เป็น ‘รูดอล์ฟ’ ในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !!

เป็น รูดอล์ฟในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !!

 

“รูดอล์ฟ” เจ้ากวางเรนเดียร์จมูกแดง ผู้ส่องแสงนำทางในค่ำคืน “คริสต์มาส” และ “ความสมบูรณ์แบบ” ใน “ความไม่สมบูรณ์แบบ” ของตัวเอง

 

https://bit.ly/3JjjSt0

 

“ขอเป็น รูดอล์ฟในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !”

 

ตามตำนานเล่าว่า ซานต้าคลอส (Santa Claus) หรือ ฟาเธอร์คริสมาสต์ (Father Christmas) จะตระเตรียมของเล่นพร้อมกับเหล่าเอลฟ์ เพื่อมาแจกเป็นของขวัญให้เด็ก ๆ ที่ประพฤติตัวตัวดีทั่วโลกในค่ำคืนวันคริสต์มาสอีฟและเช้าวันคริสต์มาส มาพร้อมกับเสียงหัวเราะอันคุ้นเคยตลอดเส้นทางที่ลากเลื่อนผ่าน “โฮ่ โฮ่ โฮ่ !”

 

เชื่อกันว่า...เลื่อนของลุงซานต้า ที่เป็นพาหนะพาเขาไปแจกของขวัญทุกหนทุกแห่งนั้น เดิมทีถูกลากด้วยกวางเรนเดียร์ทั้งหมด 8 ตัว “แดชเชอร์ บลิทเซ่น ดอนเดอร์ คิวปิด โคเมท วิคเซ่น แพรนเซอร์ และแดนเซอร์”

 

เจ้ากวางเรนเดียร์ทั้ง 8 ตัวนั้น ไม่ได้เป็นแค่กวางเรนเดียร์ธรรมดา ๆ แต่พวกเขามีพลังวิเศษที่เหนือกว่ากวางเรนเดียร์ทั่วไปอีกด้วย ...เจ้าแดชเชอร์เป็นกวางที่วิ่งได้เร็วที่สุดโดยไม่มีกวางตัวไหนตามทัน เจ้าบลิทเซ่นและดอนเดอร์มีพลังพิเศษในการซึมซับพลังของสายฟ้าให้ทีมของเขาพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งเดอะแฟลช เจ้าคิวปิดเป็นกวางที่มีแต่คนรักสามารถส่งความรักไปยังผู้คนอื่นได้ เจ้าโคเมทเป็นกวางที่หล่อที่สุด มีเสน่ห์ แถมยังเป็นกวางง่าย ๆ เข้ากับเด็ก ๆ ได้ดี เจ้าวิคเซ่นนั้น ขี้เล่นมีเสน่ห์คอยทำให้ทุกคนหัวเราะอยู่เสมอแม้ยังไม่ได้รับของขวัญ ส่วนเจ้าแพรนเซอร์ได้รับสมญานามว่าเป็นกวางที่สง่าผ่าเผยที่สุด คอยสร้างแกรนด์โอเพนนิ่งให้คุณลุงซานต้า และเจ้าแดนเซอร์ที่มักจับคู่เต้นกับเจ้าแพรนเซอร์และลากเลื่อนไปพร้อม ๆ กัน

 

พี่ ๆ กวางเรนเดียร์ทั้ง 8 ตัว ที่พรั่งพร้อมไปด้วยพลังสุดวิเศษก็ดูเหมือนจะเพียงพอแล้วสำหรับการออกทริปจากขั้วโลกเหนือ” ...เจ้ากวางเรนเดียร์น้องเล็กสุด ที่ชื่อ รูดอล์ฟ คิดในใจ

 

#รูดอล์ฟ เป็นกวางเรนเดียร์อายุน้อยที่สุด หน้าตาก็บ้าน ๆ แถมยังไม่มีพลังพิเศษอย่างใครเขา มีเพียงแต่จมูกสีแดง ๆ ที่ต่างไปจากคนอื่น เลยกลายเป็นเป้าหมายให้ถูกล้อเลียนจากกวางตัวอื่น ๆ อยู่เสมอ ... รูดอล์ฟถูกมองเป็นความแตกต่าง รูดอล์ฟถูกมองเป็นความแปลกแยก รูดอล์ฟถูกมองเป็นความไม่สมบูรณ์ รูดอล์ฟถูกมองว่าไร้ค่าไร้ประโยชน์

