เรื่องสั้น : ต้นกล้วย : อรรถสิทธิ์ สมจารี

เรื่องสั้น : ต้นกล้วย: อรรถสิทธิ์ สมจารี

 

          ว่ากันว่า... ต้นกล้วยริมคลองที่ขึ้นอย่างโดดเดี่ยวมีนางตานีสิงอยู่ ท่ามกลางกอหญ้ามันชูเด่นเป็นสง่าท้าทายแดดลมอย่างอหังการ รายรอบต้นมีผ้าแพรหลากสีพัน ตรงพื้นดินมีของเซ่นไหว้เรียงราย โดยเฉพาะใกล้สองวันนั้นของเดือนจะมีกลิ่นธูปควันเทียนคละคลุ้ง ผู้ศรัทธาในตัวเลขจะมารวมตัวอย่างไม่ได้นัดหมาย เพื่อโชคลาภ บารมี ให้เป็นศรีแก่ชีวิต มีหลายคนสมหวัง เช่นกัน, มีหลายคนไม่สมหวัง ไม่ว่าอย่างไรกล้วยต้นนั้นยังคงสถิต เนิ่นนานคงกระพันจนไม่มีใครจำจุดเริ่มต้น และแน่นอนไม่มีใครสนใจจุดจบเช่นกัน มีเรื่องเล่าจากปากหนุ่มวัยคะนองบางคน ว่าบางคืนนางตานีมาให้เห็นตัว ปรากฏโฉมงดงาม ด้วยผมยาวสลวยจนถึงบั้นท้าย ใบหน้าหวานคมแบบไทย ๆ มีผิวสีแทน นางสวมชุดโบราณ มีผ้าสไบพาดเฉียงไหล่ พูดจาไพเราะเนิบช้า มีรอยยิ้มที่ตราตรึงใจ การเยื้องย่างของนางก็เนิบช้าปานกัน มันไม่เหมือนการเดิน แต่เหมือนการลอยละล่องมากกว่า หนุ่มคนนั้นถึงกับเพ้อคลั่ง เอาแต่ร่ำร้องหานางตานี พูดจาหว่านล้อมว่าเรื่องเล่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง จงเชื่อเพราะมันเป็นเรื่องจริง ! เขาคือผู้โชคดีที่ได้สัมผัสตัวตนของนางตานีมาแล้ว พอมีบางคนโดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่ถามว่า ได้เจอในฝันหรือเจอในโลกจริง เขากลับตอบว่าจำไม่ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่ามีคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ส่วนมากครึ่งที่เชื่อคือชายวัยคะนองเหมือน ๆ กัน คนที่เชื่อจะถามต่อเวลาอยู่กันลำพังว่า ได้มีอะไรกับนางตานีไหม สิ่งที่เห็นคือยิ้มเจ้าเล่ห์ของผู้เล่า ก่อนตอบว่าเป็นการมีเพศสัมพันธ์ที่ดีที่สุดในชีวิตเขาเลยทีเดียว จนทำให้หนึ่งในความใฝ่ฝันของชายหนุ่มละแวกริมคลอง คือการได้เป็นผัวนางตานีซักครั้งหนึ่งในชีวิต มองดูสภาพผู้เล่าตอนนี้มีร่างกายผ่ายผอม นับวันพูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่ปะติดปะต่อ เลอะเลือน คนเฒ่าคนแก่ส่วนที่ไม่เชื่อต่างลงความเห็นว่าโดนของ ถูกผีอำผีสิง ต้องพาไปตำหนักพระอาจารย์เพื่อแก้ของ ให้มันฟื้นคืนสภาพเป็นปกติ

 

