เรื่องสั้น : เสียงลมหายใจท่ามกลางความเงียบ : ทวิวัฒน์

เรื่องสั้น : เสียงลมหายใจท่ามกลางความเงียบ : ทวิวัฒน์

 

          - ๑ -

          "เอายังไง จะถ่ายหรือไม่ถ่าย"

          " --- "

          "ค่าเช่าห้องไม่ใช่ถูก ๆ นะ ฉันบอกแล้วไงว่าที่นี่เวลาเป็นเงินเป็นทอง"

          " --- "

          "นี่ --- ถ้าจะเอาแต่นั่งก้มหน้า วันหลังบอกตั้งแต่ต้นนะว่าทำไม่ได้"

          "ก็ตอนแรกบอกว่าแค่ถ่าย ---"

          "ก็ใช่ ถ่ายภาพทำพอร์ตไง แต่บทที่จะเล่นมันต้องใส่ชุดว่ายน้ำ ซิตคอมที่จะถ่ายเขาต้องการนักแสดงเล่นในฉากพูลวิลล่า เธอจะให้ใส่ชุดสูทเดินไปเดินมาหรือไง"

          " --- "

          "โอ๊ย --- พอ ๆ ถ้าถ่ายไม่ได้ก็กลับ ชั่วโมงหนึ่งไม่ได้อะไรเลย เสียเวลาจริง ๆ จำไว้นะ เธอเสียโอกาสสำคัญไปแล้ว วงการนี้โอกาสเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เสียดายแทนจริง ๆ"

          " --- "

          "ปกติพี่ไม่ถ่ายพอร์ตให้ใครง่าย ๆ นะ เธอก็เห็นแล้วพี่ปั้นดาราดังมาตั้งหลายคน ตอนนี้ประตูสู่ทางเดินใหม่อยู่ตรงหน้าแล้ว เธอเลือกเองจะเปิดหรือไม่เปิด"

          "หนู --- หนูอาย"

          "ก็มีกันอยู่แค่สองคน เธอกับพี่นี่แหละ พี่ไม่ได้ให้ถ่ายภาพนู้ด พี่แค่ให้เธอใส่ชุดว่ายน้ำแล้วถ่ายรูปแค่นี้เอง ใคร ๆ เขาก็ถ่ายภาพแบบนี้ลงโซเชียลกันทั้งนั้น"

          "แต่หนูไม่ได้เล่นโซเชียล"

          "ยุคนี้ยังมีคนแบบนี้อยู่เหรอวะเนี่ย โอเค --- ก็ตามที่พี่บอกไป เธอไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำแล้วก็มาโพสต์ท่าให้พี่ถ่ายรูป พอทำพอร์ตเสร็จ พี่จะเสนอผู้กำกับหาบทให้เธอเล่นให้ได้ พี่สัญญา"

          " --- "

          "อย่าเงียบแบบนี้สิ ถ้าไม่ถ่ายก็บอกชัด ๆ กันเลยว่าไม่ถ่าย"

          "หนูไม่ ---"

          "ค่าทำงานพาร์ทไทม์ได้ชั่วโมงละเท่าไรนะ เต็มที่ก็ห้าสิบบาทมั้ง ทำวันละเจ็ดชั่วโมง ได้วันละสามร้อยห้าสิบบาท บทที่พี่จะให้เล่นขี้หมูขี้หมาก็ได้วันละหนึ่งพัน --- คิดดูให้ดีนะ"

          " --- "

          "ไม่ถ่ายนะ ไม่เป็นไร เอ้า --- ถือว่าพี่ให้โอกาสอีกครั้งหนึ่ง เอาเบอร์โทรศัพท์พี่ไปถ้าเปลี่ยนใจโทรมา"

 

          - ๒ -

          "อืม --- ยังบ่ได้งานเลย"

          "เอื้อยไหวบ่ ? แม่บอกว่าเมือบ้านกะได้เด้อ"

          "ไหว ๆ มื้อวานเอื้อยไปยื่นใบสมัครโรงงานปลากระป๋องแล้ว ถ้าเพิ่นเรียกไปเฮ็ดกะได้งาน"

