วิกฤติ ‘ทะเลเดือด’ !! เรื่องเศร้า ‘ปลาการ์ตูน’ และ ‘ปะการังฟอกขาว’

วิกฤติ ทะเลเดือด’!! เรื่องเศร้า ปลาการ์ตูนและ ปะการังฟอกขาว

 

              “ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” สลดใจ วิกฤติ “ทะเลเดือด” บอกเล่าเรื่องราวสุดเศร้า ของ “ปลาการ์ตูน” และ “ปะการังฟอกขาว” ระบุ “ทะเลเดือด” ไม่มี “ฮีโร่” ผลกระทบ “ก๊าซเรือนกระจก” จาก “มนุษย์โลก”

 

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เผยแพร่ข้อความและรูปภาพ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thon Thamrongnawasawat” บอกเล่าเรื่องราวสุดเศร้าของ “ปลาการ์ตูน” และ “ดอกไม้ทะเลฟอกขาว” จาก “วิกฤติทะเลเดือด” โดยมีเนื้อหา ดังนี้

 

 

 

              “ชีวิตลูกปลาการ์ตูนเริ่มต้นเมื่อเธอออกจากไข่ เธออำลาพ่อแม่ในบ้านเก่า ก่อนล่องลอยตามน้ำไปหาบ้านใหม่

 

              บ้านของเธอคือดอกไม้ทะเล หลังจากลงสู่พื้น เธอมีเวลาหาบ้าน 24 ชั่วโมง ไม่งั้นเธอตายแน่ ปลาการ์ตูนอยู่เพียงลำพังไม่ได้

 

              เธอลอยไปพร้อมกับพี่น้องอีกหลายร้อย ผู้ทยอยไปสวรรค์ในอัตราชั่วโมงละหลายสิบตัว

 

              ปลากินเนื้อทุกตัวชอบลูกปลาการ์ตูน เป็นของว่างชั้นดีเลย

 

              เธอเข้าไปหาบ้านเพื่อขออาศัย บ้านไม่ว่าอะไร แต่เจ้าของเดิมขับไล่

 

              ปลาการ์ตูนเป็นปลาสลิดหิน ปลากลุ่มนี้หวงถิ่นสุด ๆ เธอจึงต้องกระเซอะกระเซิงหนีมาเรื่อย ๆ จนเจอดอกไม้ทะเลกอนี้

 

              เธอคือ 1 ในจำนวนสุดน้อยของผู้รอดชีวิต พี่น้องเธอตายเกือบหมด ธรรมชาติไม่เคยปรานีใคร

 

              บ้านนี้มีเจ้าของ แต่มีไม่มาก เธอพอจะหาทางหลบหนีไปรอบ ๆ

 

              ระหว่างนั้น เธอแอบหาอาหารไปเรื่อย เศษเหยื่อจากดอกไม้ทะเล หรืออะไรที่กินได้ เธอกินหมด

 

              เวลาผ่านไป เธอตัวใหญ่ขึ้นนิดนึง ธรรมชาติเริ่มปรานีเธอแล้ว เธอลงหลักปักฐานที่บ้านหลังนี้

 

              ทว่า โลกนี้คือโลกมนุษย์ เราคือเจ้าของโลกเฟ้ย ธรรมชาติคือข้าทาสเรา เราจึงขุด ๆ ๆ เอาซากศพพืชสัตว์ในอดีตมาใช้ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นไปบนฟ้าเยอะเลย

 

              เยอะ ๆ จนโลกเริ่มร้อน มหาสมุทรเริ่มเปลี่ยนแปลง ทะเลดูดซับความร้อนไม่ไหวแล้ว จากนั้นอุณหภูมิน้ำก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ

 

              สัตว์ต่าง ๆ ร้องไห้ครวญคราง แต่มนุษย์บอกช่างมันฉันฟังปลาพูดไม่ออก สัตว์ชั้นต่ำจงทรมานต่อไป อีก 40 ปีเราจะช่วยพวกเจ้าด้วยการเป็น Net Zero

 

