เรื่องสั้น : เชื้อโรค : แพรพลอย วนัช

เรื่องสั้น : เชื้อโรค : แพรพลอย วนัช 

เสียงเคาะตะหลิวผสานเสียงโขมงโฉงเฉงยังรัวต่อเนื่อง ความที่ร้านตั้งอยู่หน้าปากซอยย่านชุมชนจึงก้ำกึ่งกันอยู่ว่าลูกค้าส่งเสียงฮัดชิ่วฮัดเช้ยเพราะเตาผัดกะเพรา หรือเพราะทนกลิ่นควันจากท่อไอเสียไม่ไหว เพลงชาติหกโมงเย็นจบไม่ทันไรอาทิตย์ก็มาถึง เหยียบเบรกมอเตอร์ไซค์ เดาะขาตั้งถอดหมวกกันน็อก กวาดตามองโต๊ะด้านหน้าติดถนน เห็นว่าเต็มจึงรุนหลังแฟนสาวเข้าไปในร้าน

“โต๊ะนอกเต็ม โต๊ะในว่างจ้า” เจ้าของร้านทำหน้าที่พ่อครัวด้วยตะโกนบอกลูกค้าเสียงใส “คิวสั่งใส่ห่อเยอะ กินที่ร้านรอแป๊บนะจ๊ะ น้ำแข็งน้ำดื่มบริการตัวเองจ้า”

อาทิตย์พยักพเยิดไปยังโต๊ะสามขวามือ ขยับเก้าอี้ให้แฟนนั่ง หยิบกระดาษปากกาที่เสียบในช่องใส่ตะเกียบ จดรายการอาหารที่ต้องการ ถามทั้งที่มือยังง่วนกับการเขียน “กินอะไร”

ธิดาย่นคิ้ว เธอยังไม่นั่งด้วยซ้ำ มัวหยิบกระดาษชำระสีบานเย็นเนื้อหยาบเช็ดคราบฝุ่นที่จับกันจนเหนียวข้นบนเก้าอี้ ครู่ต่อมาจึงหย่อนสะโพกลงนั่ง เงยหน้ามองรายการอาหารที่ผนัง กลอกตาอยู่ครู่หนึ่ง

“เอากะเพราหมูสับไข่ดา... ว้าย!” เธอห่อไหล่ เบ้ปากเหมือนจะร้องไห้ “เมื่อกี้หนูตัวเบ้อเริ่ม !”

“ร้านอาหารตามสั่งก็อย่างนี้แหละ” อาทิตย์มองถังพลาสติกเก่าเขรอะที่ทางร้านใช้ตะแกรงกรองเศษอาหารอย่างไร้ความรู้สึก เห็นแฟนสาวยกมือปิดจมูกแต่เขาไม่สนใจกลิ่นท่อระบายน้ำโชยคลุ้ง ธิดาหันไปมองรอบ ๆ อย่างสำรวจ เธอว่าย่านที่เขาอยู่มีครบทุกอย่าง

“หอพักเยอะ นักศึกษาก็เยอะ ใกล้โรงเรียน แถมยังใกล้ร้านเหล้า ทำมาค้าขายอะไรก็ขึ้น แต่แออัดเหมือนแหล่งรวมเชื้อโรค”

“อือ ดูอย่างห้องผมสิ แป๊บเดียวฝุ่นมาแล้ว” โคลงหัวเมื่อได้ยินแฟนบ่นกระปอดกระแปดว่าถ้าเธอไม่เข้าไปเก็บกวาดให้เขาก็ปล่อยรกทั้งอย่างนั้น “เอาเวลาไหนทำล่ะ จันทร์ถึงศุกร์สอนทั้งวัน เสาร์อาทิตย์ก็สอนว่ายน้ำทั้งเช้าทั้งเย็น กลับถึงห้องก็หมดแรงแล้ว นี่หญิงยังมาชวนเปิดสอนกวดวิชาหลังเลิกเรียนอีก”

“บ่นอย่างนี้ จะเอาไหมล่ะเงิน” เธอค้อนควั่ก “หญิงคุยกับครูเมย์แล้วนะเรื่องที่เราจะแยกออกมาเปิดสอนกวดวิชากันเอง ครูเมย์เขาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ติดตรงค่าเช่าตึกใหม่นี่สิ ต้องจ่ายรายปี”

