เตรียมเสนอ “หนังใหญ่” “ข้าวเม่า” ขึ้นทะเบียนยูเนสโก

ไทยเตรียมเสนอ “หนังใหญ่” ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโกในประเภท แผนงาน โครงการและกิจกรรมที่มีการสงวนรักษาที่ดี ในเดือนมีนาคม 69 พร้อมเสนอรายการ “ข้าวเม่า” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกร่วมอาเซียน


          นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมการประชุม ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ กระทรวงวัฒนธรรม

 

 

          นางสาวแพทองธาร เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบประกาศเกียรติคุณเพื่อยกย่องบุคคล กลุ่มบุคคล ชุมชน องค์กร หรือหน่วยงานที่ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี 2568 จำนวน 2 ประเภท ได้แก่ บุคคล 10 ราย นายเมตต์ เมตต์การุณ์จิต, นายขวัญชัย สุรินทร์ศรี, นายอุทัย พรหมวงศ์, ผศ.ศิริเพ็ญ อัตไพบูลย์, นายพิศณุภงศ์ ศรีศากยวรางกูร, นายเจษฎา นิลสงวนเดชะ, นายชาญชัย สุนันท์กิ่งเพชร, นายรัชพล เต๋จ๊ะยา, นางถิรนันท์ โดยดี และนายชินวุธ ศิริสัมพันธ์ และกลุ่มบุคคล/องค์กร/หน่วยงาน 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมและการกีฬา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์, กลุ่มวิจัยประวัติศาสตร์ และมรดกทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน), สมาคมครูมวยไทย และโรงเรียนวัดสะแก

 

 

          นอกจากนี้ได้พิจารณาเสนอ "โครงการฟื้นฟูหนังใหญ่โดยชุมชนหนังใหญ่ในประเทศไทย" (The Community-based Revitalization of Nang Yai Traditional in Thailand: CRNT) เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโกในบัญชีประเภท แผนงาน โครงการ และกิจกรรมที่มีการสงวนรักษาที่ดี (Register of Good Safeguarding Practices) เนื่องจากหนังใหญ่เป็นศิลปะการแสดงไทยทำจากหนังวัวหรือควาย จัดแสดงกลางแจ้งในพระราชวัง วัด หรือหมู่บ้าน โดยใช้แสงกองไฟส่องผ่านจอผ้า เล่าเรื่องรามเกียรติ์จากรามายณะ มีมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 แต่ปัจจุบันใกล้สูญหายเหลือเพียง 3 ชุมชนที่ยังสืบทอด คือ วัดขนอน จ.ราชบุรี, วัดบ้านดอน จ.ระยอง และวัดสว่างอารมณ์ จ.สิงห์บุรี ดังนั้นการฟื้นฟูหนังใหญ่จึงเป็นตัวอย่างการรักษามรดกวัฒนธรรมให้มีชีวิตและเผยแพร่ทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และนานาชาติ

 

 

          ทั้งนี้ปัจจุบันมีเพียง 40 รายการ จาก 788 รายการที่ขึ้นทะเบียนในประเภท “แผนงาน โครงการ และกิจกรรมที่มีการสงวนรักษาที่ดี” ยูเนสโกจึงสนับสนุนให้ประเทศภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้เสนอขึ้นทะเบียนในบัญชีประเภทดังกล่าว โดยหลังจากนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จะจัดทำเอกสารข้อมูลหนังใหญ่ให้สมบูรณ์ และคาดว่าจะเสนอ ครม. เห็นชอบและเสนอต่อยูเนสโกภายในเดือนมีนาคม 2569

          รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังรับทราบประเด็นสำคัญ ดังนี้ ความคืบหน้าการเสนอรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมต่อยูเนสโก ได้แก่ ประเพณีลอยกระทงในประเทศไทยและชุดไทย : ความรู้ งานช่างฝีมือและแนวปฏิบัติการแต่งกายชุดไทยประจำชาติ (Chud Thai : The Knowledge, Craftsmanship and Practices of the Thai National Costume) ซึ่งยูเนสโกมีหนังสือแจ้งยืนยันว่าจะนำรายการ ชุดไทย : ความรู้ งานช่างฝีมือ และแนวปฏิบัติ การแต่งกายชุดไทยประจำชาติเข้าสู่การพิจารณาเพื่อนำขึ้นทะเบียนในบัญชีตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 21 ในปี 2569

 

 

          นอกจากนี้ รับทราบการเสนอรายการ ข้าวเม่า (Duman) เป็นมรดกร่วมกับประเทศในอาเซียน เพื่อเสนอยูเนสโก เนื่องจากประเทศฟิลิปปินส์เชิญชวนประเทศไทยและประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนที่มีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับข้าวเม่าขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยมีเป้าหมายยื่นเสนอเอกสารขึ้นทะเบียนในปี 2569 ขณะนี้ สวธ. และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอยู่ระหว่างรวบรวมและจัดทำข้อมูล เพื่อขึ้นบัญชีระดับจังหวัดและระดับชาติตามลำดับ นอกจากนี้ยังรับทราบเกี่ยวกับการสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการในกรอบการดำเนินงานขององค์การยูเนสโก และที่ประชุมยังรับทราบการประกาศขึ้นบัญชีมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2567 จำนวน 10 รายการ ประกอบด้วย ตำนานสุบินกุมาร, เพลงทรงเครื่อง, ผ้าเกาะโส้, ยิงคันกระสุน, ตำนานพระนางสร้อยดอกหมาก, ตำนานเขานางหงส์, เรือมอันเร, บุญเดือน 3 นมัสการพระธาตุพนม, เสื่อกกจันทบูร และผ้าหม้อห้อม