          เช่นนี้แล้วจึงเป็นประเด็นให้ถกเถียงกัน แบ่งเป็นสองฝ่าย หนึ่ง, เสนอให้ตัดต้นกล้วยทิ้งเพื่อยุติปัญหาทั้งหมด และละเลิกความงมงายทั้งหลายทั้งปวงไปซะ มองอะไรให้เป็นเหตุเป็นผล เป็นวิทยาศาสตร์ โลกมีวิวัฒนาการไปไหนต่อไหนแล้ว สอง, ฝ่ายไม่เห็นด้วยแย้งว่าปล่อยต้นกล้วยให้มีชีวิตอย่างนี้แหละ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของใครหลาย ๆ คน และในใครหลาย ๆ คนนั้นก็มีโชควาสนากับคำขอที่เป็นจริง เห็น ๆ กันอยู่ บางทีสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใช่ว่าวิทยาศาตร์จะอธิบายได้หมด ความขัดแย้งนี้ไม่ได้ใหญ่โตเป็นปัญหาระดับประเทศ จึงต้องปล่อยผ่าน ความเชื่อใครความเชื่อมัน... แต่มีเหตุการณ์น่าตื่นเต้นหลังวันหวยออกงวดล่าสุด หนุ่มคนหนึ่งซึ่งไม่เชื่อเรื่องนี้ อยากพิสูจน์ ท้าให้นางเข้าฝันแล้วขอเลขเด็ด นางตานีเข้าฝันจริง ๆ ให้เลขมาพูดว่าไปซื้อเลยเต็ม ๆ มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ สุดท้ายไม่ถูก เขาคว้ามีดสปาต้าจะไปฟันต้นกล้วย น้าสาวรู้ข่าวรีบซิ่งมอเตอร์ไซค์มาห้าม ชาวบ้านคนอื่นเช่นกัน บอกว่าถูกไม่ถูกอยู่ที่ดวงใครดวงมัน ถ้าทำจริงมีเรื่องแน่ สุดท้ายไม่กล้าทำ ชายหนุ่มทนเสียงทัดทานของคนหมู่มากไม่ไหว แต่ยังคงเก็บความแค้นไว้ ก้มหน้าก้มตาใช้หนี้ต่อไป...

 

          ว่ากันว่า... เล็กเพิ่งอกหักจากการถูกผู้หญิงทิ้ง เป็นเรื่องที่ร่ำลืออย่างสนุกปากทั้งบาง บางคนเห็นใจ บางคนสมน้ำหน้า เล็กเป็นผู้ชายที่มีงานประจำทำ ผิดกับหนุ่มคนอื่นที่หาเช้ากินค่ำ ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง เป็นเพราะเล็กหัวดีตั้งแต่เด็ก ใฝ่รู้ ขยัน ตั้งใจเรียนหนังสือ จึงได้ดิบได้ดีกว่าเพื่อน ๆ ในระแวกริมคลอง แต่มาวันนี้หัวใจเขาแกว่งหนักมาก เขาได้แต่ทำใจยอมรับความจริงในเรื่องนั้น อายุขนาดเขาผ่านมาแล้วทุกรูปแบบ เคยอกหัก แอบรัก ถูกปฏิเสธ โดนหลอก และ ฯลฯ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าโลกเราก็เป็นแบบนี้ ไม่รักก็เกลียด ไม่ชนะก็แพ้ มีสองอย่างเท่านั้น บอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่ามีอุปสรรคมากมายเท่าไหร่ ไม่ใช่จุดจบของโลก ก็แค่ผู้หญิงไม่รักดีทิ้ง ค่อยหาเอาใหม่ก็ได้ ว่ากันอย่างนั้น แต่, เรื่องหัวใจ เรื่องความรัก ไม่สามารถสลัดให้หลุดไปจากหัวได้ง่ายขนาดนั้น เล็กลืมความจริงข้อนี้ไป ปัจจุบันเขากลายเป็นโรคนอนไม่หลับ ทำให้เขาเกลียดห้วงยามของกลางคืน รู้สึกว่ายาวนานไม่มีที่สิ้นสุด เพราะความทรงจำเก่าๆ ได้กลับมาทิ่มแทงเหมือนลูกธนู ไม่ว่าจะพบเห็น ได้ยิน สัมผัสอะไร สมองตีความให้นึกถึงช่วงเวลาที่อยู่กับผู้หญิงคนนั้นร่ำไป ใครจะลืมคนที่ทำให้เราเจ็บได้ เขาเป็นคนเสพติดความเศร้า ชอบโบยตีตัวเองด้วยความทรงจำเลวร้าย เขาก็แค่ผู้ชายโง่ ๆ ที่มีแต่ความจริงใจคนหนึ่งเท่านั้น เล็กค้นพบว่าการเป็นคนซื่อสัตย์ เป็นคนดี บางทีก็ไม่มีประโยชน์ ต้องถูกคนอื่นเอาเปรียบจากความโง่ไม่ทันคน ความที่เขาไม่คิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนจึงถูกหลอกเป็นประจำ ความรักบังตา มองเห็นแต่สีชมพูโดยทำหมางเมินกับสีอื่น หรือเราไม่ได้รักกันมากพอ เล็กพยายามหาเหตุผล เราเข้าใจผิดมาตลอด นึกว่าเค้าจะดีกับเราเหมือนที่เราดีกับเค้าทุกอย่าง การทำความดีจุดมุ่งหมายมันไกลเกินไป มองไม่เห็น และเป็นนามธรรม เราต้องยอมรับความจริง ยอมรับกติกาของโลก เมื่อเค้าไม่ชอบเรา แต่ต้องการผลประโยชน์จากเรา เค้าจึงแสดงออกอย่างนั้น หรือว่าเรากำลังอยู่ในโลกแห่งความบ้าคลั่ง โลกแห่งการโกหกหลอกลวง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับได้อย่างนั้นหรือ เราได้แต่สมน้ำหน้าตัวเองที่เกิดมาโง่ ไม่ทันคน ซื่อเกินไป มองโลกในแง่ดีเกินไป คนไม่รักษาสัญญาจะมีคุณค่าอะไร ?