 

ไม่มีใครอยากเล่นด้วยกับกวางจมูกแดงอย่าง รูดอล์ฟ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องการรับหน้าที่ลากเลื่อนอันทรงเกียรติเลยด้วยซ้ำไป

 

         คงไม่มีใครต้องการฉัน ในวันคริสต์มาส ทำไมฉันไม่เหมือนกวางตัวอื่น ๆ นะ” รูดอล์ฟก้มหน้าลงพร้อมจมูกสีแดงของเขาในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ พร้อมกับพายุหิมะที่แรงขึ้นจนปกคลุมทั่วท้องฟ้า

 

ฉันต้องการเธอ !” เสียงหนึ่งดังขึ้น “ฉันอยากให้เธอมาช่วยฉันลากเลื่อนในคืนนี้ ฉันอยากให้เธอมานำหน้าสุดของขบวนกวางเรนเดียร์ทั้งหมด จมูกสีแดงที่กำลังส่องแสงของเธอจะนำทางเราฝ่ายพายุหิมะไปแจกของขวัญเด็ก ๆ กัน” คุณลุงซานต้าผู้ใจดีบอกกับกวางน้อยจมูกแดง

 

กวางเรนเดียร์ทั้ง 8 ตัวและเจ้ารูดอล์ฟ จึงเริ่มสังเกตเห็นแสงสว่างบนจมูกสีแดงของน้องเล็กอย่าง รูดอล์ฟ แสงบนจมูกนั้นส่องสว่างเสียจนสามารถพาคณะของซานต้าผ่านเส้นทางวิสัยทัศน์แย่ ๆ ไปได้อย่างง่ายดาย โอ้วววว

 

เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้นตรงกัน จึงเข้ามาคุยกับรูดอล์ฟดี ๆ ขอโทษ ให้กำลังใจ และยอมรับในกวางตัวน้อยจมูกแดงตัวนี้ และตัวรูดอล์ฟเองก็กล้าพอที่จะขึ้นนำขบวน กลายเป็น “กวางตัวที่ 9” พาคุณลุงซานต้าฝ่าพายุหิมะไปแจกของขวัญให้เด็ก ๆ ได้สำเร็จในที่สุด

 

ในชีวิตจริง เราเองทุกคนคงเคยรู้สึกเหมือนเจ้ากวางน้อยรูดอล์ฟจมูกแดงไม่มากก็น้อย

 

เราทุกคนเคยรู้สึกแตกต่าง เราเคยรู้สึกแปลกแยก เราถูกคนอื่นมองว่าไม่สมบูรณ์ เราถูกมองว่าไร้ประโยชน์ และหลายๆครั้งเราถูกปฏิเสธ ถูก bully

 

อาจมีคนเคยบอกว่าเราแตกต่าง เพียงเพราะเราอ้วนกว่าเขา เราดำกว่าเขา เราเตี้ยกว่าเขา และเราพูดไม่เก่งอย่างเขา

 

อาจมีคนเคยบอกว่าเราแปลกแยก เพียงเพราะคิดไม่เหมือนเขา เราไม่ชอบทำในสิ่งที่คนอื่นเค้าชอบกัน แต่เราชอบในสิ่งที่คนอื่นไม่เข้าใจ

 

อาจมีคนเคยบอกว่าเราไม่สมบูรณ์ เพียงเพราะหน้าตาเราแย่กว่าเขา ทั้ง ๆ ที่เราเองก็อยากจะสมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่น ไม่มีใครอยากเกิดมาพร้อมข้อบกพร่อง

 

อาจมีคนเคยบอกว่าเราไร้ประโยชน์ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดโอกาสให้เราได้ทำประโยชน์เลยสักครั้งเดียว

 

เราถูกกลั่นแกล้งและปฏิเสธไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจากคนที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา แน่นอนการถูกปฏิเสธย่อมทำให้เราเสียใจ อาจทำให้เราหมดความมั่นใจ

 

....แต่เราเคยถามตัวเองบ้างไหม ว่าการถูกปฏิเสธนั้น ลดคุณค่าในตัวตนของเราจริงหรือ ?