“ถ้าราคาพอรับได้ก็เอาสิ ผมถามผู้ปกครองแล้ว เขาบอกจะให้ลูกตามมาเรียนกับเรา”

“ดี ดึงมาเรียนกับเราให้หมด โชคดีได้ฐานผู้ปกครองจากเด็กที่มาเรียนว่ายน้ำกับอาร์ต จริง ๆ ครูเมย์เขาก็ไม่มีสิทธิ์ว่าเรานะ เพราะทีแรกเราเป็นคนดึงเด็กให้ไปเรียนกับเขา ฐานลูกค้ามาจากเราทั้งนั้น” ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็มีสายเรียกเข้า ระหว่างธิดากำลังจ้อกับปลายสายมีเด็กนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งทยอยเข้ามาในร้าน เสียงพูดจากระโชกโฮกฮากฟังไม่รื่นหู กิริยาที่เด็กสาวตบหัวเพื่อนที่เดินนำหน้า คนไม่รู้คงคิดว่าทะเลาะกัน

“นั่งโต๊ะไหนดีมึง”

“โต๊ะไหนก็นั่งไปเหอะ นั่งแล้วเหาะได้มึงค่อยเลือก โน่น ! โต๊ะสามซ้ายมือว่างอยู่” เด็กสาวที่น่าจะเป็นหัวโจกหย่อนก้นนั่ง มือคว้าปากกา ปากบ่นเสียงขึ้นจมูก “วัน ๆ ไม่รู้จะแดกอะไร คนยิ่งจะลดความอ้วน เสือกมาชวนแดก !”

“ตกลงแดกไรมึง ?”

“ดูเมนูก่อนสิ มาถึงมึงจะให้กูสั่งเลยเหรอ อีห่า !” เสียงหัวร่อต่อกระซิกและถ้อยต่อล้อต่อเถียงดำเนินต่อไป อักษรย่อบนอกเสื้อบอกชัดว่ามาจากโรงเรียนไหน

“คืนนี้มีอะไรเด็ดให้ดูนะโว้ย พวกมึง” พอเพื่อนอีกคนถามว่ามีอะไรเจ้าตัวก็ทำตาเจ้าเล่ห์ “อยากรู้กินเสร็จไปห้องอีนุก อาทิตย์นี้กูเอาโน้ตบุ๊กของพ่อมาใช้”

“อ๋อ ที่มึงโกหกพ่อว่าเอามาทำรายงานน่ะเหรอ”

“เชี่ย ! รู้ดีจังนะมึง กูยืมพ่อมาทำรายงานจริงโว้ย วิชาสังคมฯของครูอาภรณ์ไง”

“ว่าแต่อะไรเด็ดของมึงคืออะไร อย่าบอกนะจะชวนดูหนังโป๊อีก !”

“ฮ่า ๆ พวกมึงต้องชมกูนะที่หาตำราภาพเคลื่อนไหวมาให้ศึกษา จะได้ไม่ต้องเสียเวลาอ่าน”

“คราวก่อนไปศึกษาเรื่องเพศห้องอีฝ้าย แม่ง ดูจนตาแฉะ !”

“แน่ใจนะว่าที่แฉะคือตา”

“อี-เ-ฮี่-ย-ย-ย” คนพูดลากเสียง หัวเราะอย่างเอร็ดอร่อย “กูไม่ใช่มึง !”

ธิดาวางสายหน้าปุเลี่ยน เหล่มองเด็กสาวพลางโคลงหัว พออาหารที่สั่งไว้ได้แล้วจึงหยิบช้อน ไม่ลืมใช้กระดาษทิชชูเช็ดเกือบนาที

“ตะกี้เจ้าของตึกโทรมา เขาลดราคาให้เป็นปีละแสนสอง สัญญาสามปี แต่จ่ายเป็นรายปี”

“ปีละแสนสอง ตกเดือนละหมื่นก็ไม่เยอะ แต่ปัญหาคือต้องใช้เงินก้อน ค่าอุปกรณ์พวกโต๊ะเก้าอี้อีก ตอนนี้เงินเก็บผมเกลี้ยงแล้วเพราะเพิ่งดาวน์รถให้หญิง”

“งั้นเดี๋ยวค่าเช่าตึกหญิงรับผิดชอบเอง ขอคุยกับแม่ก่อนว่าจะกู้ยังไง” ธิดาเหลือบมองโต๊ะข้าง ๆ “ตะกี้อาร์ตได้ยินเด็กพวกนี้คุยกันไหม ดูหน้าแล้วไม่น่าเกิน ม. 4 อายุแค่นี้รู้จักดูหนังโป๊ !”

