รอบโต๊ะกลมมีเก้าอี้ไม้สิบสองตัว เก้าอี้แต่ละตัวสลักเสลาอย่างประณีต มีชื่อตำแหน่งสิบสองตำแหน่งตั้งตามชื่ออัศวินทั้งสิบสองของกษัตริย์อาเธอร์ ชายผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของเผ่ามนุษย์ เก้าอี้ของหนูหริ่งหางยาวที่นำการประชุมมีอักษรสลัก ‘เกเรนท์’ผู้กล้าหาญ
“ก่อนจะเริ่มการประชุม เรามาขับขานลำนำโต๊ะกลมอันเป็นธรรมเนียมของเรากันเถิด” หนูหริ่งหางยาวตำแหน่งเกเรนท์เชิญชวน สมาชิกหนูที่เหลือต่างพากันยืนสองขาบนเก้าอี้ ขาหน้าทั้งสองประสานไว้ตรงหน้าอก พวกหนูนั้นร้องเพลงได้ และรักการร้องเพลงเสียด้วย เพียงแต่เสียงร้องนั้นเป็นเสียงซุปเปอร์โซนิคที่สูงและถี่รัว ทำให้มนุษย์ไม่ได้ยินเสียงของพวกมัน
“เสรีภาพเริ่มจากโต๊ะกลม
ไม่มีซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง เพราะหนูทุกตัวคือ ซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง
ทุกเสียงต้องได้รับความเคารพ
ไม่ว่าเสียงนั้นจะเบาแค่ไหน”
เกิดความเงียบแขวนค้างในอากาศชั่วครู่ แล้วเกเรนท์ก็กล่าวหลังหนูทั้งสิบสองทยอยทรุดตัวนั่ง “วาระการประชุมในวันนี้ ฯพณฯ ท่านหนูผู้มีเกียรติทั้งหลายคงทราบข่าวที่กลุ่มหนูนอร์เวย์จากชุมชนท่อระบายน้ำเริ่มขยายอาณาบริเวณปกครอง และเข้าโจมตีชุมนุมหนูที่ไร้อารยะกันแล้ว”
“การคุกคามของกลุ่มหนูนอร์เวย์ใกล้เข้ามาทุกที” หนูนาสีน้ำตาลตำแหน่ง ‘ทริสทัน’รายงานด้วยน้ำเสียงกังวล “ล่าสุดหน่วยลาดตระเวนของเราที่นำทีมโดยตัวข้าพเจ้าเองพบเศษหญ้าและกระดาษหนังสือพิมพ์ไม่ไกลจากเขต 26 ของเรานัก เกรงว่าถ้ากลุ่มหนูนอร์เวย์ตัดสินว่าชุมชนหนูของเราเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ไร้อารยะละก็...” คราวนี้ทริสทันส่งเสียงจี๊ดแหลม ๆ ด้วยความหวาดกลัว
“เรื่องนั้นข้าพเจ้าคิดว่า ฯพณฯ ท่านทั้งหลายหาจำเป็นต้องวิตกไม่” หนูพุกสีเข้มตำแหน่ง ‘กาลาฮัด’ กล่าวด้วยเสียงที่ฟังคล้ายเสียงขู่อันเป็นสำเนียงเฉพาะของเผ่าพันธุ์ “เพราะวิธีที่จะป้องกันการรุกราน ไม่สิ วิธีที่เขต 26 ของเราจะเข้าไปรวมกับกลุ่มหนูผู้เจริญแล้วทั้งหลาย นั่นคือการประกาศใช้กฎแห่งอารยะแก่หนูทุกตัวในเขต 26”
หนูหริ่งหางยาวผู้เปิดประชุมลากเสียงจี๊ดยาวๆ ด้วยความลำบากใจ “ที่ท่านกาลาฮัดกล่าวมาก็เป็นวิธีที่ดี แต่สภาหนูโต๊ะกลมของเรามีมติสำคัญคือการเคารพความคิดเห็นของหนูทุกตัว...”
