'พิ้งค์' นักแบดหญิงดาวรุ่งทีมชาติไทย พร้อมลุยศึกในปี 2025

"พิ้งค์" นักแบดมินตันหญิงดาวรุ่งทีมชาติไทย ร่วมยินดี รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ครบรอบ 5 ปี ลั่นพร้อมลุยศึกโอดิชา มาสเตอร์ส เวิลด์ทัวร์ 100 ที่อินเดีย ตั้งเป้าปี 2025 จะกลับมาฟิตเต็มที่เตรียมลุยซีเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ

          โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ จัดงาน ครบรอบ 5 ปี "Striving For Excellence" มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ และร่วมเปิดตัว PRINCE of BONES by Princ HOSPITAL SUVARNABHUMI เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา

 

 

          "ศูนย์รักษาโรคกระดูกและข้อแบบองค์รวม" แนะนำทีมแพทย์ และศักยภาพของศูนย์ฯ โดยมี นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล กรรมการผู้จัดการและรองประธานคณะกรรมการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล ประธาน ในพิธี และ "พิ้งค์" พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักแบดมินตันหญิงดาวรุ่งทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์เยาวชนโลกปี 2023 ได้ร่วมงานอีกด้วย

          ด้าน "พิ้งค์" พิชฌามลณ์ เปิดเผยว่า ขอแสดงความยินดีกับ รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ที่ได้ก่อตั้งเป็นปีที่ 5 แล้ว และขอบคุณทาง รพ.พริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีเสมอมาตลอด 2-3 ปีนี้

 

 

          นอกจากนี้ พิ้งค์ได้เผยถึงสภาพร่างกายว่า "ตอนนี้เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บบริเวณเข่าซ้ายเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นรุนแรงมาก แต่ก็ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นที่ทำได้ไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา ส่วนการแข่งขันในปีนี้ก็จะไปแข่งขันในศึกโอดิชา มาสเตอร์ส เวิลด์ทัวร์ 100 ในวันที่ 10 -15 ธ.ค.67 นี้ และตั้งเป้าจะทำผลงานออกมาให้ที่สุด ส่วนในปี 2025 วางแผนไว้ตั้งใจทำร่างกายกลับมาให้ฟิตสมบูรณ์และอยู่จุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง สำหรับการแข่งขันในระดับเวิลด์ทัวร์ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่บรรุลเป้าหมายเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเล่นงานมาตลอด แล้วก็พร้อมตั้งเป้าหมายกลับไปอยู่ 40 อันดับแรกของโลกให้ได้อีกครั้ง และคาดหวังไว้ว่าจะติดทีมไปลุยในศึกซีเกมส์ 2025 ในบ้านให้ได้อีกครั้ง"

 

   

 

          ขณะที่ นพ.ณัฐพล ศิริโภคารัตนา ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ เวชศาสตร์การกีฬา ศูนย์รักษาโรคกระดูกและข้อแบบองค์รวม โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ เผยถึงอาการบาดเจ็บของ “น้องพิ้งค์” ว่า "อาการบาดเจ็บของน้องพิ้งค์เป็นเรื่องธรรมดาของนักกีฬาอาชีพ เพราะเนื่องจากการแข่งขันกีฬาแบดมินตันมีการเคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลา ทั้งการบิด เอี้ยวตัวต่างๆ จะทำให้สร้างภาระต่อร่างกายบริเวณเส้นเอ็นเราอยู่แล้ว แต่เรายืดเส้นและวอร์มก่อนแข่งได้ดีพอทำให้มีอาการบาดเจ็บหรือฉีดขาดต่างๆ ลดลงไป แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องระวังก็คือ การฝึกซ้อมต่างๆ หากซ้อมเยอะเกินไปจนร่างกายเกินที่จะรับไหวก็จะเสี่ยงให้เกิดอาการบาดเจ็บได้”