              ปลาน้อยแต่มีความหวังอันยิ่งใหญ่ว่าจะอยู่ไปอีกนาน ๆ จนโตเป็นเจ้าของบ้านคุมพลพรรคปลาการ์ตูน จู่ ๆ เธอก็พบตัวเองว่า เธอได้เป็นจ่าฝูงเฉยเลย

 

              จ่าฝูงที่ไม่มีลูกฝูงสักตัว เพราะปลาอื่นหนีจากบ้านหลังนี้ไปหมดแล้ว

 

              ดอกไม้ทะเลที่เธออยู่มีขนาดเล็ก ยังเกิดมาซวยทนร้อนได้น้อยกว่าชาวบ้าน จึงฟอกขาวเร็วกว่า ทำให้ปลาการ์ตูนอื่น ๆ รีบชิ่งหาที่อยู่ใหม่

 

              เหลือเธอตัวเดียว เธอเองก็อยากไปที่อื่น แต่เธอไปไม่ไหว ดอกไม้ทะเลแถวนี้มีอีกเพียงกอเดียว มีปลาอยู่ร่วมสิบ เธอบุกเข้าไปไม่ได้

 

              งานวิจัยล่าสุดพบว่า เมื่อดอกไม้ทะเลฟอกขาว ปลาการ์ตูนจะมีส่วนสำคัญทำให้รอด เพราะปลาว่ายไปมา หนวดขยับเขยื้อน มวลน้ำเคลื่อนไหว ไม่ใช่แช่น้ำร้อนนิ่งตลอดเวลา

 

              ดอกไม้ทะเลที่ปลาการ์ตูนไปรุมกันอยู่จึงแค่มีสีซีด ผิดกับบ้านของเจ้าปลาน้อยที่กลายเป็นสีขาว

 

              ฐานเกาะเริ่มเหี่ยวย่น หนวดแน่นิ่ง ปลาน้อยได้แต่ซุกตัว หรือต่อให้เธอว่ายไปมา มันก็คงช่วยอะไรไม่มาก

 

              ก็เธอตัวนิดเดียว ก็เธออยู่เพียงลำพัง

 

              จากนั้นผมก็เข้ามา…

 

              ปลาน้อยตกใจ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร เธอได้แต่หลบไปซุกอยู่ที่โคนหนวดของบ้านที่กำลังจะตาย

 

              ผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล แต่ ณ ขณะนั้น ผมเกลียดที่ตัวเองเป็นนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล

 

              เพราะผมรู้ทุกสิ่งที่เป็นมาและกำลังจะเป็นไป

 

              อีก 1 - 2 สัปดาห์ ดอกไม้ทะเลกอนี้จะตาย และปลาน้อยก็ตายตาม

 

              ผมทำได้เพียงโบกมือให้น้ำพัดหนวดกระพือไปมา มันช่วยอะไรปลาไม่ได้หรอก ผมไม่สามารถจะมาโบกน้ำอยู่ตลอดเวลา

 

              แต่การโบกช่วยทำให้ผมรู้สึกดี…

 

              ช่างเป็นการกระทำที่โกหกตัวเองอย่างร้ายกาจ ผมจึงเลิกทำอย่างนั้น ถอยห่างแล้วว่ายออกมา

 

              ผมทิ้งเธอให้ตายไปอย่างช้า ๆ นี่หรือคือคนที่บอกว่ารักทะเลสุดจิตสุดใจ

 

              ถ้าเป็นหนัง พระเอกจะหันกลับไป สร้างความเป็นไปได้จากความเป็นไปไม่ได้ กลายเป็นฮีโร่ ผู้คนรอบด้านตบมือกันแปะ ๆ

 

              น่าเสียดายที่ในทะเลเดือดไม่มีฮีโร่

 

              ในทะเลแห่งนี้มีแต่คนที่ว่ายกลับเรือ เพราะรู้สึกว่าเขาทนเห็นอะไรไม่ได้อีกแล้ว

 

              พรุ่งนี้อาจได้ แต่ไม่ใช่วันนี้”



 

//....................

              CR : Thon Thamrongnawasawat

//....................