อาทิตย์ทำหน้าปรามเมื่อคนรักนินทาเด็กกลุ่มนั้นทั้งที่โต๊ะห่างกันไม่กี่คืบ ธิดาไปหาเขาที่ห้องหลายครั้งก็จริง แต่คงไม่สังเกตว่าเด็กผู้หญิงผิวขาวหน้าตาบ้องแบ๊ว และพูดน้อยสุดในกลุ่มที่ชื่อนุกอยู่ห้องติดกับเขา เธอพักอยู่กับเพื่อนผมสั้นชื่อเก๋ หลังจบอาหารมื้อนั้นอาทิตย์เรียกเก็บเงิน แต่ธิดาขี้เกียจรอและอยากแลกเงินย่อยจึงลุกไปจ่ายหน้าเตา อาทิตย์ขยับตามไป ได้ยินเสียงเด็กสาวที่เรียบร้อยที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น

“ไปดูแล้วอย่าเสียงดังกันมากนะ เกรงใจห้องข้าง ๆ”

 

อาทิตย์ลืมเด็กกลุ่มนั้นไปแล้ว หลังกลับจากส่งธิดาที่บ้านก็กลับเข้าอะพาร์ตเมนต์ อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดเสร็จจึงได้ยินเสียงฝีเท้าและเสียงพูดคุยกันดังใกล้เข้ามา ชัดเจนขึ้นหลังได้ยินเสียงไขกุญแจ แสดงว่าเด็กกลุ่มนี้เพิ่งกลับเข้าห้อง เสียงเอะอะหยอกล้อดังขึ้นอีกครั้ง แย่งกันพูดจนฟังไม่ได้ศัพท์ อาทิตย์โคลงหัวก่อนออกไปยืนรับลมที่ระเบียง มองจากชั้นสามลงไปยังท้องถนน รถราบางตาลงมาก เห็นผู้หญิงทำงานบาร์สามสี่คนเริ่มทยอยเข้าร้าน นี่ก็ใกล้เวลาเริ่มงานของพวกเธอแล้ว ยืนมองขณะครุ่นคิดเรื่องอนาคตตัวเองอีกรอบ ความที่เป็นคนจังหวัดอื่นแต่มาทำงานที่นี่เงินแต่ละเดือนจึงหมดไปกับค่าหอพัก แม้ไม่มากแต่เงินเดือนครูประถมโรงเรียนเอกชนไม่สูงพอจับจ่ายใช้สอยคล่องมือนัก เห็นเพื่อนครูมีรถเก๋งขับไม่แปลก แต่ครูบางคนมีรถตู้ถึงสองคัน ครูผู้ช่วยเล่าให้ฟังว่าพวกครูเหล่านี้ไม่ได้มีเงินทองมาแต่อ้อนแต่ออก รายได้หลักมาจากการเปิดสอนพิเศษทั้งนั้น

“เลิกเรียนปุ๊บเด็กก็ขึ้นรถตู้ ครูรับจากโรงเรียนไปเลย ทั้งสอนพิเศษทั้งสอนการบ้านไปในตัวเสร็จสรรพ พ่อแม่ไม่ต้องทำอะไรนอกจากหาเงินมาจ่ายค่าเรียนพิเศษ เดือนหนึ่งตกหัวละเกือบสองพัน บ้านสองชั้นสอนทั้งชั้นบนชั้นล่าง ใครเรียนพิเศษด้วยครูก็เอาใจใส่ ใครไม่เรียนก็ดูแลไปตามหน้าที่ เดี๋ยวนี้กลายเป็นธุรกิจไปหมดแล้ว”

