มาแล้ว !! ‘งานประมูลศิลปะ’ แห่งปี ‘Let's Crossover’
มาแล้ว !! ‘งานประมูลศิลปะ’ แห่งปี ‘Let's Crossover’
ผลงานของศิลปินระดับแนวหน้ากว่า 130 ชิ้น นำออกประมูล โดย The Art Auction Center พร้อมจัดแสดงให้ได้ชมอย่างใกล้ชิดที่ “ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก” ระหว่างวันที่ 6 - 16 ก.ค.65
เวลาที่นักสะสมและคนรักงานศิลปะรอคอยมาถึงแล้ว เมื่อ The Art Auction Center (TAAC) บริษัทประมูลศิลปะชั้นนำของไทยกำลังจะจัดงานประมูลผลงานศิลปะครั้งสำคัญ “Let's Crossover” ซึ่งรวบรวมผลงานศิลปะโดยศิลปินระดับแนวหน้าของประเทศมากกว่า 130 ชิ้นมาประมูล พร้อมจัดแสดงให้ได้ชมอย่างใกล้ชิดที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ระหว่างวันที่ 6-16 กรกฎาคม 2565 นี้
งานประมูลศิลปะ Let's Crossover นำเสนอในธีมที่เชื่อมโยงกับนิทรรศการ Crossover II : The Nature of Relationships โดยหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นนิทรรศการคัดสรรผลงานศิลปะสะสมขององค์กรและนักสะสมไทยที่สอดคล้องกับประเด็นทางสิ่งแวดล้อม พื้นที่ธรรมชาติ บริบทเมือง สถานการณ์ความท้าทาย ความประทับใจ และมุมมองในช่วงเวลาที่แตกต่างกันมาจัดแสดง
งานศิลปะที่เข้าร่วมการประมูลในงาน Let's Crossover ครั้งนี้มีทั้งผลงานของศิลปินชั้นครู ศิลปินรุ่นใหม่ เป็นผลงานที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและสากล ผลงานศิลปะเหล่านี้แสดงออกถึงมุมมองของศิลปินต่อบริบทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความประทับใจในธรรมชาติ อารมณ์ความรู้สึกต่อสภาวการณ์ทางสังคม รวมถึงการแสดงอารมณ์ความรู้สึกภายในของศิลปิน โดยแบ่งผลงานศิลปะออกเป็น 6 กลุ่มเรื่องราว คือ ทรรศนีย์ (Scenery) ความเชื่อ (Site of Beliefs) องศาภายใน (A Part of Mind) เหนือจริง (Surrealism) สลายรูป (The Nature in Abstraction) และหน้าที่วิภาค (Social Criticism)
“พิริยะ วัชจิตพันธ์” ผู้ก่อตั้ง The Art Auction Center และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมนักสะสมงานศิลปะไทยกล่าวว่า งานประมูลผลงานศิลปะ Let's Crossover มีความน่าสนใจอยู่ที่ความหลากหลาย “เป็นผลงานของศิลปินตัวจริงซึ่งมีคุณค่าน่าเก็บสะสม ไม่สามารถที่จะหาซื้อที่ไหนได้ งานของศิลปินที่ไม่เคยนำออกประมูลในเมืองไทยมาก่อน และงานศิลปะที่นำออกมาประมูลครั้งแรกของศิลปินหลาย ๆ ท่าน
พิริยะ วัชจิตพันธ์
“มีทั้งจิตรกรรมแบบประเพณี จิตรกรรมไทยแบบแบบร่วมสมัย จิตรกรรมประเภทภาพทิวทัศน์ รวมไปถึงงานศิลปะสมัยใหม่ เช่น คอนเซ็ปชวลอาร์ต เป็นต้น มีงานศิลปะครบถ้วนสำหรับรสนิยมของทุกคน ทั้งนักสะสมหน้าเก่าหน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่ชอบภาพลายไทยเพื่อนำไปตกแต่งบ้านแบบดั้งเดิม หรือว่าคนรุ่นใหม่ที่ชอบงานป๊อปอาร์ตเพื่อนำไปแต่งบ้านแบบมินิมอล”
ที่ผ่านมา The Art Auction Center ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับการจัดงานประมูลศิลปะ งานทั้ง 3 ครั้งที่ทางบริษัทจัด ได้รับการตอบรับดีเกินคาดหวังและเกินมาตรฐานบริษัทประมูลในโลกด้วย โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมราว 100 ล้านบาท ทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่า วงการประมูลศิลปะไทยเติบโตขึ้นมาก นับตั้งแต่เริ่มมีงานประมูลงานศิลปะครั้งแรก ๆ ในไทยเมื่อราว 10 ปีก่อน