 

การที่ รูดอล์ฟ ถูกปฏิเสธจากกวางตัวอื่นไม่ได้ทำให้จมูกของเขาสีแดงน้อยลง และก็ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการส่องแสงนำทางของเขาลดลงไปด้วย เขาเพียงอดทนรอโอกาสที่จะได้โชว์มันออกมาให้คนอื่นได้เห็น เพราะหาก รูดอล์ฟ มีความสามารถเหมือนกวางเรนเดียร์ตัวอื่น ๆ แล้ว คณะของซานต้าคงไม่สามารถฝ่าพายุหิมะไปได้อย่างแน่นอน

 

เราทุกคนควรเรียนรู้จาก รูดอล์ฟ เรียนรู้ที่จะแตกต่าง ลองคิดดูว่า หากทุกคนนิสัยเหมือนกันและคิดเหมือนกันไปซะหมด เราคงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรบนโลกนี้ได้เลย วันนี้คนอื่นอาจไม่เข้าใจในคุณค่าของความแตกต่างในตัวเรา ก็ไม่เป็นไร เราจะเก็บความแตกต่างนี้ไว้ รอวันที่มันจะส่องแสงเหมือนจมูกของ รูดอล์ฟ

 

...เพราะโลกใบนี้ต้องการความแตกต่างในการก้าวไปข้างหน้า โลกใบนี้ถูกแต่งเติมสีสันด้วยความแตกต่างของแต่ละคน ทุกคนล้วนสมบูรณ์แบบในความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง

 

“ขอเป็น รูดอล์ฟในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !”

 

นอกจากเรียนรู้ที่จะเป็น เจ้ากวางน้อยรูดอล์ฟ ผู้มีคุณค่าในตัวเองแล้ว เราก็ควรจะเรียนรู้ที่จะเป็น “ซานต้าคลอส” ให้กับใครสักคนด้วย ....

 

เจ้ากวางน้อยรูดอล์ฟ คงจะเป็นเหมือนเพียงกระสือในวันคริสต์มาส ที่ลอยไปลอยมาไม่มีแก่นสาร หากไม่มีคนแบบซานต้าคลอส ที่สังเกตเห็นความแตกต่างของเจ้ากวางน้อยตัวนี้ เอาจริง ๆ แล้วคุณลุงซานต้าไม่ได้เพียงแค่สังเกตเห็นความแตกต่างหรอกนะ แต่เขายอมรับในความแตกต่าง เขารู้ว่าสิ่งนั้นสามารถสร้างมูลค่าได้ขนาดไหน ลุงซานต้าไม่ได้เห็นจมูกสีแดงมีไฟวิบวับของรูดอล์ฟแล้วบอกว่า “เออ สวยดี” แล้วจับ รูดอล์ฟ ไปแขวนประดับบนต้นคริสต์มาส

 

ซานต้าคลอสเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เห็นในสิ่งที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ จมูกของ รูดอล์ฟ ที่ส่องสว่างไม่ได้เกิดจากแค่ตัว รูดอล์ฟ เองเพียงอย่างเดียว แต่แสงสว่างนำทางนั้นเกิดจากการ “ให้โอกาส” ของคุณลุงซานต้าผู้ใจดี โอกาสที่ให้กับผู้ที่ถูกคนอื่นมองข้ามไป

 

จริง ๆ แล้วการให้โอกาสไม่เพียงเกิดประโยชน์กับ “ผู้รับโอกาส” เท่านั้น แต่ยังเกิดผลดีกลับมาที่ “ผู้ให้โอกาส” อีกด้วย... ลองคิด ๆ ดู ถ้าไม่มีแสงไฟจากจมูก รูดอล์ฟ แก๊งค์กวางลากเลื่อนก็คงไม่สามารถพุ่งทะยานไปในท้องฟ้าที่วิสัยทัศน์ย่ำแย่ได้ คุณลุงซานต้าเองก็คงกลายเป็นตาลุงไร้ตัวตนนั่งจมกองของขวัญอยู่กับบ้านที่ขั้วโลกเหนือ เพราะฝ่าพายุหิมะออกไปเจอเด็ก ๆ ไม่ได้นั่นเอง

 

“คนที่ชอบให้โอกาสผู้อื่น จะกลายเป็น คนที่ได้รับโอกาสจากผู้อื่น ในที่สุด”

 


















//...............

              CR : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

//...............