เมื่อก่อนอาทิตย์ไม่เห็นด้วยกับการเรียนพิเศษของเด็กยุคนี้ เพราะดูเหมือนเข้าข่ายเอาเป็นเอาตาย ขึ้นเรื่อย ๆ เขาเป็นครูแท้ ๆ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเด็กถึงได้เรียนหนักกันตั้งแต่ ป.2 - ป.3 บางคนกว่าจะถึงบ้านเกือบสามทุ่ม เขาอดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะสถาบันกวดวิชาผุดขึ้นมากมาย หรือไม่อีกทีก็แห่เรียนตามกันเพราะกลัวน้อยหน้า แต่คนที่กลัวน้อยหน้าคงไม่ใช่เด็กนักเรียน

“ในเมื่อเงินเดือนครูเท่านี้ พวกเราก็ต้องหารายได้เสริม” เมื่อรู้จักกับธิดา เธอทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แฟนสาวพยักพเยิดไปทางคลินิกฝั่งตรงข้ามอะพาร์ตเมนต์ “หมอเปิดคลินิกถือว่าไม่มีอุดมการณ์เหรอ ถ้าคิดอย่างนี้ก็ใจแคบ เขาอาจจะอยากทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมก็ได้”

“แสดงว่าที่หญิงดิ้นรนจะเปิดสอนกวดวิชา เป็นเพราะอยากทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม” 

“จะประชดทำไมเนี่ย” ธิดาค้อนวงใหญ่ “เราทำเพื่ออนาคตนะอาร์ต ต่อไปก็ต้องแต่งงานต้องมีลูก ต้องรีบหาเงินไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ใครเขาก็ทำกัน สมัยนี้เด็กคนไหนไม่เรียนพิเศษไม่ทันเพื่อนหรอก”

อาทิตย์ครุ่นคิดถึงเงินก้อนใหญ่ที่ต้องนำมาลงทุนจ่ายค่าเช่าตึก ขณะเดียวกันก็คิดถึงรายรับก้อนโตที่ต้องหาให้ได้แต่ละเดือนด้วย ชั่วโมงที่ผ่านมาไปส่งธิดาที่บ้านแม่เธอแย็บเรื่องแต่งงานขึ้นมาอีก เขาจำเป็นต้องหาเงินสำรองไว้ในอนาคต เงินเก็บที่รวบรวมจากการสอนพิเศษว่ายน้ำ บวกกับรายได้จากการสอนกวดวิชาเพิ่งหมดไปกับการดาวน์รถเก๋งให้ธิดา แม้เธอผ่อนงวดเอง แต่เขาก็ต้องหาเงินสำรองไว้เพื่อสร้างบ้านสร้างอนาคต เมื่อกลับเข้าห้องอีกครั้งเสียงเด็กนักเรียนห้องข้างกันซาลง แต่สิ่งที่ได้ยินทำเอาอาทิตย์ตัวแข็งทื่อ ไม่ตั้งใจแต่อดไม่ได้ที่จะเอาหูไปแนบผนังห้อง คราวนี้ความเงียบส่งผลให้เขาได้ยินเสียงชัดเจน คาดว่าเด็กสาวเหล่านั้นกำลังจ้องจอตาไม่กะพริบ ห้องถึงได้เงียบกริบราวกับเปิดทีวีทิ้งไว้

“พอแล้วฝ้าย ดูมากพรุ่งนี้ตื่นสายนะมึง” เสียงกลั้วหัวเราะของเด็กสาวดังขึ้น

“ฮ่า ๆ ไม่ต้องมากลบเกลื่อน เขินล่ะสิมึง”

“เขินทำไม กูแสดงเองมาเรียบร้อยแล้ว”

“จริงดิ ! ทำกับใครกูไม่ถามก็ได้ แต่มึงไปทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันที่ไหนวะ”

“ม่-า-ย-บ-อ-ก” เด็กสาวลากเสียง แต่ฟังดูเหมือนอยากเล่าอย่างไรพิกล

“เดี๋ยวนี้มึงมีความลับกับเพื่อนเหรอ !”

พอได้ยินเพื่อนรบเร้า เจ้าตัวจึงตอบเสียงดังฟังชัด “ห้องพี่โอ้”

“โอ้... เด็กเทคนิคที่มึงพาไปกินจิ้มจุ่มวันนั้นเหรอ ระวังท้องนะเมิง !”

“เฮ้ย ! กูก็รู้จักป้องกัน”

“ป้องกันยังไง มึงกินยาคุมเหรอ !”