          "เอื้อยเมย์เพิ่นบ่ว่าบ่ ไปอยู่นำเพิ่นตั้งเป็นอาทิตย์แล้วยังบ่ได้งาน"

          "บ่ดอก เอื้อยกับเมย์สนิทกันหลาย เมย์ฝากบอกแม่ว่าบ่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวสิเบิ่งแยงเอื้อยเอง"

          "จั๊กคราวเด้อเอื้อยดา แม่สิเว่านำ"

          " --- "

          "ฮัลโหล ดาติลูก"

          "จ้า แม่"

          "เป็นจังได๋แน ได้กินข้าวกินปลาแล้วบ่ ?"

          "กินแล้วแม่ มื้อแลงเมย์มันซื้อตำบักหุ่งมาฝาก กะกินนำมัน"

          "ได้ซอยเมย์ออกเงินบ่ ? ไปกินของเพิ่นฟรี ๆ เกรงใจเพิ่น"

          "โธ่ แม่ ตอนน้อย ๆ แม่กะยังเลี้ยงข้าวเมย์มันตั้งหลายเดือน มันบ่ว่าดอก"

          "นั่นมันตอนน้อย ๆ เนาะ ตอนนั้นเมย์มันโตนิดเดียว กินบ่หลาย นี่ทั้งสองคนกะโตขึ้นมาตั้งจักปีแล้ว"

          "แม่เป็นจังได๋แน เห็นจอยบอกว่าแม่บ่ซำบาย"

          "แม่กะไอตามประสาคนแก่เนี่ยล่ะ เดี๋ยวกินยาที่อนามัยกะสิหาย"

          "หายไว ๆ เด้อแม่ พักผ่อนหลาย ๆ กินข้าวให้ตรงเวลา แล้วกะกินยาตามหมอบอก"

          "เออ บ่ต้องห่วงแม่ดอก"

          " --- "

          "ไหวบ่ลูก ถ้าบ่ไหวกะเมือบ้านมาอยู่กับแม่เด้อ หางานที่บ้านเฮ็ด บ่ต้องมีค่าใช้จ่ายหลาย บ่ต้องห่วงเรื่องข้าวเรื่องที่อยู่"

          "นี่ดากะพึ่งมากรุงเทพฯ ได้แค่อาทิตย์เดียวเองเด้อแม่ ดายังบ่ท้อดอก เดี๋ยวมันกะสิหางานได้แหละ"

          "ลูกจบแค่ ม.3 สิหาคนรับเฮ็ดงานได้บ่?"

          "ไอ้เมย์จบ ป.6 ยังหางานได้เลย โอ๊ย --- บ่มีหยังแม่ ไอ้เมย์มันปาหมอนมาที่ดา"

          "ลูกกะอย่าไปเว่าบาปหมู่ แล้วเมย์มันเฮ็ดงานอิหยัง มีงานว่างให้ลูกไปเฮ็ดนำได้บ่ ?"

          "---"

          "ดาคุยกับน้องไปก่อนเด้อ ผู้ใหญ่มีมาที่บ้าน เดี๋ยวแม่ไปเว่านำเพิ่นก่อน"

          "จ้า"

          "เอื้อยดาสิเมือบ้านเมื่อเหิง ?"

          "เอื้อยกะพึ่งมาได้อาทิตย์เดียว คงอีกดนแหล่วกว่าสิได้เมือ แล้วนี่จอยเฮ็ดหยังอยู่ ?"

          "เฮ็ดการบ้านจ้า"

          "ตั้งใจเรียนเด้อ ขาดเหลืออิหยังกะบอกเอื้อยเดี๋ยวสิส่งไปให้"

          "บ่ขาดดอก จอยจะตั้งใจเรียน ขอบคุณเอื้อยดาหลาย ๆ ที่ไปเฮ็ดงานให้จอยได้เรียนต่อ"

          "อืม --- แค่นี้ล่ะ เอื้อยสิไปส่งเมล์สมัครงานต่อ"

          "จ้า"

 

          - ๓ -

          "ลดา --- มานี่หน่อยสิ"

          "คะ --- ว่ายังไงคะ ผู้จัดการ"

          "เธอเป็นคนจัดชั้นขนมนี่ใช่ไหม ?"

