คณะ บทจ.2 ศึกษาดูงานเมืองจีน ส่งเสริมความร่วมมือไทย-จีน
“สว.ชิบ“ ปลื้มความสำเร็จอย่างงดงาม นำคณะหลักสูตรบริหารธุรกิจไทย-จีน รุ่น 2 ศึกษาดูงานเมืองจีน ตอกย้ำความสำเร็จการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-จีนให้มั่นคงอย่างยั่งยืน
คณะผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรบริหารธุรกิจไทย-จีน รุ่นที่ 2 ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ได้ปิดฉากการศึกษาดูงานในสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างงดงาม ระหว่างวันที่ 15-20 พฤศจิกายน 2568 โดยได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ เมืองหางโจว เมืองซูโจว และเมืองเซี่ยงไฮ้ ตอกย้ำความสำเร็จของการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีน
การศึกษาดูงานครั้งนี้นำโดย นายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ในฐานะเลขาธิการสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะศึกษาดูงาน ซึ่งครอบคลุมการเยี่ยมชมบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน อาทิ Alibaba, Tianma, Geely และ MicroPort สะท้อนภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมจีนในยุคดิจิทัล และนวัตกรรมทางการแพทย์ที่กำลังก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับโลก

คณะผู้ศึกษาดูงานได้ประจักษ์ถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Alibaba ซึ่งเป็นศูนย์รวมสุดยอดทีมงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลชั้นนำอย่าง Taobao, Tmall, Cainiao และ Alibaba Cloud จนกลายเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนและโลกอย่างแท้จริง
การเยี่ยมชมบริษัท Tianma ผู้นำเทคโนโลยีจอแสดงผลระดับโลก ทำให้คณะผู้ศึกษาดูงานได้เห็นถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ครอบคลุม AMOLED, LTPS, จอแบบยืดหยุ่น (Flexible OLED), จออัตรารีเฟรชสูง, จอพับได้ และจอโปร่งแสง ซึ่งถูกนำไปใช้ในสมาร์ตโฟนระดับโลกและยานยนต์ไฟฟ้า


คณะผู้ศึกษาดูงานยังได้สัมผัสวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมยานยนต์จีนยุคใหม่ที่ Geely บริษัทผู้ก้าวข้ามบทบาทจากผู้ผลิตรถยนต์ สู่บริษัทเทคโนโลยีการเดินทาง (Mobility Tech Company) ที่มุ่งเน้นเทคโนโลยี การออกแบบ และมีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ที่เต็มไปด้วยรถต้นแบบและห้องทดสอบนวัตกรรม
การเยี่ยมชมบริษัท MicroPort แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่อยกระดับการรักษาในหลากหลายสาขา อาทิ หัวใจ หลอดเลือด ออร์โธปิดิกส์ และนาโนเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้เทคโนโลยีการแพทย์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา

ในการศึกษาดูงานหลักสูตรบริหารธุรกิจไทย-จีน รุ่น 2 คณะยังได้มีโอกาสร่วมในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนคณะกรรมการสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้านเศรษฐกิจและการค้าอาเซียน ที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ โดยสำนักงานดังกล่าวมีเป้าหมายหลักในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและอาเซียน รวมถึงสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับ SME ไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยมี นายแจ๊กกี้ แซ่เฉิ่น คนไทยเชื้อสายจีน ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมวิสาหกิจอาเซียน ซึ่งในปัจจุบันดำรงตำแหน่งอุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ด้วย


นายแจ็คกี้ เปิดเผยว่า การเปิดสำนักงานผู้แทนฯ นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างจีนและอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างโอกาสใหม่ให้กับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ของไทยและภูมิภาคอาเซียน การเชื่อมโยงธุรกิจและการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียน จะช่วยให้ SME สามารถเติบโตและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
นายแจ็คกี้กล่าวอีกว่า สำนักงานผู้แทนฯ นี้ จะเป็นศูนย์กลางในการผลักดันความสำเร็จในด้านพลังงานสีเขียว การพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล และการขยายรายการสินค้าปลอดภาษีภายใต้กรอบ RCEP หรือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุม 15 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก มีเป้าหมายเพื่อลดอุปสรรคทางการค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาด และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาค
คุณจู ยวี้ รองประธานบริหารสมาคมฯ กล่าวเสริมว่า การตั้งสำนักงานผู้แทนฯ ที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน จะช่วยให้สมาคมฯ สามารถดำเนินงานเชิงรุกในการส่งเสริมความร่วมมือด้าน SME ระหว่างจีนและอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสำนักงานฯ จะมุ่งเน้นการให้การสนับสนุนด้านข้อมูล เทคโนโลยี และการจับคู่ทางธุรกิจ เพื่อให้ SME สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในตลาดโลก

นายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา และเลขาธิการสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ในฐานะหัวหน้าคณะศึกษาดูงาน ได้กล่าวถึงความสำเร็จของหลักสูตรนี้ว่าเป็นการสร้างเครือข่ายธุรกิจไทย-จีน ที่จะช่วยย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตามคำกล่าวของท่านสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ว่า "ไทย-จีน ใช่อื่นใคร ครอบครัวเดียวกัน" พร้อมแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของการศึกษาดูงานครั้งนี้ว่า "การศึกษาดูงานครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เกินความคาดหมาย คณะผู้เข้าร่วมอบรมได้เปิดโลกทัศน์ ได้เห็นถึงศักยภาพของสาธารณรัฐประชาชนจีนในด้านต่าง ๆ ทั้งเทคโนโลยี นวัตกรรม และการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาธุรกิจของตนเอง และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น" และแสดงความเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะยืนยงสืบไป
การศึกษาดูงานครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างนักธุรกิจไทยและจีน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืน

