โอมิครอนลูกผสม ‘XBB.1.5’ สายพันธุ์อุบัติใหม่ ‘โควิด-19’ ที่ ‘น่ากังวลมากที่สุด’ !!
โอมิครอนลูกผสม ‘XBB.1.5’ สายพันธุ์อุบัติใหม่ ‘โควิด-19’ ที่ ‘น่ากังวลมากที่สุด’ !!
“ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ” เตือน “โควิด-19” สายพันธุ์อุบัติใหม่ ที่ “น่ากังวลมากที่สุด” ในปัจจุบัน คือ โอมิครอนลูกผสม “XBB.1.5”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “Center for Medical Genomics” (ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี) ได้เผยแพร่ข้อความและรูปภาพ ระบุว่า “โควิด-19” สายพันธุ์อุบัติใหม่ ที่ “น่ากังวลมากที่สุด” ในปัจจุบัน คือ โอมิครอนลูกผสม “XBB.1.5” โดยมีเนื้อหา ดังนี้
“โควิด-19 สายพันธุ์อุบัติใหม่ที่ ‘น่ากังวลมากที่สุด’ ในปัจจุบันคือโอมิครอนลูกผสม ‘XBB.1.5’
นิวยอร์ก กำลังกลายเป็น ‘ฮอตสปอตใหม่’ ของโควิดตระกูล XBB ที่พบแพร่ระบาดใหญ่ใน สิงคโปร์ เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ นิวยอร์ก รายวัน ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมจนถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
5.5 %
5.7 %
5.7 %
5.3 %
9.0 %
13.8 %
12.6 %
13.7 %
16.5 %
18.6 %
เมื่อเทียบกับโควิดสายพันธุ์อื่นที่ระบาดในนิวยอร์ก
(ภาพ1)
นิวยอร์กกำลังกลายเป็น 'ฮอตสปอตใหม่' ของตระกูล XBB
ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 18.6 %
เมื่อเทียบกับโควิดสายพันธุ์อื่นที่ระบาดในนิวยอร์ก
คาดว่าจะระบาดเข้ามาแทนที่ โอมิครอน BQ.1 อย่างรวดเร็ว โดยพบ
-มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) ที่นิวยอร์กสูงกว่า BQ.1 ถึง 144 %
-มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาดสูงกว่า BQ.1 ทั่วสหรัฐ 122 % และมี
-มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด สูงกว่า BQ.1 ทั่วโลกประมาณ 94 %
จากฐานข้อมูลเก็บรหัสพันธุกรรมโควิดโลก ‘GISAID’ พบแล้วทั้งสิ้น 288 ตัวอย่าง ยังตรวจไม่พบในประเทศไทย
(ภาพ 2-4)
XBB.1.5 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)
ที่นิวยอร์กสูงกว่า BQ.1 ถึง 144 %
XBB.1.5 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)
ในสหรัฐสูงกว่า BQ.1 ถึง 122 %
XBB.1.5 มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)
ทั่วโลกสูงกว่า BQ.1 ถึง 94 %
ประเมินว่า XBB.1.5 ได้กลายพันธุ์มาจาก XBB* ที่นิวยอร์ก โดยมีอัตราการเพิ่มจำนวนประมาณถึง 100% ในแต่ละสัปดาห์
(ภาพ5)
คาดว่า XBB.1.5 กลายพันธุ์มาจาก XBB* ในนิวยอร์ก
โดยอาศัยเทคโนโลยีด้าน "ชีวสารสนเทศ" ที่ก้าวหน้าไปอย่างมากมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมโควิดทั้งจีโนม (whole SARS-CoV-2 genome sequencing) ตลอด 3 ปี จำนวนกว่า ‘14.2 ล้านตัวอย่าง’ ช่วยให้เราสามารถทำนายรูปลักษณ์ของโปรตีนหนามที่แตกต่างกันในแต่ละสายพันธุ์ของโควิด-19 ได้อย่างแม่นยำเพื่อบ่งชี้
-ความสามารถของ “โปรตีนหนาม” ของสายพันธุ์นั้น ในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน(immune escape) เนื่องจากรูปร่างโปรตีนหนามเปลี่ยนไปอันมีสาเหตุมาจากการกลายพันธุ์
-ความสามารถของโปรตีนหนามของสายพันธุ์นั้นในการยึดจับตัวรับ ‘ACE-2’ บนผิวเซลล์ผู้ติดเชื้อ เพื่อแทรกเข้าไปภายในเซลล์ (ACE-2 binding score) เนื่องจากรูปร่างโปรตีนหนามที่เปลี่ยนไปอันมีสาเหตุมาจากการกลายพันธุ์
สรุปว่า XBB.1.5 เป็นโควิด-19 ที่มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) และมีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันและการเข้ากับผิวเซลล์เพื่อทะลุผ่านเข้าไปภายในเซลล์สูงที่สุดในโลก ณ. ขณะนี้ อันเป็นสาเหตุที่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกกำลังจับตามองด้วยความกังวล
(ภาพ6)”
"XBB.1.5" เป็นโควิด-19 ที่มีความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage)
สูงที่สุด (ตารางขวา) และมีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน และการเข้ากับผิวเซลล์
เพื่อทะลุผ่านเข้าไปภายในเซลล์ได้ดีที่สุดในโลก (ตารางซ้าย) ณ ขณะนี้
//...............
CR : Center for Medical Genomics
//...............