 

          ...ความสวยงามแห่งพืชพรรณมนุษย์ได้ถูกย่อยสลายและทำลายลงไปในผืนดินแห่งความแร้นแค้นและยากไร้ของมโนธรรม การโกหกทุศีลคือเรื่องสามัญ จริง ลวง หลอก ยั่งยืน ชั่วคราว กัปกัลป์... ตอนนี้ไม่มีใครแคร์เราหรอก เค้าก็ใช้ชีวิตในแบบเดิม ๆ ของเค้าไป เราก็แค่อณูหนึ่งซึ่งไม่มีความหมาย ความยุติธรรมของโลกอยู่ตรงไหน อย่าได้ถามหาเลย แต่... ทำไมต้องเป็นเราทุกครั้ง ทุกเรื่อง ช่วยปล่อยให้เรามีความสุขกับชีวิตบ้างได้ไหม พอทีเถอะเจ้าอุปสรรค เล็กตัดพ้อต่อว่ากับโชคชะตาในค่ำคืนหนึ่งซึ่งซ้ำเดิมเหมือนหลายคืน เราทำพลาดหลายอย่างมาก เพิ่งมารู้เมื่อมองย้อนกลับไป เค้าบอกให้เราเก็บเงินเพื่อสร้างอนาคตร่วมกัน เราก็เก็บ แต่เค้าก็หลอกเชิดเงินนั้นไป ชิ่งหนีตีจากอย่างไม่ไยดี เค้าสนใจจำนวนเงินมากกว่าที่มาของเงิน ไม่สนใจความรู้สึกเราเลย ถ้าเป็นอย่างนั้น ขอถามว่า... หัวคุณแข็งพอมั้ย ? ผมจะทุ่มเงินห้าแสนใส่หัวคุณ ! ต้องการมากใช่มั้ย ?!? เล็กพลิกตัวกระสับกระส่าย กาแฟก็ไม่ได้กิน ทำไมยังนอนไม่หลับ ได้ยินเสียงน้ำก๊อกหยดติ๋ง ๆ ในห้องน้ำแล้วรำคาญ ใช่แล้ว ! ลูกธนูนั่นเอง ถูกปล่อยมาจากคันศรอันโหดร้าย ทิ่มแทง ทิ่มแทง หัวใจให้บอบช้ำ ชีวิตเราคงจะเป็นอะไรซักอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่มีความสามารถที่จะประสบความสำเร็จ มันได้ถูกกำหนดไว้แล้ว เราไม่อาจทำอะไรให้ดีกว่านี้ ก็คงได้แค่นี้แหละกับชีวิต ได้แค่นี้จริง ๆ ไม่ดีไปกว่านี้แล้ว จงทำใจเสียเถิด เล็กถอนใจกับความมืด เขาอยากเป็นคนมีปัญหาในทางที่ดีบ้าง อย่ามัวแต่คิดว่าชีวิตต้องมีแต่ความสุขเท่านั้น ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิตมนุษย์ทุกคน มีความทรงจำเฉพาะของมันอยู่ ความทรงจำซึ่งฝังลึก ไม่อาจลบลืม ทว่า, เวลาผ่านไป อาจทำให้ความทรงจำนั้นลางเลือน จนไม่รู้ว่าอะไรคือความจริง อะไรคือความทรงจำ อะไรคือความฝัน จะทำอย่างไรได้ล่ะ นอกจากจินตนาการถึงความสุขเพื่อเอาตัวรอดไปวัน ๆ และทำได้เพียงมองหาประเด็นหรือคำพูดใหม่ ๆ ในความทรงจำเดิม ๆ เพื่อปลอบโยนตัวเอง จากนี้เขาจะเรียนรู้ว่าชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง และไม่ควรกลัวการเปลี่ยนแปลงนั้น

