เรื่องสั้น : ตู้คีบความหวัง : อดิศร ไพรวัฒนานุพันธ์

เรื่องสั้น : ตู้คีบความหวัง : อดิศร ไพรวัฒนานุพันธ์

 

            พูดตามตรง ตู้คีบตุ๊กตาเป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในความสนใจของผมมาก่อน ถ้าย้อนไปในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่สิ่งที่นิยมอะไรนักในประเทศของเรา แต่ปัจจุบัน ตู้เหล่านี้ค่อยมีให้เห็นมากขึ้น ๆ น่าจะมีพร้อมๆ กับกระแสป็อปทอย คาแรกเตอร์โมเดลที่เป็นของสะสม ซึ่งขายกันเป็นกล่องสุ่ม แน่นอนว่ามีมาพร้อมกับตู้กาชาปองที่เป็นตู้หยอดเหรียญแล้วก็สุ่ม ๆ เอาเช่นกันว่าจะได้ตัวไหนไป เลือกไม่ได้ว่าจะเอาตัวไหน แต่ขึ้นอยู่กับโชคว่าจะได้ตัวที่เราต้องการไหม ซึ่งถ้าเป็นตู้กาชาปองนี่ ผมค่อนข้างคุ้นเคยกับมันมากเหมือนกันเวลาที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนบ้าการ์ตูน เวลาผ่านไปเห็นตู้พวกนี้ ด้วยเงินที่แปลงเป็นค่าเงินบาทประมาณสัก 100 บาท ผมจะมีโอกาสได้สินค้าที่เป็นตัวละครในการ์ตูนที่ผมชอบ จะได้ตัวเอกเลยหรือตัวประกอบสักหน่อย อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับโชค และใช่แหละ ตัวเอกก็มักจะมีโอกาสได้ยากมากกว่าเสมอ ๆ มันเป็นวิธีการล่อลวงให้เราหยอดสักหลาย ๆ ทีเพื่อลุ้นจะได้ตัวที่หวัง แต่ถ้าเราไม่ได้หวังอะไรเยอะแยะ ได้ตัวละครไหนก็ได้ ก็ถือว่าเอาแค่นั้น แบบนั้นก็จะจบด้วยการหยอดแค่ครั้งเดียวได้ แต่มันก็มักหมายถึงการหักใจหยอดครั้งเดียวกับตู้นั้นแหละนะ ยังมีตู้อีกมากมายเรียงราย สินค้ามีเปลี่ยนประเภท บ้างเป็นพวงกุญแจ บ้างเป็นหุ่นตัวเล็กๆ ไว้ตั้งโชว์ และที่แน่ ๆ คือมีการเปลี่ยนแบบและท่าทางเพื่อให้ดูมีความหลากหลายในสินค้าที่ว่าไปแล้วจริง ๆ มันก็ดูคล้าย ๆ กันไปหมดนั่นแหละ ซึ่งตู้แบบนี้ก็มีที่ไทยแล้วเหมือนกัน ในราคาที่สมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน สำหรับผม ผมชอบตู้กาชาปองเพราะมันเป็นสิ่งที่หยอดเงินลงไป แล้วได้ของกลับมาแน่นอน ถึงจะเป็นของชิ้นเล็ก ๆ ไม่ได้มีมูลค่าดึงดูดสูงเท่าตู้คีบตุ๊กตาก็ตาม  กลับมาที่ตู้คีบตุ๊กตา ตอนไปเที่ยวต่างประเทศ ผมก็เคยเห็นตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แต่ผมไม่เคยเชื่อในการพยายามคีบด้วยตัวจับยึดที่ดูง่อนแง่นนั่น คีบตุ๊กตาที่มีน้ำหนักพอสมควร แล้วคีบได้แล้วมันจะต้องอยู่รอดผ่านการเคลื่อนของตัวจับยึดคืนสู่ที่กลับมาหย่อนตุ๊กตานั้นลงปล่องในท้ายที่สุดเพื่อให้ผมสามารถหยิบออกมาจากตู้ได้อีกด้วย มีโอกาสอย่างมากที่จะเสียเงินฟรี ได้หยอดแล้วคีบโดยไม่ได้อะไรกลับมา ซึ่งตู้ต้องออกแบบมาให้เป็นอย่างนั้นอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพราะรางวัลของมันนั้นเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงกว่าเงินที่หยอดลงไปพอสมควร มันจึงเป็นสิ่งที่ต้องใช้ฝีมือเพื่อจะได้มา ผมไม่มีความเชื่อมั่นว่าทำได้