“เออน่า ! พูดเรื่องนี้ต่อหน้าอีนุกไม่ดีนะเว้ยมึง มันยังจิ้นอยู่ จริงไหมอีเก๋ ได้ข่าวว่ามึงทิ้งมันไปค้างห้องผู้ชายหลายครั้งแล้ว”

“ไม่ได้ทิ้ง !” เสียงหัวเราะดังคิกคัก “เปิดโอกาสให้มันกับพี่เก่งต่างหาก แต่มันไม่เอา มันยังไม่พร้อม”

อาทิตย์อายุมากกว่าเด็กพวกนี้ไม่น่าจะเกินหนึ่งรอบ หากถอดความเป็นครูออกก็ถือเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ไม่ได้ห่างกันมาก ความสนใจในเรื่องเพศของเด็กวัยนี้ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ความก้าวไกลของโลกต่างหากน่าเป็นห่วง เดี๋ยวนี้สมาร์ตโฟนเครื่องเดียว แค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ภาพเคลื่อนไหวโจ๋งครึ่มก็ปรากฏตรงหน้า โลกง่ายและใกล้จนน่ากลัว

“ถามจริงนะนุก มึงดูหนังโป๊เมื่อกี้ ฟังประสบการณ์ของพวกกู มึงอยากรู้อยากเห็น หรืออยากลองบ้างมั้ย”

“มึงอย่าไปลากมันลงมาเลยอีอ๋อม ให้มันอยู่ของมันอย่างนั้นดีแล้ว พวกเรามีมันนี่แหละเป็นหน้าเป็นตากลุ่ม ฮ่า ๆ”

อาทิตย์ไม่ได้ยินคำตอบจากเด็กสาวที่ชื่อนุก สัปดาห์นั้นเขายุ่งเรื่องปิดคอร์สกวดวิชากับครูเมย์จึงไม่ได้สนใจเด็กนักเรียนข้างห้องอีก แต่หลังกลับขึ้นห้องพักวันหนึ่งได้ยินเสียงทีวีดังมาจากห้องข้าง ๆ เสียงซึ่งคนเป็นผู้ใหญ่รู้ว่าคืออะไร แต่ไม่ได้ยินเด็กสาวพูดคุยกันเหมือนทุกครั้ง เงียบเหมือนไม่มีใครอยู่ในห้อง เขากลืนน้ำลายคล้ายฝืดคอเมื่อนึกภาพว่านุกและเพื่อนของเธอกำลังดูหนังต้องห้าม โดยมีเขาซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรร่วมรับรู้ด้วย อดสงสัยไม่ได้ว่าเวลาธิดามาหาที่ห้องและใช้เวลาส่วนตัวประสาคนรัก นุกและเพื่อนของเธอได้ยินอะไรบ้างหรือไม่ หากได้ยิน เด็กเหล่านี้จะรู้สึกประดักประเดิดเหมือนที่เขากำลังเป็นอยู่ตอนนี้หรือเปล่านะ ครู่ต่อมาได้ยินเสียงผลักประตูมุ้งลวด เด็กสาวออกมายืนคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงห้อง อาทิตย์ย่องตามไปเอียงหูฟังอย่างใคร่รู้ คราวนี้ได้ยินชัดยิ่งขึ้น ได้ยินนุกตอบปลายสายว่าอยู่คนเดียว

“เก๋กลับบ้านต่างอำเภอ อาทิตย์นี้นุกอยู่ทำรายงาน ขี้เกียจกลับ” ปลายสายคงพูดอะไรสักอย่าง อาทิตย์รู้สึกว่านุกเงียบไปเป็นครู่ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงคล้ายลังเล “อย่าเลยค่ะ ดึกแล้ว”

เด็กสาวคุยต่ออีกครู่หนึ่งจึงวางสาย ขณะที่อาทิตย์รู้สึกโล่งใจเมื่อรู้ว่าเธอไม่อนุญาตให้ปลายสายซึ่งน่าจะเป็นผู้ชายมาหาที่ห้อง เย็นวันต่อมาเขาพบนุกกับผู้ชายคนหนึ่งที่ร้านอาหารตามสั่ง ความที่โต๊ะติดกันจึงได้ยินบทสนทนาโดยไม่ตั้งใจ

“กินข้าวเสร็จ พี่ไปนั่งดูทีวีที่ห้องนะ”

