เรื่องสั้น : แผนที่ : ประภัสสร เขียวมณี
เรื่องสั้น : แผนที่ : ประภัสสร เขียวมณี
ชั้นวางไม่เคยทิ้งร้างให้ว่างเปล่าจากโล่เชิดชูตอบแทนความผิดหวังเบียดเสียดแทรกจนแทบต้องตอกบานพับเข้าผนังวางแผ่นไม้เพิ่มเพื่อรองรับสิ่งของ และจัดวางพวกมันให้เป็นระเบียบ การต่อเติมเสริมสร้างย้ำขยี้ความบัดซบนี้จะสิ้นสุดลงที่ใด หรือวันนั้นอาจจะไม่มีวันมาถึง...
เสียงพูดคุยอื้ออึง ณ ถนนสายหลักในเมือง ผู้คนมากหน้าหลายตา บ้างนั่งพักบนม้านั่งสนทนากับคู่ตนด้วยสีหน้าชื่นมื่น บ้างคลี่แผนที่ออกกางสำรวจความคดเคี้ยวของทางเบื้องหน้า ถนนใดชื่ออะไร หมู่บ้านไหนที่เขาจะต้องเดินทางไปต่อ บางจุดในแผ่นกระดาษของบางคนมีจุดมาร์คพ้อยท์พร้อมข้อความกำกับบ่งบอกช่องทางลัดสู่ปลายทางอย่างสะดวกโยธิน
.. สิทธิพิเศษของผู้รากมากดี ..
แผนที่ในมือของบางคนทำมาจากเศษกระดาษราคาถูก มีรอยขีดเขียนไม่มั่นคงเป็นเส้นจาง สถานที่สองจุดปรากฏบนนั้น จุดเริ่มต้น ตามด้วยเส้นประที่ลากยาวไปสุดสายบรรจบที่อีกจุดนึง มีข้อความเขียนระบุไว้ว่า นั้นคือ 'เส้นชัย' ไร้รายละเอียด ไร้ข้อมูลชี้บ่งว่าข้างทางต้องเจอกับอะไร ต้องเตรียมตัวเช่นไร และที่สำคัญ จะเดินไปให้ถึงปลายทางได้อย่างไร
... ข้อด้อยของคนต้นทุนน้อย ...
บางคน ไม่สิ ' หลายคน ' ถอดใจละทิ้งแผนที่อันไม่สมบูรณ์ในมือทรุดตัวนั่ง ใช้ชีวิตให้หมดไปวัน ๆ หายใจทิ้งขว้าง รอช่วงเวลาอันเป็นนิรันดร์มาถึง วันที่พวกเขาไม่ต้องจ้องมองแผนที่ วันที่ทุกสิ่งแตกดับ ธาตุในกายสลาย จมดิ่งสู่ความเป็นอนันต์
ละทิ้งซึ่งอารมณ์หวั่นวิตกในอนาคต
ละทิ้งซึ่งความไร้จุดหมาย
ละทิ้งซึ่งความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา
ละทิ้งซึ่งความหมายของการใช้ชีวิต
หากมองจากมุมของคนที่ชื่นชอบในความโศกศัลย์ ขมขื่น ฉันเองคงเป็นหนึ่งในกลุ่มคนพวกนั้น นั่งพิงริมกำแพง เหม่อมองฟ้า ลิ้มรสไอแดด เป็นอาหารเช้า เสพสมแสงจันทร์เป็นอาหารมื้อดึก อดอยากร่างกายผ่ายผอม รอวันตาย
... รอวันตาย ...
ฉันเคยคิด ใช่ฉันคิด ว่านั้นคือสิ่งที่คนอย่างฉันจะต้องเป็น ทุกครั้งที่ฉันมองกระดาษแผนที่ในมือ มันแย่ตรงไหนรู้ไหม ?
... แผนที่ของฉันมีจุดเริ่มต้นให้มอง 'ตัวฉัน' จุดที่ฉันยืน แต่...
ไร้ปลายทาง
ไร้เส้นชัย
ไร้จุดหมาย ไม่มีแม้แต่รอยกากบาทลวก ๆให้เห็น ว่านี้แหละ คือเป้าหมายของฉัน
สุดท้าย ที่ฉันบอกว่ามันแย่ คือ...
... ไร้อนาคต ...
กระดาษในมือ คลี่ออกอีกครั้ง ฉันเหลือบมองคนข้าง ๆ ความอิจฉาพรั่งพรู เมื่อเห็นรายละเอียดชี้นำทางต่างๆในแผนที่ ที่พวกเขามี
... พระเจ้า ช่างลำเอียง ...
ต้นทุนที่แตกต่างทำให้ฉันเริ่มต้นช้ากว่าใคร แต่สัญชาตญาณที่มีสั่งให้ฉันลุกขึ้นเดินต่อ ทุกอย่างผลักดันด้วยความอยากได้ อยากมี ขอบคุณความไม่รู้จักพอของฉันที่ทำให้ฉันเริ่มออกเดินทาง
... เริ่มมีแล้วรอยขีดเขียนที่ลากออกมาจากจุดเริ่มต้น ...