“แน่นอนว่าเราเคารพความคิดเห็นของหนูทุกตัว” เสียงอันดังของหนูพุกข่มเสียงจิ๊ด ๆ ของเกเรนท์ กาลาฮัดกวาดตามองหนูอีกสิบเอ็ดตัวในที่ประชุม “เราตกลงกันว่าจะเคารพความคิดเห็นของหนู ‘ทุกตัว’ใน ‘ที่ประชุมแห่งนี้’ เราทั้งสิบสองตัวต่างได้รับเลือกจากหนูในเขต 26 ว่าเป็นกลุ่มหนูที่สามารถเป็นตัวแทนของพวกเขาได้ เมื่อเกิดวิกฤต สิ่งที่พวกเราต้องทำคือการตัดสินใจให้ถูกต้องเพื่อผลประโยชน์ของชุมชนหนูเขต 26”
“แต่มันจะเป็นการตัดสินใจให้ถูกต้องเพื่อผลประโยชน์ของชุมชนหนูเขต 26 ตามที่ท่านว่าได้อย่างไรหากเราไม่ฟังเสียงประชาหนู...” เกเรนท์ผู้รักสันติแย้งเสียงอ่อน
“ข้าพเจ้าไม่ได้พูดว่าจะไม่รับฟังความคิดเห็นของเหล่าหนู” กาลาฮัดพูดติดรำคาญ “ข้าก็ฟังพวกท่านทุกตัวเสมอ”
“เอาเถอะค่ะ เรามาคุยกันเรื่องภัยคุกคามจากหนูนอร์เวย์กันก่อนดีกว่า” หนูจี๊ดสาวร่างเล็กกล่าว หางที่ยาวกว่าหัวและตัวรวมกันส่ายไปมาอย่างประเมินสถานการณ์ “การประกาศใช้กฎอารยะแก่หนูในเขตของเราถือว่าน่าสนใจ ส่วนความเห็นของท่านเกเรนท์หนูหริ่งก็สมควรรับฟัง แต่ถ้าจะให้ที่ประชุมมีความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งคงต้องขอลองฟังกฎอารยะที่ท่านหนูพุกกาลาฮัดจะเสนอเสียก่อน”
ความคิดเห็นของหนูจี๊ดสาวทำให้เหล่าหนูโต๊ะกลมเพ่งความสนใจไปยังหนูพุกตัวต้นคิด และนั่นก็เข้าทางหนูพุกกาลาฮัดอยู่แล้ว เขาลุกขึ้นยืนสี่ขาบนเก้าอี้ เสริมให้ร่างใหญ่และเสียงกังวานติดจะเป็นเสียงขู่ยิ่งโดดเด่นและดึงดูดสายตาเข้าไปอีก
เจ้าของตำแหน่งกาลาฮัดกระแอม ก่อนจะร่ายกฎแห่งอารยะที่เขาเตรียมมานำเสนอ
“กฎแห่งอารยะของหนูเขต 26 คือหนูทุกตัวมีสิทธิเสรีภาพเสมอกัน ความนี้ให้รวมไปถึงประชาหนูนอกเขตที่ 26 ในกรณีที่สิทธิเสรีภาพของหนูเหล่านั้นมิได้ขัดต่อสิทธิ์ของหนูเขต 26”
มันหยุดไปครู่หนึ่ง “นอกจากนี้ ไร่ข้าวโพด ยุ้งข้าว ไร่นา และบ้านเรือนในเขต 26 เป็นสิทธิ์ขาดสำหรับหนูในเขตที่จะแบ่งปันกันตามหลักทุนนิยมประชาธิปไตย” หนูพุกกล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังสมาชิกโต๊ะกลมอีกสิบเอ็ดตัว “นี่คือหลักการพื้นฐาน ในส่วนของข้อบังคับนั้น...”
“ช้าก่อน ฯพณฯ ท่านกาลาฮัด” หนูนาทริสทันขัดขึ้น “ดูเหมือนหลักการพื้นฐานของกฏอารยะจะเน้นเสรีภาพให้แก่หนูในเขตที่ยี่สิบหกเท่านั้น” เขาว่า “แต่หลักการของพวกเราสภาโต๊ะกลมคือสิทธิเสรีภาพเป็นของหนูทุกผู้...”