ทั้งนี้ หลังจากที่ไม่มีการประมูลงานศิลปะมานาน ปลายปี 2564 บริษัทได้จัดงานประมูลขึ้นโดยคาดว่าน่าจะมีนักสะสมงานศิลปะกลุ่มเดิม ๆ มาประมูลซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน แต่พบว่า วงการศิลปะได้ขยายออกไปกว้างยิ่งขึ้น มีกลุ่มนักธุรกิจ สถาปนิก คนแต่งบ้าน รวมถึงคนรุ่นใหม่ ๆ บางคนเคยสะสมอย่างอื่นมาก่อน เขาเริ่มมาสนใจงานศิลปะ โดยมองว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง เขาใช้งานประมูลเป็นที่เริ่มต้นและต่อยอด ในการประมูลมีทั้งงานของศิลปินชั้นครูที่มีมูลค่าสูง ไปจนถึงงานของศิลปินรุ่นใหม่ราคาหลักหมื่นหรือแสน เพื่อเป็นการขยายฐานคนสะสมงานใหม่ ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้น ทำให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้น ซื้อง่ายขึ้น ทั้งยังจัดให้มีการประมูลงานศิลปะยุคใหม่อย่างศิลปะดิจิทัลด้วย
นอกจากนี้ การจัดงานประมูลศิลปะของ The Art Auction Center ยังมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเคลื่อนไหวซึ่งนำไปสู่การพัฒนาของวงการศิลปะไทย
“บริษัทหวังจะให้การประมูลเป็นฟันเฟืองหนึ่งซึ่งทำให้วงการศิลปะไทยก้าวไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ การประมูลเป็นการสร้างมาตรฐานเรื่องราคางานศิลปะ คนที่มาซื้องานสามารถมั่นใจได้ว่าเขาได้งานของแท้ มีงานที่เขาสามารถจับต้องซื้อหาได้ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นสะสมงานศิลปะ ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร การประมูลตอบตอบโจทย์ได้ทั้งหมด การประมูลจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะเกิดขึ้นในประเทศไทย”
The Art Auction Center วางแผนที่จะจัดงานประมูลใหญ่ปีละ 2 ครั้ง นอกจากนั้นยังมีงานที่เป็นการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ เพื่อให้นักสะสมและคนรักงานศิลปะได้สัมผัสกับแง่มุมน่าสนใจในงานประมูลเกิดขึ้นอีก บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะขยายงานไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกในอนาคต ส่วนหนึ่งเพื่อให้ผลงานศิลปะไทยได้การรับความสนใจในวงกว้าง
“วันนี้ผลงานของศิลปินไทยถูกประเมินมูลค่าต่ำกว่าที่ควรเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ถ้ามีนักสะสมต่างชาติมาสนใจมากขึ้นก็จะช่วยทำให้งานศิลปะไทยไปได้ไกลกว่านี้ ซึ่งสามารถเป็นไปได้จริง เพราะวันนี้มีศิลปินไทยบางคนไปถึงจุดนั้นแล้ว”
สำหรับงานประมูลครั้งยิ่งใหญ่ Let's Crossover ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ “พิริยะ” ให้ความเห็นว่า เป็นโอกาสดีสำหรับนักสะสม เพราะงานที่บริษัทเลือกมาเป็นศิลปะที่มีคุณค่า ราคาเหมาะสม หลายชิ้นไม่สามารถซื้อที่ไหนได้ อีกอย่างหนึ่งคือ คุณจะได้มีส่วนในการช่วยวงการศิลปะให้เติบโตต่อไป ทำให้วงการศิลปะของไทยเทียบเท่ากับต่างประเทศหรือสากลได้
“อยากให้ทุกท่านมาสัมผัสทั้งงานแสดงศิลปะและการประมูล ไม่อยากให้มองว่าการประมูลเป็นเรื่องไกลตัว การประมูลเป็นเรื่องไม่ซับซ้อนและสนุก แค่มาดูอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว ทุกคนจะได้ความรู้ ได้เห็นงานดี ๆ ซึ่งไม่เคยถูกนำออกมาแสดง ไม่ใช่ของในพิพิธภัณฑ์ที่จะเดินเข้าไปชมเมื่อไหร่ก็ได้ งานเหล่านี้คุณอาจจะได้เห็นแค่ครั้งเดียว เพราะถ้างานถูกประมูลไปแล้วก็จะไปอยู่ในบ้านของนักสะสม 20-30 ปีหรือตลอดชีวิต”
ทั้งนี้ นักสะสมและคนรักงานศิลปะ ไม่ควรพลาดโอกาสในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Let's Crossover งานประมูลครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ชมนิทรรศการแสดงผลงาน และลงทะเบียนเข้าประมูลได้ ระหว่างวันที่ 6-16 กรกฎาคม 2565 เวลา 11.00 น. - 19.00 น. (เฉพาะวันที่ 16 กรกฎาคม เปิดให้เข้าชมได้ถึงเวลา 12.30 น.) ณ RCB Galleria 1 และ RCB Photographers' Gallery 1 ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก
งานประมูลจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม 2565 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประมูล RCB ชั้น 4 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02 233 7939 และ 065 097 9909
//............................