ฉันคลี่แผนที่ดูอีกครั้งเมื่อหันหลังเดินทางออกจากหมู่บ้านได้สักระยะ มือไม้สั่นเทา กระดาษเปียกชื้น สายตาที่จดจ้องพร่าเลือน เพราะอะไรกันนะวันนี้ฉันถึงมีอาการร้อนผ่าวที่รอบดวงตา
... แผนที่ ที่ฉันถือปรากฏรอยด่างดวง ใช่ บางครั้งฝนก็ตกบ่อย ๆ ...
... เพราะฝนมันตก วันนี้ฉันคงต้องพักสักหน่อย ...
บ้านริมทางเล็ก ๆ ที่ฉันเจอระหว่างทาง มีหลายคนอยู่ในนั้น บางคนฉันคุยด้วยได้อย่างร่าเริงแบ่งปันมุมมอง แลกเปลี่ยนทัศนคติ เติมพลังใจให้กันและกันได้ บางคนช่างแสนดีเหลือเกิน เค้าช่วยฉันแต่งเติมเส้นทางในแผนที่ของฉัน
... ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ ...
ความปิติเกิดขึ้นในใจ ฉันเรียกคนที่อาศัยอยู่ในบ้านพักรายทางนั้นว่า
... เพื่อน ...
แต่ว่า บางครั้งคนในบ้านพักก็เป็นคนที่ฉันไม่สามารถคุยด้วยได้ ฉันเรียกพวกเค้าว่า 'เพื่อน' เช่นกัน ไม่สิ
... อดีตเพื่อน ...
ฉันมองรองเท้าที่สึกหรอของตัวเองที่บางส่วนผุพังขาดวิ่น แต่ฉันจำเป็นต้องเดินต่อ
... ฉันต้องเดินต่อ ...
วันนี้โชคดีเหลือเกินที่ฝนไม่ตก แขนขาของฉันเปี่ยมไปด้วยพลัง เอาล่ะวันนี้ฉันจะลองเดินไปทางซ้ายดู ไม่เอาแล้วทางตรงที่ผู้ปกครองแนะนำ หรือทางขวาที่คนส่วนใหญ่เลือกจะไป
... ฉันจะเลือกเส้นทางของตัวเอง ใช่ ฉันจะทำ ...
เสียงหัวเราะขื่นขมดังขึ้น ฉันหยิบดินสอขึ้นมาแล้วกากบาทลงในแผนที่ ทางที่ฉันเลือกเป็นทางตัน ด้านหน้าเป็นเหว แต่ไม่เป็นอะไรหรอก ไม่เป็นอะไรเลย
... ฉันภูมิใจที่ได้เป็นตัวของตัวเอง ...
เอาล่ะ ได้เวลากาง แผนที่ใหม่อีกครั้ง กระดาษที่ฉันถือเริ่มเต็มไปด้วยรอยดินสอ บางรอยเป็นปากกา บางจุดเป็นหมึกสีทอง บางจุดเลอะเป็นปื้น ฉันจ้องมองมันอย่างไม่เคยเบื่อ
... มาไกลจากจุดเริ่มต้นมากแล้วนะ มาไกลแล้วจริง ๆ ...
แต่วันนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ทุกทางที่ฉันเลือกเดินผิดพลาดไปหมด
... ฉันเหนื่อยเหลือเกิน ...
... ฉันเหนื่อย ...
บ้านพักริมทางมีแต่ซากผุพัง วันนี้ไม่มีคนอยู่ พวกเขาเองก็คงออกเดินทางอยู่เหมือนสินะ เพื่อน ๆ ของฉัน
... ฉันยิ้มให้กับความว่างเปล่า และเดินต่อไป ...
ตอนนี้ ฉันกางแผนที่ขึ้นอีกครั้ง อ่อนล้าเหลือเกิน แต่วันนี้แม้เมฆครื้มแต่ไม่มีฝนตก
... ดีแล้ว ที่ฝนไม่ตก ฉันเบื่อความเปียกปอนนั้นแล้ว ...
การเดินทางเพื่อเขียนแผนที่ของตัวเองนั้น ช่างยาวนานเหลือเกิน 29 ปีแล้ว ที่ฉันสนุก ทุกข์ตรม เศร้าหมอง สุดท้ายฉันได้รู้จักถ้อยคำที่มีค่า คำที่ฉันจำขึ้นใจ และตั้งใจจะนำไปใช้ให้ดี
... ปลดปลง ...
... ปล่อยวาง ...
เหนื่อยไหมฉันถามตัวเอง เหนื่อยไหม ? หลายครั้งที่ฉันมองหาแต่จุดหมายแต่ลืมจะมองย้อนมองดูตัวเอง
... เหนื่อยหรือเปล่า ...
........................................................................
Link ที่เกี่ยวข้อง
“บางกอกไลฟ์นิวส์” เปิดรับ “เรื่องสั้น” และ “บทกวี”