“อย่าเลยค่ะ นุกอยู่คนเดียว มันจะไม่เหมาะ”

“งั้นไปห้องพี่ เดี๋ยวดึก ๆ มาส่ง”

“ไม่ได้หรอกพี่เก่ง รายงานยังทำไม่เสร็จเลย”

“นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ดูอย่างเก๋ ไม่เห็นเขาอยู่ทำรายงานเลย วันหยุดแทนที่จะได้อยู่ด้วยกัน”

น้ำเสียงชายหนุ่มบอกอารมณ์งอนแกมขุ่น อาทิตย์ไม่รู้ว่านุกทำหน้าอย่างไรเมื่อเห็นแฟนหนุ่มผละออกจากร้านเอาดื้อ ๆ เด็กสาวนั่งต่ออีกครู่เดียวก็ออกจากร้าน เขาพบเธออีกครั้งในร้านสะดวกซื้อ หากรู้จักกันคงเดินไปบอกว่าทำดีแล้วน้อง อย่าไปใจอ่อนกับผู้ชาย เรียนจบให้พ่อแม่ชื่นใจก่อนค่อยคิดเรื่องพรรค์นี้

เช้ามืดวันต่อมา หลังกลับจากวิ่งออกกำลังกาย อาทิตย์เห็นนุกยืนสะพายเป้รอใครบางคนอยู่ ครู่เดียวมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็แล่นมาจอด แฟนหนุ่มของเธอยื่นมือมารับกระเป๋าด้วยท่าทางเป็นต่อก่อนพาโฉบออกไป อาทิตย์มั่นใจว่านุกเห็นเขาแต่เธอหลบตาคล้ายกระดาก ส่วนหมอนั่นมีท่าทีที่ผู้ชายด้วยกันดูออกว่ากำลังโบกธงผู้ชนะ มอเตอร์ไซค์คันนั้นพานุกแล่นหายไปจนลับตา เหลือเพียงตึกแถวตรงหน้า ซึ่งมีทั้งคลินิก ร้านเสริมสวย สถาบันกวดวิชา และบาร์กลางคืน ที่ซ่อนตัวอยู่ในกำแพงถัดไปบนถนนเส้นเดียวกันคือโรงแรมม่านรูด ห่างจากโรงเรียนที่เขาสอนอยู่ไม่กี่ร้อยเมตร...

มัวคิดเรื่อยเปื่อยว่าเกิดอะไรขึ้น และกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กผู้หญิงที่ชื่อนุก ได้ยินสายเรียกเข้าอาทิตย์ถึงกับสะดุ้ง ธิดาโทรมาบอกให้รีบแต่งตัว อีกครึ่งชั่วโมงจะมารับไปเซ็นสัญญาเช่าตึก

“ผู้ปกครองติดต่อลงชื่อเพิ่มมาอีกหลายคนเลยแหละ” น้ำเสียงแฟนสาวลิงโลด แต่ละวันธิดาแทบไม่ได้เตรียมการสอนในโรงเรียน แต่เอาเวลาไปคิดว่าจะหาวิธีดึงนักเรียนที่เธอเรียกเต็มปากเต็มคำว่า ‘ลูกค้า’ มาเรียนกวดวิชาอย่างไรให้ได้มากที่สุด

“ธุรกิจของเราเริ่มต้นได้สวย เรามาถูกทางแล้วล่ะอาร์ต” แฟนสาวย้ำก่อนวางสาย

แมลงสาบสามสี่ตัวไต่ไปตามพื้นคอนกรีตเขรอะคราบเหนียวข้น หนูตัวหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาจากท่อระบายน้ำโสโครกก่อนวิ่งตัดหน้าเขาไปอย่างรวดเร็ว อาทิตย์ยืนมองตึกเก่าสลับใหม่ที่เรียงรายตรงหน้า ป้ายร้านเหล้าที่ชื่อ ‘จุดนัด Yes’ โดดเด่นเป็นสง่าท่ามกลางผู้คน คลินิก สถาบันกวดวิชา โรงเรียน และโรงแรมม่านรูด.

..................................................................

 

 

 

 

Link ที่เกี่ยวข้อง  

 

                “บางกอกไลฟ์นิวส์” เปิดรับ “เรื่องสั้น” และ “บทกวี”  

 

                วรรณกรรมออนไลน์