            ตู้คีบตุ๊กตามาอยู่ในความสนใจของผมอีกครั้งตอนที่มีเพื่อนร่วมงานบางคนเพิ่งไปเที่ยวญี่ปุ่นกลับมา  ตัวผมเองก็กำลังจะไปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อนร่วมงานเล่าให้ฟังว่าไปเล่นตู้คีบตุ๊กตาที่นั่น แล้วได้ตุ๊กตากลับมาเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งยังแบ่งปันเทคนิคในการคีบให้ด้วย ซึ่งจากการฟังที่หล่อนอธิบาย มันก็ดูมีหลักการที่ดีว่าจะเลือกคีบตุ๊กตาตัวไหนควรเล็งตัวที่อยู่ตรงตำแหน่งไหนมากเป็นพิเศษ การพิจารณาตัวจับยึดของตู้ว่าเป็นแบบกี่ขา วัสดุของตัวจับยึดเป็นเหล็กหรือเป็นพลาสติก มันดูน่าจะจับติดอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน การสังเกตความแรงในการเคลื่อนของตัวจับยึดว่ามันมีลักษณะกระชากมากน้อยเพียงใด  พูดง่ายๆ มันฟังดูเป็นศาสตร์ย่อม ๆ อย่างหนึ่งได้เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องของโชคขนาดนั้น ผมจึงสนใจขึ้นมา

            ผมสนใจก็จริง แต่ฝีมือก็ไม่ได้แน่ใจนักว่าตัวเองมี ถึงปกติจะชอบเล่นเกมอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่อะไรแบบนี้ เกมที่ผมเล่นมันเป็นเกมเครื่องคอนโซลเล่นคนเดียว และเกมมันออกแบบมาเพื่อให้คนเล่นมีโอกาสชนะมากกว่าแพ้ ผมก็เล่นแล้วชนะตามที่ควรจะเป็น จึงพูดไม่ได้ว่าผมมีฝีมือในการเล่นเกมอะไร ผมจึงคิดว่ามาเล่าให้แฟนที่จะไปญี่ปุ่นด้วยกันฟังด้วยอีกคน ว่ากันตามตรง เธอเป็นผู้หญิงก็จริง แต่เป็นคนลุย ๆ กระทั่งการจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันอย่างถ้ามีอะไรเสียต้องซ่อม เธอน่าจะทำได้ดีกว่าผม ใช่ ผมเลยคิดว่าเธออาจจะเอาเทคนิคการคีบตุ๊กตาไปใช้ได้ดีกว่าผมก็ได้ ผมก็เลยเล่าให้เธอฟัง อีกอย่างการที่ 2 คนไปลองด้วยกันทั้งคู่ ก็อาจจะเพิ่มโอกาสที่จะทำได้สำเร็จก็ได้นะ

            แล้วก็ถึงตอนที่ผมและเธอไปญี่ปุ่นกัน การพยายามคีบตุ๊กตาที่ไม่เคยอยู่ในโปรแกรมเที่ยวเดิมทีมาก่อนก็กลายมาเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะใช้เวลาทำ ผมหยอดเหรียญพยายามคีบ คิดว่าจะลองสักสองสามครั้งก่อน ผมไม่ได้คิดว่าจะทำได้ในครั้งเดียวอยู่แล้ว พยายามเล็งตู้ที่มีคุณสมบัติอย่างที่เพื่อนร่วมงานเคยเล่าให้ฟัง ครั้งแรกที่คีบ มันไม่ใกล้เคียงอะไรเลย ตัวจับยึดเลื่อนลงไป ขยับขาอ้าออกแล้วหุบเข้าไม่ได้อะไรติดขึ้นมาด้วย ผมต้องเล็งมุมใหม่ ครั้งที่สองมันเหมือนจะหยิบจับตุ๊กตาขึ้นมามาได้ แต่ไม่ทันที่ตัวจับยึดจะเลื่อนกลับขึ้นมาในแนวดิ่ง ตุ๊กตาก็ร่วงลงไปเสียก่อนแล้ว ครั้งที่สาม ใกล้เคียงกว่าเดิม ครั้งนี้หยิบจับขึ้นมาได้แล้วหลังจากเลื่อนในแนวดิ่งขึ้นมา แต่พอเลื่อนแนวขวางจะกลับปล่องหย่อนตุ๊กตาเท่านั้นแหละ ระหว่างทางมันหลุดตกลงไปในกองตุ๊กตาอีก