 

          เอาล่ะ, ช่วงนี้เขาจะถือว่ากำลังอยู่ในช่วงลงโทษตัวเอง รอให้เวลาและสถานการณ์คลี่คลายก่อน เขาจะเป็นผู้สร้างตอนจบขึ้นเอง ตอนจบที่ประทับในหัวเธอ เป็นตอนจบที่เธอไม่มีวันลืม เธอจะต้องจำเขาได้ตราบจนลมหายใจสุดท้าย แม้ว่าเธอจะเกลียดเขามากซักแค่ไหน ในเมื่อโลกแห่งความจริงมันสิ้นหวัง ก็ขออยู่ในโลกแห่งความฝันต่อไปแล้วกัน เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องการกำลังใจในการมีชีวิต เมื่อไหร่จะมีผู้หญิงที่รักเราจริง ๆ บ้าง นี่อาจเป็นคำขอที่ไม่เป็นจริงก็ได้ เล็กพูดกับความฝันอันน่าเศร้าของเขา... เรื่องนี้ยืดเยื้อเรื้อรังมาพอแล้ว - จบเสียที ! เขาไม่กลัวผู้หญิงคนนั้นหรอกแต่รู้สึกเกลียด อย่างที่คนชอบพูด รักมากก็เกลียดมาก ความเกลียดเป็นเหมือนนรกในใจ และจะถูกกระตุ้นเรื่อย ๆ ไม่สามารถควบคุมได้ บอกตัวเอง เอาความทรงจำใหม่ ๆ ดี ๆ มาสู่สมองบ้าง แล้วชีวิตจะดีขึ้น (อาจบางทีนะ) บางอย่างในชีวิตก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ มันต้องเป็นอย่างนั้น ถ้าไม่อยากเจ็บปวดกับเรื่องทั้งหมด ที่ซ้ำ ๆ เดิม ๆ มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จบได้คือความตาย (หลังความตายจะได้เจอความเจ็บปวดแบบใหม่อีกหรือเปล่า ?) ณ ขณะนี้เล็กคือความว่างเปล่า จนกว่าจบชีวิตนั่นแหละ ถึงมีตัวตนขึ้นมา ถึงมีคนสนใจ เขาคิดไปเองว่า ตนเองเป็นคนเดียวในจักรวาลที่ตั้งคำถามกับชีวิตและความตายอย่างจริงจัง เขาเป็นคนที่ไม่ทำร้ายใคร แต่พร้อมให้คนอื่นทำร้ายตลอดเวลา นี่แหละชีวิตเขา ที่สำคัญ เขาไม่ชอบความค้างคาที่ควบคุมไม่ได้ หรือเขาเป็นคนที่เกิดมาพร้อมกับคำสาป เป็นตัวซวยประจำหมู่บ้านริมคลองแห่งนี้ เขาอยากเข้าไปอยู่ในสมองคนอื่น จะได้รู้ว่า คนอื่นเห็น คนอื่นพูด คนอื่นคิด คนอื่นรู้สึกกับเขาอย่างไร คนอื่นจะมีความรักให้เขาบ้างไหม อันว่าความรักก็แค่เส้นชีวิตสองเส้นที่พาดผ่านกันเพียงชั่วคราว ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ไม่มีอะไรลึกซึ้งจริงจัง แล้วต่างคนต่างแยกย้ายกลับไปสู่โลกของตัวเองอันเป็นปกติ ความสุขอยู่ที่ใจก็จริง แต่ต้องอาศัยองค์ประกอบภายนอกที่มีผลกระทบกับชีวิต เขาได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้จะดีขึ้น ให้แสงแดดแห่งความสุขอาบร่างเขาบ้าง...