“พูดแบบนี้มันก็อุดมคติเกินไปนะคะ” หนูจี๊ดสาวสวยตำแหน่ง ‘เคย์’ไม่เห็นด้วย “การที่เราให้สิทธิเสรีแก่หนูในเขตของตัวเองก่อนเป็นเรื่องจำเป็นนะคะ ถ้าเราให้ความเท่าเทียมกันแก่หนูทุกตัวในโลก ลองนึกดูเอาเถอะค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้น... จะมีหนูต่างถิ่นมากมายเข้ามาแย่งชิงพื้นที่หากินของพวกเราเชียวนะคะ” เธอพูดพลางกระโดดเหยงไปมาบนเก้าอี้พลาง
“แบบนี้เราจะยืดอกพูดถึงประชาธิปไตยได้ยังไง” ทริสทันยังคงเห็นต่าง “นี่ไม่นับประชากรหนูเขต 26 ตัวอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของหลักการนี้นะ ข้าพเจ้ากำลังพูดถึงพวกเราทั้งสิบสองตัวที่ได้ศึกษาหลักการทั้งฟาสซิสต์ คอมมิวนิสต์ ไล่มาจนถึงเสรีนิยม และเห็นพ้องกันว่าประชาธิปไตยเป็นแบบจำลองทางการเมืองที่ยืดหยุ่น สามารถปรับใช้ได้กับยุคสมัยต่าง ๆ เท่าที่ข้าพเจ้าฟังทั้ง ฯพณฯ ท่านกาลาฮัด และ ฯพณฯ เคย์ ดูเหมือนที่พวกท่านกำลังจะบอกคือสิทธิเสรีภาพมีในหนูเขต 26 และกลุ่มหนูที่มีอารยธรรมเท่านั้น เมื่อหนูในเขตอื่นเรียกร้องสิทธิ์ด้วยจะกลายเป็นเรื่องที่ต้องปราบปราม”
ห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบหลังคำพูดอันเผ็ดร้อนของหนูนาหนุ่มสีน้ำตาล หนูทั้งสิบสองตัวตกอยู่ในภวังค์คิด
“ถึงยังไงฉันก็ยังคงอยากฟังข้อบังคับของกฎแห่งอารยะที่ท่านกาลาฮัดตั้งใจจะนำเสนอค่ะ” หนูจิ๊ดเคย์ตัดสินใจ “ถ้าที่ประชุมเห็นด้วย”
หนูเจ็ดตัวเห็นด้วย อีกห้าตัวไม่เห็นด้วย เกเรนท์และทริสทันอยู่ในกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย และท่าทีแข็งกร้าวชัดเจนของหนูทั้งสองก็ทำให้หนูอีกสามตัวในกลุ่มไม่เห็นด้วยลังเลที่จะฟังข้อบังคับ
“ถึงอย่างไรเสียงข้างมากที่ว่าจะลองฟังกฎดู ก็ชนะล่ะนะ” แฮมสเตอร์ตัวป้อมที่อยู่ฝ่ายเห็นด้วยกล่าว แล้วพยักหน้าให้หนูพุกกาลาฮัดพูดต่อ
“เอาล่ะ ข้อบังคับที่ว่าประกอบด้วย 3 ข้อ
1) ประชากรหนูในเขต 26 ทุกตัวต้องเสียภาษีข้าวโพดให้แก่กองคลังที่กลุ่มหนูโต๊ะกลมเป็นผู้ดูแล
2) สภาหนูโต๊ะกลมมีอำนาจออกกฎหมายใด ๆ ก็ได้ หากประชากรหนูเขต 26 คัดค้านกฎหมายดังกล่าวสามารถร่วมลงชื่อเพื่อขอถอดถอนกฎ แต่ผู้พิจารณาการลงชื่อถอดถอนว่าผ่านการอนุมัติให้นำเสนอในที่ประชุมสภาหนูโต๊ะกลมหรือไม่คือตัวแทนที่สภาหนูโต๊ะกลมเป็นผู้แต่งตั้ง
3) สภาหนูโต๊ะกลมมีนโยบายมองหาพันธมิตรที่มีแนวคิดอารยะ และยินดีต้อนรับพันธมิตรสู่ที่ประชุมโต๊ะกลม พันธมิตรของสภาหนูโต๊ะกลมสามารถแลกสิ่งของจากถิ่นของตนกับทรัพย์สินในท้องที่เขต 26 ได้ โดยต้องผ่านความเห็นชอบของหนูในสภา”
