สธ. หนุน สสส. เพิ่มกิจกรรมทางกายลดโรค
กระทรวงสาธารณสุข ยันไม่เอาบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า หนุน สสส. เพิ่มกิจกรรมทางกาย สร้างความรู้ด้านอาหาร ลดโรค ลดเค็ม ตั้งแต่เด็ก หลังพบคนไทยเสียชีวิตจาก NCDs 75%
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 1 กล่าวว่าการประชุมกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 10/2568 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ตนทำหน้าที่ประธานฯโดยยืนยันไม่สนับสนุนบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า ทุกรูปแบบ ไม่เห็นด้วยกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทนการสูบบุหรี่ วิธีแก้ไขปัญหาต้องมุ่งไปที่เดียว คือ ลด ละเลิก ขอให้ สสส. เดินหน้าร่วมกับภาคีเครือข่ายสื่อสารสร้างความเข้าใจพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนอย่างเข้มข้นต่อไป ขณะที่ประเด็นการปลอดล็อกขายเหล้าในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินอย่างรอบด้านทั้งทางสังคม สุขภาพ และเศรษฐกิจ โดยจะเอาผลการศึกษามาวิเคราะห์และพิจารณาอย่างเป็นธรรม

“ตอนนี้คนไทยยังมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ ลดลงเหลือ 54.3 % จาก 62.0 % ส่งผลกระทบสุขภาพ เสี่ยงป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อหรือ NCDs ที่ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 320,000 คน/ปี หรือชั่วโมงละ 37 คน ผมเห็นด้วยที่ สสส. เดินหน้า 3 ยุทธศาสตร์ คือ 1.Active Society สร้างความตระหนัก ค่านิยมมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉง 2.Active Environment พัฒนาพื้นที่สุขภาวะ เพิ่มการเข้าถึงพื้นที่ออกกำลังกายของทุกกลุ่มวัย อาทิ พัฒนาเป็นเมืองเดินได้-เดินดี ออกแบบผังเมืองให้เชื่อมโยงสวนสาธารณะ ระบบขนส่งสาธารณะและชุมชนให้ทุกกลุ่มวัยออกกำลังกายและใช้ชีวิตกระฉับกระเฉงในเมืองได้มากขึ้น ครอบคลุม 38 เมือง เช่น เชียงราย ลำปาง นครสวรรค์ อุบลราชธานี สงขลา ทำให้ประชาชนเข้าถึงพื้นที่สุขภาวะมากขึ้น 58.4 % และ 3.Active People เพิ่มโอกาสเข้าถึงกิจกรรมทางกายโดยเฉพาะกลุ่มเคลื่อนไหวน้อย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างต้นแบบ เช่น ออกแบบกิจกรรมทางกายหลังเลิกเรียน ส่งเสริมการออกกำลังกายในผู้สูงอายุ
ส่งผลให้ประชาชนมีกิจกรรมทางกายเพียงพอเพิ่มขึ้น 68.9%”

นายพัฒนา กล่าวว่า ข้อมูลสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า คนไทยมีความรอบรู้ด้านอาหาร เพียง 40 % สสส.จึงมุ่งเน้นเสริมความรอบรู้ด้านโภชนาการในโรงเรียน/ชุมชน อาทิ จัดทำคู่มือชุดความรู้ด้านการจัดการอาหารและโภชนาการในสถานศึกษานำร่องใน 5 จังหวัด บุรีรัมย์ สุรินทร์ เชียงใหม่ น่าน และขอนแก่น ทำให้เด็กวัยเรียนมีความรอบรู้เพิ่มขึ้น 85 % ส่วนครูและแม่ครัวมีความรอบรู้ด้านการจัดการเพิ่มขึ้น 95 % นอกจากนี้เตรียมผลักดันมาตรการชุมชนลดเค็ม ลดเสี่ยง ลด NCDs บูรณาการขยายผลระดับพื้นที่กว่า 100 ชุมชน กลุ่มเป้าหมายบริโภคเกลือและโซเดียม ลดลง 10 % และปริมาณโซเดียมในอาหารลดลง 10 % ภายในปี 2571