 

          ว่ากันว่า... ฝนตกตอนเช้าเป็นความทุลักทุเลอันสวยงาม วันนี้บุหงาตื่นอย่างสดใส สูดอากาศรุ่งสางด้วยหัวใจพองโต หยาดน้ำค้างแห่งความสุขพร่างพรมและราดรดหัวใจเธอ เธอมีนัดทำบุญกับมั่นชายคนรักที่วัดประจำหมู่บ้านริมคลอง กำหนดการแต่งงานใกล้เข้ามาเต็มที แม้อายุยังไม่เต็มยี่สิบแต่เธอพร้อมจะออกเรือน อาจช้าไปด้วยซ้ำ เพราะลูกสาวบ้านอื่นอายุสิบสี่สิบห้าก็ถูกชายหนุ่มหมั้นหมายไปก็ไม่น้อย บ้างก็ปลูกต้นรักกันเอง บ้างก็ให้ผู้ใหญ่สู่ขอ สำหรับความรักของเธอเป็นอย่างแรก มั่นและบุหงารู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ จากมิตรภาพการเป็นเพื่อน แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่เรียกว่ารักตามวัย แต่ความรักไม่ง่ายอย่างที่คิด ด้วยความที่เธอเป็นสาวสวยประจำหมู่บ้าน ความงามของเธอขจรขจายไปไกล จึงเป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่ม ๆ ทั้งจากบ้านตัวเองและบ้านอื่นไกล รวมถึงลูกท่านกำนันที่มาก้อร่อก้อติก หวังได้บุหงาเป็นเมีย อาศัยบารมีพ่อตัวเองเสนอเงื่อนไขให้พ่อเธอรับไว้ คือยกหนี้ แถมที่นาและวัวให้อีก แต่พ่อของเธอปฏิเสธอย่างสุภาพ บอกว่าเรื่องหัวใจไปบังคับกันไม่ได้หรอก อยู่ที่เด็กมัน คนขยันทำมาหากิน ช่วยกันสร้างครอบครัวไม่นานชีวิตก็ดีขึ้นเอง พ่อเธอเชื่อแบบนั้น จึงเป็นเรื่องที่สร้างความขัดเคืองให้ลูกกำนันอย่างมาก มันพูดเสียงกร้าวในวงเหล้าให้ลูกสมุนฟังว่า ความรักดีงามแค่ตอนแรกหรอก อยู่ ๆ ไป ก้อนเกลือที่ช่วยกันกัดกินร่อยหรอ แล้ววันนั้นจะเห็นคุณค่าของอัฐที่มันยื่นให้

 

          มีเสียงลือว่ามันจะฉุดบุหงาก่อนงานแต่ง แต่ทั้งคู่ไม่สนใจ ด้วยคิดว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป ใครจะทำอะไรตามใจตัวเองได้อย่างไร ทั้งสองยังมั่นคงในรักของกันและกัน... สิ่งที่คิดอาจสวนทางกับโลกแห่งความจริง ที่เชื่อว่าลูกกำนันไม่กล้านั้นผิด ที่ถูกคือมันไม่ทำเองแต่ให้ลูกสมุนทำ เสือยงลูกน้องเก่าที่เพิ่งออกจากคุกคดีปล้นรับทำงานนี้ บอกว่าไม่ต้องห่วง ภายในคืนนี้ลูกพี่จะได้บุหงามาเป็นเมียสมใจอยากแน่... ฝนตกตอนเช้าเป็นความทุลักทุเลอันสวยงาม มั่นกับบุหงาเดินตัดคันนาเพื่อไปวัด วันนี้เธอแต่งชุดสวย สะอาด พาดสไบสีเขียว ทำให้โดดเด่นตัดกับทุ่งนาและท้องฟ้าที่มีเมฆอุ้มฝนเป็นฉากหลัง ทั้งคู่เดินเคียงข้างแต่ทิ้งระยะห่างพองามเพื่อกันคนนินทา พูดคุยวาดฝันถึงอนาคตร่วมกัน ไม่สำเหนียกถึงอนาคตแห่งความชั่วร้ายในระยะสั้นที่รออยู่ตรงหน้า พ้นทางโค้งก่อนเข้าเขตวัด เสือยงซึ่งใช้ผ้าขาวม้าปิดหน้ารอในป่าละเมาะ มันโผล่มาด้านหลังของทั้งคู่ ใช้อีดาบฟันหลังมั่นอย่างไม่ปราศัย บุหงาตกใจ แต่ช้าไป มันชกท้องเธอจนทรุดไปกับพื้น แล้วใช้เศษผ้าอุดปาก แบกขึ้นหลังเข้าไปในป่า ไม่เหลียวมองหรือสนใจผลงานที่ทำกับมั่นเลย มันนัดกันว่าจะส่งบุหงาที่เรือนพักท้ายทุ่ง แล้วรับอัฐค่าจ้าง แยกย้ายกันไป ลูกพี่คุยว่าจะเอาบุหงาเป็นเมียก่อน แล้วค่อยขอสมากับพ่อของเธอ เสนอทรัพย์สินให้ เท่านี้ไม่น่ามีปัญหา ไหน ๆ ก็ไหน ๆ มันเป็นผัวลูกสาวเขาแล้ว แถมยังได้เป็นพ่อตาของลูกชายนายกำนันอีก มีแต่ได้กับได้ ด้วยความคิดแบบนั้นจึงมีเรื่องราวในวันนี้ ด้วยแผนการอย่างนั้นเสือยงจึงได้แบกบุหงาตอนนี้ ทว่า, แบกไปแบกมา กลิ่นหอมจากร่างกายสาวช่างเย้ายวนเหลือเกิน แบกมาแบกไป ความต้องการทบทวีขึ้นในใจ มันซึ่งยามนี้กำลังชั่งน้ำหนักระหว่างปล่อยกำหนัดกับอัฐเฟื้อง มันซึ่งติดคุกไม่ได้เสพกามรสมานาน มันซึ่งไม่รู้ว่าอนาคตคืออะไร มันซึ่งได้ตัดสินใจ ! เสือยงวางบุหงาลงบนพงหญ้าใกล้หน่อกล้วยริมคลอง แล้ว...

