BEDO จัดงาน UNLOCK WHAT MATTERS: “เปิดเผย” เพื่อ “ปลดล็อค”
BEDO จัดงาน UNLOCK WHAT MATTERS: “เปิดเผย” เพื่อ “ปลดล็อค” สู่อนาคตที่ยั่งยืน หนุนให้ภาคธุรกิจไทยเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่มาตรฐานความยั่งยืนระดับสากล
สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO จัดงาน “UNLOCK WHAT MATTERS: เปิดเผย เพื่อ ปลดล็อค สู่อนาคตที่ยั่งยืน” ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดยมีนายสุวีร์ งานดี รองผู้อำนวยการ สพภ. รักษาการแทนผู้อำนวยการ สพภ. ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวต้อนรับและชี้แจงวัตถุประสงค์ในการจัดงาน โดยกล่าวงาน “UNLOCK WHAT MATTERS: “เปิดเผย” เพื่อ “ปลดล็อค” สู่อนาคตที่ยั่งยืน” จะสื่อให้ทุกท่านเห็นว่า การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับความหลากหลายทางชีวภาพนั้น คือกุญแจสำคัญในการปลดล็อคศักยภาพขององค์กรอย่างยั่งยืน
การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่แนวทางและสร้างความเข้าใจให้ภาคธุรกิจไทยเตรียมความพร้อมในการ “เปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับความหลากหลายทางชีวภาพ” ตามแนวทางและมาตรฐานสากล ซึ่งแม้ปัจจุบันยังเป็นการเปิดเผยโดยสมัครใจ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจไทยให้สอดคล้องกับกระแสความยั่งยืนของโลก และตอบสนองต่อความคาดหวังของนักลงทุน ผู้บริโภค และตลาดทุน ภายในงาน ช่วงเช้าเป็นการบรรยายพิเศษจากวิทยากรชั้นนำหลายภาคส่วน อาทิ
คุณกตัญชลี ธรรมกุล ผู้อำนวยการกองจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า “ความหลากหลายทางชีวภาพอยู่รอด ธุรกิจอยู่ได้: เปิดเผยข้อมูลวันนี้ เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มโอกาส ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน”
คุณจุฬวดี วรศักดิ์โยธิน ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความยั่งยืน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า “To compete, not to comply การเตรียมพร้อมวันนี้ ทำให้ปรับตัวได้ก่อน และสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว”
คุณวรางคณา ภัทรเสน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความรู้ด้านความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพในส่วนที่เป็นสาระสำคัญของธุรกิจ เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียรับทราบถึงความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบต่อประเด็นดังกล่าว”
ผศ.ดร.เจษฎา ศาลาทอง อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “กว่า 74% ของผู้บริโภคไทยพร้อมจ่ายเพิ่ม 25–100% เพื่อสินค้าที่คำนึงถึงความยั่งยืน การเปิดเผยข้อมูลฯ จึงเป็นกุญแจสำคัญในการแสดงความจริงใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค”
ส่วนในช่วงบ่าย มีการนำเสนอผลการศึกษาและแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับภาคธุรกิจไทย โดย นางสาวพักตร์พิมล โชคดีปรีชากุล ผู้อำนวยการสำนักเผยแพร่และส่งเสริมการมีส่วนร่วม สพภ. และ ดร.เพชร มโนปวิตร นักวิทยาศาสตร์ด้านการอนุรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาโครงการ
งานครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากผู้แทนภาคธุรกิจ ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 100 คน สะท้อนให้เห็นถึงกระแสความตื่นตัวของสังคมไทยต่อประเด็น “ความหลากหลายทางชีวภาพกับการดำเนินธุรกิจ” ที่กำลังเป็นกระแสในระดับสากล
ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงกับความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม แต่ยังเป็น “กุญแจ” สำคัญในการปลดล็อคโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งด้านการเข้าถึงเงินลงทุน ความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค และการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืนอีกด้วย