            อารมณ์พนันเข้าสิงผม อะไรแบบนี้มันขายอารมณ์เฉียดอยู่พอสมควร เกือบ ๆ แล้วจะได้ อีกนิดได้สิน่า ครั้งหน้าได้แน่ ซึ่งจริง ๆ ไม่เคยแน่ แต่ใจมันเริ่มเต้น และก็มุ่งหวังว่าจะได้ ถ้ายังไม่ใช่ครั้งหน้า ก็คงเป็นครั้งต่อไปและต่อไป

            รู้ตัวอีกที ผมน่าจะใช้เงินไปมากกว่ามูลค่าของตุ๊กตาที่พยายามคีบอยู่เสียอีก แต่ก็ยังเล่นอยู่ ที่จริงผมไม่รู้มูลค่าของตุ๊กตาแน่ชัด ที่ตู้ไม่ได้มีมูลค่าแปะบอกไว้ ผมก็แค่กะ ๆ เอา อีกใจก็คอยปลอบตัวเองจนเหมือนหลอกตัวเองว่า ผมไม่รู้หรอกว่าตุ๊กตานี่อาจจะแพงมาก ๆ แพงกว่าราคาที่ผมคิดไว้ก็ได้ ที่สำคัญมันไม่ได้มีไปวางขายอะไรที่ไหนสักหน่อย ดังนั้นแล้วถ้าผมอยากจะได้มัน ก็มีแต่ต้องพยายามคีบจากตู้นี้นั่นแหละ... แล้วก็หยอดเหรียญลงไปอีก

            ในที่สุด ไม่รู้ว่าด้วยโชคหรืออะไร ที่จริงผมยังแทบไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่าสุดท้ายแล้วคีบตุ๊กตามาได้ 1 ตัว !  อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย มันเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ กับคนคนหนึ่งที่ไม่เคยคีบตุ๊กตาได้มาก่อนเลย คิดว่าตัวเองไม่สามารถ กับวันนี้ทำได้แล้ว ถึงแม้จะเป็นการฟลุ๊กก็ตาม แต่ได้ก็คือได้ มันเป็นความแตกต่างระหว่างการไม่เชื่อว่าตัวเองทำได้หรือทำไม่สำเร็จอยู่แล้วกับการที่ทำได้ด้วยมือตัวเองอย่างน้อยสักครั้ง  ถึงมันจะเป็นแบบที่ผมเห็นเหตุการณ์กับตัวเองแล้ว มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ตุ๊กตาถูกคีบและเลื่อนมาใกล้ปล่อง ทว่าไม่ถึงปล่องมันก็ร่วงหล่นลงเสียก่อน แต่การกระแทกลงกองตุ๊กตามีเหลี่ยมมุมพิสดารบางชนิด กลายเป็นว่ามันไม่ได้หล่นตุ้บแล้วกองอยู่กับที่ แต่เป็นการกระดอนเด้งขึ้นนิด ๆ แล้วมันกลายเป็นเหมือนตุ๊กตาโผลงปล่องเข้ามาเองอย่างนั้น

            แต่ไม่สำคัญ ผมคีบตุ๊กตาสำเร็จแล้ว !

            ผมไปหาเธอ เธอก็กำลังง่วนอยู่กับตู้ต่าง ๆ อยู่ และเธอก็ได้ตุ๊กตามาสองตัวแล้ว เราดีใจกันตามประสาคนที่ไม่เคยคีบตุ๊กตาได้  ผมก็ยังหยอดอีกบางตู้ มันอาจจะเป็นความสงสัย ความอยากแน่ใจว่าเมื่อครู่เป็นเรื่องฟลุ๊กหรือไม่ หรือจริง ๆ ผมมีฝีมือ ส่วนเธออาจจะเป็นความได้ใจอะไรบางอย่าง อยากจะคีบต่อ เธอได้มาสองตัวก็จริง แต่แทบจะแน่ใจได้เหมือนกันว่าเธอกล้าหยอดเล่นมากกว่าผมมาก น่าจะหมดเงินไปมากทีเดียว ผมเอ่ยถามจำนวนเงินที่ใช้ไป เธอก็ไม่ยอมบอก  แต่ใช่ มันเหมือนบางความรู้สึกถูกจุดขึ้นในใจ อาการเสพติดบางทีอาจเริ่มขึ้นได้ง่าย ๆ แบบนี้เอง

            ผมพลาดหวังไปอีกหลายที เสียเงินไปอีกหลายตังค์ รวม ๆ ยอดทั้งหมด ผมแทบเริ่มไม่กล้ารวมยอดแปลงค่าเป็นเงินไทยสักเท่าไรแล้ว มันน่าจะเฉียดใกล้หนึ่งพันบาทเต็มที ผมรู้ว่าตัวเองควรต้องหยุดแล้ว  เธอยังคงเล่นอยู่ ได้ตุ๊กตามาอีกหลายตัว เหมือนเธอเริ่มจับจุดได้แล้ว เรียกว่ามีทักษะนี้ติดตัวแล้วก็ว่าได้ เพราะมันไม่ได้ต้องใช้โอกาสมากครั้งเท่ากับก่อนหน้านี้ แต่เธอสามารถคีบตุ๊กตามาได้บ่อยขึ้น ตอนนี้ปริมาณตุ๊กตาที่เธอมีในครอบครอง มันเริ่มชวนให้มีคำถามไปในอีกทิศทางหนึ่งมากกว่า คือจะเอาตุ๊กตาทั้งหมดนั้นไปทำอะไรหรือ มันเป็นสิ่งที่ดูไม่ได้มีประโยชน์อะไรนอกจากเรื่องความสวยงาม ความชอบ ความพึงใจส่วนบุคคลที่ได้มีมันไว้ ว่าไปแล้วถ้านึกถึงที่คอนโดของเรา ก่อนหน้านี้เราก็มีบรรดาตุ๊กตาที่หยอดกาชาปองอะไรต่าง ๆ มา รวมถึงการซื้อหุ่นโมเดลวางอยู่ที่ห้องไปไม่น้อยแล้วด้วยซ้ำ แต่รอบนี้เราได้รู้เรื่องเทคนิคการคีบตุ๊กตานี้ แล้วก็เป็นอาการอยากลอง พอลองแล้วก็เกิดผลพวงทั้งหมดมาจนถึงตอนนี้นั่นเอง มันก็ชวนคิดว่าจริง ๆ เรายังต้องการตุ๊กตาจากตู้คีบต่ออยู่อีกหรือเปล่า หรือมันเป็นเพียงเพราะเราชอบอารมณ์พนัน แสวงหาความตื่นเต้น สนุกกับการลุ้นมากกว่าจะคิดถึงปลายทางที่เป็นสิ่งของที่จะได้มา ซึ่งคงน่าจะใช่แหละ คงเป็นแบบนั้น

            เธอน่าจะเสียเงินรวมทั้งหมดไปเยอะเลยแหละ ผมเริ่มพยายามชวนเธอให้ไปที่อื่นต่อ อย่ามาอยู่ตรงนี้อีกแล้วเลย ว่าไปแล้วเรายังมาเที่ยวต่างประเทศด้วย ซึ่งการท่องเที่ยวอาจมีกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งได้ แต่กิจกรรมนี้ไม่ควรเป็นอะไรทั้งหมดของสิ่งที่เรียกว่าการท่องเที่ยว ต้องยื้อกันอยู่สักพักเหมือนกันกว่าเธอจะยอมไป

            จบทริปญี่ปุ่น เราได้ท่องเที่ยวกันพอสมควร และได้ตุ๊กตามาพอสมควร มันก็ถูกมาวางระเกะระกะตามที่ต่าง ๆ ในห้องคอนโดเล็ก ๆ ของเรา  ผมก็คิดว่าจบแล้วเรื่องตู้คีบตุ๊กตา... แต่มันไม่ได้จบเสียทีเดียว

            สักไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เธอเริ่มพูดถึงตู้คีบตุ๊กตาตามห้างสรรพสินค้า พูดถึงแหล่งรวมตู้คีบตุ๊กตาในกรุงเทพ บอกว่ามันก็มีอยู่ไม่น้อย และน่าไปลองเล่นอยู่เหมือนกัน  บอกตรง ๆ ผมรู้ว่านี่ไม่เกี่ยวกับตุ๊กตาแล้วแหละ มันไม่ใช่เป้าประสงค์อะไรของเธออีกต่อไป แต่ถ้าเธอคิดว่าเล่นคลายเครียด ใช้เงินไม่เกินตัวเกินไป ผมก็ยังคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะชีวิตคนเรามันก็ย่อมมีด้านอะไรแบบนี้อยู่ด้วยกันทั้งนั้น สุดแท้แต่ว่ามันจะเป็นอะไร แต่จะต้องมีบางด้านที่เราอยากจะใช้เงินไปกับมัน เพื่อปลดปล่อย เพื่อความบันเทิง และเพื่ออะไรอื่นอย่างที่ไม่ได้ต้องหาเหตุผลอะไรมากมาย ตราบใดที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนและไม่ได้ทำให้ตัวเองเดือดร้อน

            ผมก็ไปกับเธอ แต่ผมค่อนข้างจะเรียนรู้แล้วว่าผมไม่สามารถทางด้านนี้ และไม่คิดว่าจะเล่นมันอีก  เธอก็ลองหยอดตู้คีบบางตู้ แต่อะไร ๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคาดนักว่ามันจะเป็นไป ผมคาดในทีแรกว่าเธออาจจะเล่นมันยาว ๆ อีกแล้ว แต่เรื่องกลายเป็นว่าเธอลองดูไม่กี่ครั้งก็เลิก

            ผมอยู่ร่วมเหตุการณ์ด้วยก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมเธอถึงเลิกง่าย ๆ แบบนั้น  ถ้าสรุปอย่างรวบรัดก็คือตู้ที่นี่คีบไม่ได้ง่ายเหมือนที่ญี่ปุ่น ซึ่งที่นั่นก็อาจไม่ได้ควรเรียกว่าคีบง่ายนักแล้ว แต่ที่นี่เรียกว่ายากเลยดีกว่า

            ตัวจับยึดขาอ่อนแรงกว่า แต่การเลื่อนแต่ละจังหวะกลับกระชากกว่ามาก ซึ่งทำให้โอกาสได้ตุ๊กตายากกว่ามาก  เห็นตอนที่ตัวจับยึดเคลื่อนและอาการของมันตอนที่หยิบจับ ก็รู้สึกว่าลำบากจริง ๆ

            แล้วอาจจะมีเหตุผลอื่นด้วย อย่างตอนเราไปเที่ยว มันก็จะมีอารมณ์ของความไปเที่ยวและพร้อมจะจ่าย มีความสุขกับมันได้มากกว่า

            ผมอาจควรจะดีใจที่เธอเลิกเล่นแล้ว และถ้าจะเล่นตอนไปเที่ยวกันจริง ๆ ก็คงไม่ได้ถี่มากอยู่แล้ว

            แต่ผมกลับมีความรู้สึกคล้าย ๆ ความเศร้า คล้าย ๆ ความโกรธ

            ...ตัวจับยึดขาอ่อนแรงกว่า แต่การเลื่อนแต่ละจังหวะกลับกระชากกว่ามาก ซึ่งทำให้โอกาสได้ยากกว่ามาก

            แต่ผมไม่ได้นึกถึงแค่ตู้คีบตุ๊กตา ไม่ได้นึกถึงแค่ผมและเธอ

            ไม่เกี่ยวกับว่าปลายทางนั้นมันจะเป็นสิ่งที่ถูกมองว่ามีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ ครอบครองแล้วมันรกหรือระเกะระกะอะไรไหม แค่ว่ามันเป็นสิ่งที่คนต้องการ

            มันเป็นความแตกต่างระหว่างความเป็นไปได้กับความเป็นไปไม่ได้

            มันเป็นความแตกต่างระหว่างความมีหวังกับไร้หวัง

 

............................................................

 

Link ที่เกี่ยวข้อง

 

               “บางกอกไลฟ์นิวส์” เปิดรับ “เรื่องสั้น” และ “บทกวี”  

 

                วรรณกรรมออนไลน์