       

          ว่ากันว่า... เราต่างมีความเศร้าเป็นของตัวเอง เธอเพียงต้องการสถานที่ปลอดภัยและอบอุ่น ที่ผ่านมาเธอเผชิญกับความเศร้าที่ไม่มีอาณาเขต ไม่มีปลายทาง ไม่มีสิ้นสุด นี่คือการเดินทางของหญิงสาวผู้ถูกชำเราและฆ่าตาย ผู้ดำรงอยู่ในต้นกล้วยเป็นศตวรรษ บุหงาผจญกับความทุกข์เวทนามาช้านาน ผ่านการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย มองเห็นพบเจอสิ่งต่าง ๆ ทั้งดีงามจริงลวง เธอโหยหาการหลุดพ้น เฝ้าคอยใครสักคนที่จะเกี่ยวก้อยไปกับเธอ อาจเป็นเขาคนนี้... คืนนั้นเล็กเมา อาการบาดเจ็บเพราะพิษรักยังไม่ทุเลา เขามีความสิ้นหวังกับมนุษย์ ความดี และความหวังในชีวิต เล็กเป็นหนึ่งในคนธรรมดาที่ยังไม่บรรลุโสดาบัน จึงใช้แอลกอฮอล์เป็นเครื่องปลอบประโลม เขาเปลี่ยนไป ทั้งร่างกายภายนอกและจิตใจภายใน จากมีงานกลายเป็นไม่มีงาน และคนตกงานย่อมเป็นที่น่ารังเกียจของสังคม ไม่มีใครคบ คืนนั้นเล็กนั่งตัดพ้อต่อโชคชะตาใต้ต้นกล้วย ซึ่งเขาเองไม่รู้ว่ามาอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร ในความสะลึมสะลือและสลัวเลือน กึ่งฝันกึ่งจริง บุหงาปรากฏตัว ใช้สองมือช้อนหัวเล็กแนบตัก โลมไล้ใบหน้าเขาหวังให้ฟื้นตื่น พูดจาปลอบโยนเสียงเยือกเย็น เล็กลืมตาขึ้นมองเห็นใบหน้างามเศร้า เขาเปิดยิ้มให้กับความอารีของนาง ด้วยอะไรบางอย่างทำให้ทั้งคู่สื่อถึงกัน เข้าอกเข้าใจกัน

 

          ...เราต่างมีความเศร้าเป็นของตัวเอง มีแต่ผู้ที่อยู่ในสภาวะเดียวกันเท่านั้นจึงจะเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรือถ้อยคำมากมาย ความจริงแห่งเนื้อแท้ในใจเท่านั้นที่สัมผัสได้ เมื่อทั้งคู่ต่างรอคอยอะไรบางอย่างเหมือนกัน เมื่อทั้งคู่ต่างแสวงหาสิ่งใหม่ เมื่อทั้งคู่ต่างต้องการการหลุดพ้น... วันรุ่งขึ้น มีคนพบศพเล็กที่กอหญ้าซึ่งเคยมีต้นกล้วยมาก่อน

 

.....................................................................

 

Link ที่เกี่ยวข้อง  

 

                “บางกอกไลฟ์นิวส์” เปิดรับ “เรื่องสั้น” และ “บทกวี” 

 

                วรรณกรรมออนไลน์