“ขอแสดงความเห็นอะไรนิดเถอะนะ สมาชิกสภาโต๊ะกลมผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย” แฮมสเตอร์ชราตัวสีน้ำตาลแซมขาวกล่าวพลางยกขาหน้าขึ้น เขาอยู่ในกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาประกาศใช้กฎแห่งอารยะ “ดูเหมือนข้อบังคับทั้งสามข้อจะเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มสภาหนูโต๊ะกลมมากเกินไป ข้าพเจ้าไม่อาจยอมรับได้ที่แนวคิดประชาธิปไตยที่พวกเราทั้งสิบสองตัวเชื่อถือต้องกลายมาเป็นการยึดถือเสียงของกลุ่มบางกลุ่ม ซึ่งถ้าจะให้เรียกก็คือจะกลายเป็นคณาธิปไตย เมล็ดพันธุ์ของการปกครองควรเพาะปลูกในดินที่อุดมสมบูรณ์ แต่ข้อบังคับที่ท่านกาลาฮัดเสนอเปรียบเหมือนกับการทำลายผืนดิน จนทำให้ต้นประชาธิปไตยเติบโตบิดเบี้ยวแคระเกร็น ข้าพเจ้าเรียกร้องต่อบรรดาหนูโต๊ะกลมให้ร่วมร้องลำนำโต๊ะกลมของพวกเรา เพื่อย้อนกลับไปมองสิ่งที่พวกเราเชื่อถือว่าจริงๆแล้วมันควรเป็นไปในรูปแบบใด ขอให้ทุกท่านยืนบนเก้าอี้เถิด และร่วมกัน...”
เสียงชรานั้นเงียบหายไปฉับพลัน พร้อม ๆ กับตัวผู้พูด หนูทุกตัวที่เหลือตะลึงตาค้างเมื่อเห็นแมวอ้วนสีขาวตัวหนึ่งเดินมาด้านหลังท่านผู้เฒ่าแฮมสเตอร์สีน้ำตาล และงับหนูเฒ่าเข้าไปทั้งตัวเสียดื้อ ๆ !
ความตกใจแปรเป็นความโกลาหล หนูจี๊ดเคย์กระโดดโหยง ใช้หางช่วยในการปีนป่ายหาที่หลบภัย หนูหริ่งหางยาวเกเรนท์เผชิญหน้ากับสัตว์ต่างพันธุ์ทั้งที่ขาทั้งสี่สั่นระริก หนูนาทริสทันวิ่งหนีจ้าละหวั่นไปบนโต๊ะกลม หนูบางตัวยังคงยืนตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ
มีเพียงหนูพุกตำแหน่งกาลาฮัดที่ค้อมศีรษะทักทายแมวอย่างสุภาพ
“นะ... นี่มันอะไรกันจี๊ด” หนูหริ่งเกเรนท์ถามเสียงสั่น เขาหลุดสำเนียงบ้านเกิดออกมาด้วยอารามตกใจ
“อ้อ... ข้าพเจ้าต้องขออภัยที่แนะนำเขาช้าเกินไป ท่านผู้นี้คือพันธมิตรที่มีแนวคิดอารยะ ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้ในข้อบังคับที่สาม... สภาหนูโต๊ะกลมยินดีต้อนรับพันธมิตรสู่ที่ประชุมโต๊ะกลม” หนูพุกตอบ “ข้าพเจ้ามีความเห็นว่าการที่เราจะผลักดันการใช้กฎอารยะและสร้างค่านิยมเสรีประชาธิปไตยในชุมชนหนูเขต 26 จะเป็นการดีไม่น้อยหากได้ฟังความเห็นของสัตว์ที่ใกล้ชิดมนุษย์ที่ยึดถือระบอบเสรี ซึ่งการที่ท่านแมวสีขาวให้ความสนใจการประชุมโต๊ะกลมของพวกเราก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี”
“ข้าพเจ้าขอบคุณที่สภาหนูมอบตำแหน่งสมาชิกสภาโต๊ะกลมให้นะเมี๊ยว” แมวสีขาวกล่าวพลางมองสมาชิกหนูด้วยสายตาหิวกระหาย
“เดี๋ยวก่อน รับเป็นสมาชิกอะไรกัน...” หนูนาทริสทันอุทาน “จะให้รับแมวมาเป็นสมาชิกเนี่ยนะ...”
