“ต้องรอด” ลูกเต่าตนุแห่งความหวัง

เรื่องราวของ “ลูกเต่าตนุ” ที่รอดมาได้ราวปฏิหาริย์ จากคำบอกเล่าของ “ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” จุดประกายแห่งความหวัง ให้มนุษย์ร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม 

          เฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” ของ ผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล บอกเล่าเรื่องราวและภาพประกอบของลูกเต่าตนุ “ต้องรอด” ไว้อย่างน่าประทับใจว่า

          ต้องรอดเกิดแล้วครับ ได้ข่าวนี้เพื่อนธรณ์คงดีใจ แต่บางคนอาจสงสัย ใครคือต้องรอด ?

          ต้องรอดเป็นเต่าครับ เธอเป็นลูกเต่าตนุ ชื่อต้องรอดเพราะเธอรอดมาดุจปาฏิหาริย์

          เรื่องของต้องรอดเริ่มในกลางเดือนเมษายน แม่เธอขึ้นจากทะเลพังงา ขุดหลุมใหญ่แล้วออกไข่ไว้ในนั้น

          แม่เต่าอำลาจากไป แม้จะห่วงแค่ไหน ธรรมชาติไม่ได้สร้างให้แม่คอยดูแลลูก

          หรือแม้กระทั่งเจอหน้าลูกสักหนในชีวิต สำหรับเต่าแล้ว แม่กับลูกไม่ได้เจอกันเลย

          เจ้าหน้าที่อุทยานท้ายเหมืองตรวจตราตามหาดในช่วงฤดูวางไข่ของเต่า พบหลุมไข่ที่มีต้องรอดอยู่ในนั้น

          หลังจากพิจารณาดูสภาพโดยรอบ พี่ๆ ปล่อยหลุมไว้ที่เดิม เพราะอยู่เหนือแนวน้ำพอควร

          การย้ายไข่เต่าออกจากหลุม หากไม่จำเป็นจะไม่ทำ เพราะอาจทำรบกวนชีวิตน้อยๆ ที่กำลังฟักตัวอยู่ข้างใน

          เวลาผ่านไป ต้องรอดและเพื่อนๆ หลายสิบเติบโตอย่างปรกติเต่า

          อุณหภูมิเป็นตัวกำหนดเพศ ร้อนหน่อยเป็นเพศเมีย เย็นหน่อยเป็นเพศผู้ ปรกติจะคละกันไป

          แต่ระยะหลังโลกร้อนขึ้น เต่าเพศผู้เกิดน้อยลง จนเริ่มส่งผลทำให้ไข่บางส่วนไม่มีน้ำเชื้อ

          แต่ต้องรอดมีพ่อ เธอโตขึ้นๆ รอเวลาอีกไม่กี่วัน จะได้ออกมาดูโลกพร้อมพี่น้อง

          ไข่เต่าตนุใช้เวลาฟัก 50+ วัน

          แต่ก่อนหน้านั้น ภัยพิบัติพุ่งตรงมา

          ในทะเลน้ำลึก ในเขตที่ติดมหาสมุทร บางครั้งจะเกิดคลื่นลูกใหญ่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงมรสุม ลมพัดคลื่นเดินทางมาจากระยะไกล

          คลื่นแบบนี้หายาก แต่บางครั้งอาจเกิด และบางครั้งพัดพุ่งตรงเข้าหารังเต่า

          น้ำซัดเข้าใส่ไข่ที่ยังไม่ฟักเป็นตัว นั่นคือหายนะของแท้ ซึ่งปรกติจะตายยกรัง ทำลายหมดสิ้นความหวังของทั้งเต่าทั้งคนเฝ้าดูแล

          แต่หนนี้แม้ริบหรี่ก็ยังมี หัวหน้าอุทยานหาดท้ายเหมืองสั่งการให้ขุดเอาไข่ขึ้นมาให้หมด รีบนำเข้าลังทราย ย้ายไปไว้ในตู้อบ ICU ที่ยืมมาอย่างฉุกละหุก

          ตู้มาทันเวลา ไข่ที่มีหวังได้รับการดูแล อบอยู่ในตู้ที่ควบคุมทั้งอุณหภูมิและความชื้นให้พอเหมาะ

          โชคชะตาที่เล่นตลกเป็นรอบสอง ตู้ใช้ต่อเนื่องเริ่มมีปัญหา แต่ยังไม่ถึงเวลาลูกเต่าออกจากไข่

          แต่โชคร้ายเปลี่ยนได้ด้วยความพยายาม หัวหน้าปรารพรีบโทรประสานดร.ก้องเกียรติ กรมทะเล ภูเก็ต โชคดีตู้ที่นั่นยังว่าง จึงรีบขับรถไปยืม

          ทุกคนที่รู้ข่าวร่วมลุ้น “ต้องรอด” ให้เกิดมาลืมตาดูโลก

          และลูกเต่าน้อยรอดมาดุจปาฏิหาริย์เมื่อวันก่อน

          ปาฏิหาริย์ไม่เกิดซ้ำสอง ผมบอกตัวเองเช่นนี้พร้อมประสาน #บางจาก เพื่อขอบริจาคตู้ ICU เป็นการฉุกเฉิน และได้รับอย่างดียิ่ง

          ถึงวันนี้ ต้องรอดลงสู่ทะเลเป็นตัวแรก ก่อนน้องๆ ของเธอจะเกิดตามมา

          จนสุดท้าย เต่าน้อยยี่สิบตัวลงสู่ท้องทะเลอันดามัน

          ต้องรอด ไม่เพียงแค่รอด เธอนำความหวังใหม่มาให้น้องๆ

          เรื่องของเธอทำให้ต่อจากนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานจะมีตู้ ICU ประจำสถานี

          นอกจากนั้น เธอยังน่าร้ากกกก แค่มองเห็นตาแป๋ว ใจก็แทบละลาย

          จึงนำเรื่องนี้มาเล่าให้เพื่อนธรณ์ฟัง เพื่อความสุขในเช้าวันอาทิตย์

          และฝากขอร้องกันสักนิด ช่วยกันลดขยะและพลาสติกใช้แล้วทิ้ง ที่ทำร้ายเต่าทะเลไทย เต่าทะเลโลก

          กว่าต้องรอดจะมีวันนี้ เธอแสนสาหัส

          เราคงไม่อยากให้พรุ่งนี้มะรืนนี้ของเธอ เป็นชีวิตที่มืดหม่นและหมดหวัง

          แทะพลาสติกเข้าไปอุดตันในท้อง จะหิวแค่ไหนก็กินอะไรไม่ได้ ว่ายไปทางไหนก็เจอถุงลอยกระเพื่อมเต็มไปหมด

          ต้องรอดจะต้องไม่ตายเพราะขยะในมือฉัน

          ขอเพียงแค่นั้น กว่าเธอจะเกิดมาได้ มันยากเย็นแสนเข็ญจริงครับ

CR : Facebook “Thon Thamrongnawasawat”