‘สภาผู้บริโภค’ สานพลังอาเซียน+3 จัดถก สู้ ‘ภัยออนไลน์ - AI’

‘สภาผู้บริโภค’ สานพลังอาเซียน+3 จัดถก สู้ ‘ภัยออนไลน์ - AI’

 

              “สภาผู้บริโภค” สานพลังอาเซียน+3 จัดประชุมนานาชาติ 29 - 30 ส.ค.นี้ คุ้มครองผู้บริโภค ยุค “ศก.ดิจิทัล – เอไอ” ชี้ 3 ปี เสียหาย 65,000 ล./ปี

 

              สภาผู้บริโภคเผย 3 ปี พบคนไทยเสียหายจากภัยออนไลน์สูงถึง 65,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 180 ล้านบาทต่อวัน ครึ่งแรกปี 2567 สถิติร้องเรียนสูงถึง 1,386 กรณี จากช่องทางเฟสบุ๊คสูงสุด เตรียมเปิดเวทีสัมมนาใหญ่ “โครงการสานพลังอาเซียนบวกสาม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในเศรษฐกิจดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์” ครั้งแรกในอาเซียน อัพเดทกลโกง ถกหาความร่วมมือที่เข้มแข็ง 29 - 30 ส.ค.นี้ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปรับฟังฟรีทาง https://www.facebook.com/tccthailand

 

              น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค หรือสภาผู้บริโภค เปิดเผยว่า สภาผู้บริโภคร่วมกับมูลนิธิผู้บริโภคอินโดนีเซีย (YLKI) และสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคมาเลเซีย (FOMCA) เตรียมเปิดเวทีการประชุมนานาชาติระดับภูมิภาค “โครงการสานพลังอาเซียนบวกสาม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคในเศรษฐกิจดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์” ครั้งแรกในอาเซียน โดยมีองค์กรของผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียนบวกสามได้แก่ กัมพูชา บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สิงคโปร์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และประเทศไทย เข้าร่วมเวทีนานาชาติระดับภูมิภาคครั้งนี้

 

 

              ทั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ สถานการณ์ปัญหา การจัดการการละเมิดสิทธิผู้บริโภค ร่วมกับกลุ่มองค์กรของผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียนบวกสาม ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือขององค์กรของผู้บริโภค หน่วยงานรัฐ หน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องในไทยให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อรองรับการดำเนินการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคจากธุรกิจแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและการใช้เอไอ ให้มีมาตรฐานในการแสดงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วยความเป็นธรรม โดยการสัมมนานี้จะจัดขึ้นในวันที่ 29 - 30 สิงหาคม นี้ ณโรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต

 

              น.ส.สารี กล่าวว่า ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและเอไอก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ได้เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันและการประกอบธุรกิจ แต่ก็ได้สร้างปัญหาการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคในหลายรูปแบบ และเปลี่ยนแปลงไปมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทั้งการฉ้อโกง การหลอกลวง การเผยแพร่ข้อมูลเท็จ การละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และการใช้อำนาจผูกขาดของผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม

 

              “ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาประชาชนในประเทศไทยได้รับความเสียหายจากภัยออนไลน์สูงถึง 65,000 ล้านบาทต่อปี หรือเฉลี่ย 180 ล้านบาทต่อวัน ในขณะที่ สภาผู้บริโภค พบสถิติร้องเรียนการหลอกลวงซื้อสินค้าและบริการทั่วไปผ่านระบบออนไลน์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 สูงถึง1,386 กรณี”

 

              น.ส.สารี ระบุว่า เฉพาะข้อมูลล่าสุดในเดือนมิถุนายน มีการร้องเรียน 258 กรณี โดยเป็นการซื้อสินค้าผ่าน Facebook สูงสุด 193 กรณี หรือคิดเป็นสัดส่วน 75% ของข้อร้องเรียนทั้งหมด รองลงมาคือ Lazada และ Shopee 30 กรณี คิดเป็น 12 % จาก Merchant Website (การขายสินค้าหรือบริการผ่านเว็บไซต์) 9 กรณี คิดเป็นสัดส่วน 12 % , TikTok 11 กรณี หรือ 3 % , Line 4 กรณี คิดเป็นสัดส่วน 2 % และช่องทางอื่น ๆ รวม 22 กรณีหรือคิดเป็นสัดส่วน 9%

 

              “โลกเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้การหลอกลวงและกลโกงมีความซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้น สภาผู้บริโภค จำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลที่ทันสมัยรอบด้าน มีการเรียนรู้ประสบการณ์จากหลาย ๆ ประเทศ ตลอดจนการประสานความร่วมมือที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในระดับนานาชาติ เพื่อพัฒนานวัตกรรมเครื่องมือที่เหมาะสมทันต่อสถานการณ์ ดังนั้นเวทีสัมมนาซึ่งจะเกิดขึ้นวันที่ 29 - 30 สิงหาคมนี้ ก็จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือของเราในการแสวงหาโอกาสต่อการสร้างความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคไทยมากยิ่งขึ้น”

 

              ทั้งนี้ ในเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่มประเทศอาเซียนบวกสาม จะมุ่งสะท้อนสถานการณ์และการจัดการปัญหาผู้บริโภคด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ และตามด้วยการเสวนาจากผู้แทนองค์กรผู้บริโภคจากประเทศต่าง ๆ ในหัวข้อ “แนวทางและมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์” หลังจากการระดมสมองในเวทีต่าง ๆ แล้ว การสัมนานานาชาติครั้งนี้ จะนำไปสู่การนำเสนอร่างแผนความร่วมมือของสภาผู้บริโภคและองค์กรผู้บริโภค ในประเทศกลุ่มอาเซียนรวมถึงประเทศจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่คาดหวังว่า จะเป็นยุทธการรับมือจากการใช้เทคโนโลยีเอไอที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคที่เข้ามาในยุดเศรษฐกิจดิจิตอล

 

              พร้อมกันนี้ ประชาชนทั่วไปที่สนใจสามารถเข้ารับฟังการสัมมนาผ่านการถ่ายทอดสด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายทาง

https://www.facebook.com/tccthailand

 

 

 

//..................