“ถ้าจะว่ากันแล้วสมาชิกของสภาหนูโต๊ะกลมจะออกจากตำแหน่งและคัดเลือกสมาชิกตัวใหม่จากผู้ที่สมาชิกสภาตัวนั้นตั้งเป็นตัวแทน ในกรณีของท่านผู้เฒ่า ท่านไร้ญาติไร้บุตร ดังนั้นถ้าจะพออนุโลม เราสามารถมองได้ว่าการที่แมวจับท่านผู้เฒ่าแฮมสเตอร์กิน แปลว่าท่านแมวรับสิทธิ์การเป็นสมาชิกสภาโต๊ะกลมจากการตายของท่านผู้เฒ่า” หนูจี๊ดเคย์ที่สงบสติอารมณ์ได้แล้วเสนอความเห็น
“กฎหมายโต๊ะกลมบัญญัติไว้ยังไง” หนูนาทริสทันหันไปถามหนูท้องขาวร่างเพรียวที่รับหน้าที่เป็นฝ่ายกฎหมายของสภาหนูกลาย ๆ หนูท้องขาวรีบหยิบสรุปย่อกฎหมายที่ตัวเองบันทึกไว้มาไล่เปิดทีละหน้า แล้วส่ายหน้าน้อย ๆ “ไม่มีข้อห้ามครับ”
“ถ้าเช่นนั้นแมวสีขาวตัวนี้จะมีสิทธิ์ออกเสียงในฐานะสภาหนูโต๊ะกลม” กาลาฮัดสรุป
“ข้าพเจ้าขอนำเสนอกฎในที่ประชุมอย่างเร่งด่วนให้ทุกท่านพิจารณา ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ในการออกเสียงโดยเสรีของพวกเราต่อไป” เกเรนท์ผู้กล้าเสนอ “นั่นคือสมาชิกสภาหนูโต๊ะกลมทุกตัวต้องไม่กินสมาชิกโต๊ะกลมด้วยกันเอง”
สิบเอ็ดต่อหนึ่ง คะแนนโหวตเป็นเอกฉันท์ หนูสิบเอ็ดตัวเห็นพ้องกับกฎนี้โดยทั่วกัน หนูท้องขาวรีบบันทึกกฎหมายใหม่ที่เพิ่งประกาศใช้สด ๆ ร้อน ๆ ลงในสมุด
“เอาล่ะ ในเมื่อเราลงมติเรื่องกฎหมายไปเรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาว่ากันถึงประเด็นหลัก ๆ... อย่างเรื่องกฎที่ท่านกาลาฮัดเสนอ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วข้าพเจ้ายังคงเห็นต่าง...”