          "ใช่ค่ะ"

          "นี่จงใจเรียงผิดหรือเปล่า บอกแล้วไงว่าชิ้นนี้มันต้องวางตรงนี้ ลูกค้าจะได้หยิบง่าย ๆ"

          "ค่ะ ๆ ขอโทษค่ะ"

          "เอ้า --- เรียงเสร็จก็ไปเอาของที่ทำเสร็จมาจัดให้เรียบร้อยนะ อีกสิบนาทีร้านจะเปิดแล้ว"

          "ค่ะ"

          "โดนผู้จัดการดุอีกแล้วเหรอ ?"

          "อืม"

          "อดทนนะดา อย่าเพิ่งถอดใจล่ะ ถ้าออกไปเราเหนื่อยแย่เลย"

          "ไม่ออกหรอก งานหายากจะตาย นี่กว่าจะได้งานก็ปาไปตั้งครึ่งเดือน เกรงใจเพื่อนมัน"

          "ดาอยู่กับเพื่อนเหรอ เพื่อนทำงานอะไรอ่ะ ชวนมาทำด้วยกันไหม นี่ก็ยังมีตำแหน่งว่างอยู่นะ"

          "มันคงไม่มาทำหรอกมั้ง งานมันได้เงินดีจะตาย"

          "จริงเหรอ งานอะไรอ่ะ ?"

          "งานกลางคืนน่ะ"

          "งานแบบ ---"

          "เป็นเด็กนั่งดริ้ง มันบอกว่าเงินดี แต่ก็นะ อย่างที่รู้กันก็เปลืองตัวหน่อย"

          "เคยมีคนชวนเราไปทำเหมือนกันนะ จริง ๆ เราก็เคยทำแหละ แต่ก็เหมือนดาบอก มันเปลืองตัว"

          "ดา ! นิน ! ใครว่างมาตรงนี้หน่อยสิ"

          "ค่ะ ๆ ผู้จัดการมีอะไรคะ ?"

          "ให้หน้าร้านสกปรกแบบนี้ได้ยังไง เปลือกช็อกโกแลตปลิวจากหลังร้านมาถึงหน้าร้านทำไมไม่เก็บ"

          "ขอโทษค่ะ"

          "เก็บให้เรียบร้อยเลยนะ เสร็จแล้วก็เปิดร้านได้เลย"

          "ค่ะ"

          "จริง ๆ เลย บอกแล้วว่าหน้าร้านต้องดูสวยเสมอ ลูกค้าเขาตัดสินกันจากแวบแรกที่เห็น"

          " --- "

          "สู้ ๆ นะดา ผู้จัดการเขาทำงานด้วยปาก ฉันอยู่มาตั้งหลายเดือนแล้วก็ไม่เห็นแกลงมือทำอะไรด้วยตัวเองเหมือนกัน"

 

          - ๔ -

          "อีหยังเกาะ!"

          "แม่กำลังสิถืกยึดที่นา"

          "มันเป็นไปได้จังได๋?"

          "ผู้ใหญ่มีนี่ล่ะ ได้ยินเพิ่นว่าแม่ไปกู้เงินผู้ใหญ่แล้วบ่มีเงินส่งดอก นี่เพิ่นกะสิมายึดที่นา"

          "แล้วแม่กู้ไปเฮ็ดหยัง"

          "ป้าชุ่มถืกรถชนเข้าโรงพยาบาล บ่มีเงินสิรักษา แม่เป็นห่วงเลยต้องเอานาไปค้ำ เอาเงินมารักษาป้า"

          "แม่นะแม่ บ้านเจ้าของยังบ่รอด ยังสิไปห่วงบ้านผู้อื่นอีก"

          "ญาติผู้อื่นเขากะบ่เอาป้าแล้ว มีแต่แม่นี้ล่ะที่บอกว่าพี่น้องตัดกันบ่ขาด"

          "แล้วฮู้บ่ว่าแม่เป็นหนี้ผู้ใหญ่จักบาท ?"