เสียงของหนูหริ่งหางยาวเงียบไปพร้อมกับร่างที่หายวับ มีเสียงเคี้ยวกรุบกรุบดังจากแมวสีขาว เมื่อสมาชิกหนูโต๊ะกลมที่เหลือจ้อง มันก็เลียปากแผล็บ
เสียงจี๊ดลากยาวด้วยความหวาดกลัวดังก้อง หนูท้องขาวฝ่ายกฎหมายรีบพลิกหาข้อกฎหมายที่จะเอาผิดได้
“เขาทำผิดกฎ เขากินพวกเราเข้าไปโดยกะทันหัน !” หนูนาทริสทันโวยวาย
แมวปฏิเสธทันที “ไม่นะข้าพเจ้าไม่ได้ทำผิดกฎอะไรเลยเมี๊ยว” มันว่า “กฎมีไว้ว่าสมาชิกสภาหนูโต๊ะกลมทุกตัวต้องไม่กินสมาชิกโต๊ะกลมด้วยกันเอง แต่คราวนี้ข้าพเจ้าไม่ได้กินหนูหริ่งนะ ข้าพเจ้าเพียงแค่หาวแล้วบังเอิญเขาถูกดูดเข้าปากจากแรงหาวของข้าพเจ้าเท่านั้น” มันกล่าว
“จะกินหรือจะหาว หนูหริ่งเกเรนท์ก็อยู่ในท้องของท่านไปแล้ว” หนูนาสีน้ำตาลโวย “มันไม่ถูกต้อง”
“แต่ไม่มีกฎหมายห้ามไว้นี่” แมวกล่าว
“จริงตามนั้น” หนูท้องขาวที่เปิดตำรากฎหมายดูอย่างละเอียดจนจบกล่าวด้วยน้ำเสียงระโหย “การกินหรือการบริโภค ตามพจนานุกรมหมายถึงการทำให้อาหารล่วงผ่านลำคอไปสู่กระเพาะอาหาร เช่น กินข้าว กินนม กินน้ำ ส่วนการหาว หมายถึงกิริยาที่อ้าปากกว้างสูดลมเข้าไปลึก ๆ แล้วระบายลมออกทางปากเมื่อเวลาง่วงนอนหรือเหนื่อยล้า ซึ่งถ้าจะว่ากันตามกิริยาอาการของแมวสีขาวเมื่อครู่ มีความใกล้เคียงกับการหาว ซึ่งยังไม่มีกฎว่าห้ามหาวในที่ประชุม”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาลงมติตั้งกฎห้ามหาวใกล้ ๆ สมาชิกตัวอื่นในที่ประชุม ที่จะทำให้ลมจากการหาวดูดสมาชิกอื่นเข้าปากผู้หาวได้” หนูนาทริสทันเสนอ
กฎหมายถูกแก้ราวกับของเด็กเล่น กระนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่ออุดช่องโหว่ที่จะกลายเป็นข้อแก้ตัวของผู้กระทำฉ้อฉลโดยอ้างข้าง ๆ คู ๆ จากช่องว่างทางที่ไม่ได้บัญญัติไว้โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมจริยธรรมใด ๆ
“เอาล่ะ ตอนนี้เราเสียเวลากันมามากแล้ว ข้าพเจ้าขอเสนอให้เราลงมติกันเสียทีในเรื่องการประกาศใช้กฎอารยะแก่หนูเขต 26” หนูพุกกล่าวด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิด “และเป็นที่แน่นอนว่าที่ประชุมสภาโต๊ะกลมของพวกเราเคารพเสียงข้างมากเสมอ”
หนูทุกตัวปรายตามองแมวสีขาวที่เลียริมฝีปากแผล็บอีกครั้ง แล้วยกมือลงมติอย่างพร้อมเพรียง เป็นเอกฉันท์ ท่ามกลางเสียงฮัมเพลงกังวานที่ดังมาจากแมวสีขาวผู้เป็นสมาชิกใหม่ของสภาหนูเขต 26
“เสรีภาพเริ่มจากโต๊ะกลม
ไม่มีซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง เพราะหนูทุกตัวคือ ซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง
ทุกเสียงต้องได้รับความเคารพ
ไม่ว่าเสียงนั้นจะเบาแค่ไหน”
................................................................
Link ที่เกี่ยวข้อง
“บางกอกไลฟ์นิวส์” เปิดรับ “เรื่องสั้น” และ “บทกวี”