          "น่าจะหกเจ็ดหมื่น"

          "หา! เจ็ดหมื่น"

          "สิเฮ็ดจังได๋ล่ะเอื้อย จอยกะย่านว่าแม่สิเครียดแล้วบ่ซำบาย มื้อแลงแม่กะบ่ค่อยได้กินข้าวบอกว่ากินบ่ลง"

          "---"

          "ที่นั่นมีงานอิหยังให้จอยซอยบ่ จอยว่าจอยไปซอยเอื้อยเฮ็ดงานดีกั่ว สิได้มีรายได้เพิ่ม"

          "บ่ต้อง ๆ มากะบ่ได้ซอยอิหยัง หม่องนี่เขาบ่ให้เด็กเฮ็ดงานดอก"

          "จอยอยากซอยนำ ซู่คนพยายามหาเงินแต่จอยบ่ได้ซอยหยังเลย"

          "จอยกะซอยเอื้อยเบิ่งแยงแม่กะแล้วกัน เดี๋ยวเรื่องเงินเอื้อยสิลองเบิ่งเองว่ามีวิธีได๋แน"

          "เอื้อยสิหาเงินมาแต่ไส เห็นผู้ใหญ่บอกว่าถ้าอีกสองอาทิตย์บ่ได้เงินคืน เขาสิยึดนาแล้ว"

          "เดี๋ยวเอื้อยสิลองเบิกเงินล่วงหน้าจากที่ทำงานเบิ่งก่อน"

          "พึ่งเฮ็ดงานได้สองเดือนกั่ว เขาสิให้เอื้อยเบิกอยู่บ่ ?"

          "กะต้องลองเบิ่ง --- แค่นี้ก่อนเด้อ"

          " --- "

          "ฮัลโหล พิทักษ์พูดสายครับ"

          "สวัสดีค่ะพี่ หนูลดานะคะ พี่จำหนูได้ไหม ?"

          "ลดา --- อ๋อ น้องคนที่มาแคสติงแล้วไม่ยอมถ่ายชุดว่ายน้ำใช่ไหม จำได้"

          "ค่ะ พี่ยังอยากได้นักแสดงอยู่ไหมคะ"

          "บทนั้นมีคนเล่นไปแล้วน่ะสิ"

          "พี่มีบทอื่นให้หนูเล่นไหม บทอะไรก็ได้ หนูเล่นได้"

          "ทำไมครั้งนี้ดูมั่นใจจังเลย ไม่ใช่ว่ามาแล้วอิดออดอีก พี่เสียเวลานะ"

          "หนูเล่นได้ทุกอย่างค่ะ ครั้งนี้หนูเล่นได้จริง ๆ"

          "งั้นพรุ่งนี้ว่างไหม มาเจอพี่ที่เดิม เดี๋ยวพี่จะถ่ายภาพทำพอร์ตให้ใหม่"

          "ว่างค่ะพี่ ให้หนูไปกี่โมงคะ"

          ...

          "จะไปไหนเหรอดา ?"

          "ไปธุระนิดหน่อยน่ะ เออ --- เมย์ ที่ร้านยังรับพนักงานไหม ?"

 

          แม่จ๋า...

 

          แม่ซำบายดีบ่ ดาบ่ได้เขียนจดหมายหาแม่ดนแล้ว ตอนนี้ดาย้ายออกมาอยู่ผู้เดียวแล้วเด้อ ที่อยู่กะตามหน้าซอง ดาเปลี่ยนงานใหม่ ได้งานโรงงานปลากระป๋อง หอของเมย์มันอยู่ไกลจากหม่องเฮ็ดงาน หม่องนี่ดีกั่ว สงกรานต์นี้ดาว่าสิเมือบ้านเด้อแม่ บ่ได้กอดแม่ดนแล้ว คึดฮอดหลาย

          อย่าลืมเกียข้าวบักฉ่ำเด้อแม่ มันสิบ่มีแฮงเฮ็ดนา

 

          ฮัก ลดา

 

…………………………………………………………….