เป็น ‘รูดอล์ฟ’ ในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !!
เป็น ‘รูดอล์ฟ’ ในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !!
“รูดอล์ฟ” เจ้ากวางเรนเดียร์จมูกแดง ผู้ส่องแสงนำทางในค่ำคืน “คริสต์มาส” และ “ความสมบูรณ์แบบ” ใน “ความไม่สมบูรณ์แบบ” ของตัวเอง
“ขอเป็น ‘รูดอล์ฟ’ ในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !”
ตามตำนานเล่าว่า ซานต้าคลอส (Santa Claus) หรือ ฟาเธอร์คริสมาสต์ (Father Christmas) จะตระเตรียมของเล่นพร้อมกับเหล่าเอลฟ์ เพื่อมาแจกเป็นของขวัญให้เด็ก ๆ ที่ประพฤติตัวตัวดีทั่วโลกในค่ำคืนวันคริสต์มาสอีฟและเช้าวันคริสต์มาส มาพร้อมกับเสียงหัวเราะอันคุ้นเคยตลอดเส้นทางที่ลากเลื่อนผ่าน “โฮ่ โฮ่ โฮ่ !”
เชื่อกันว่า...เลื่อนของลุงซานต้า ที่เป็นพาหนะพาเขาไปแจกของขวัญทุกหนทุกแห่งนั้น เดิมทีถูกลากด้วยกวางเรนเดียร์ทั้งหมด 8 ตัว “แดชเชอร์ บลิทเซ่น ดอนเดอร์ คิวปิด โคเมท วิคเซ่น แพรนเซอร์ และแดนเซอร์”
เจ้ากวางเรนเดียร์ทั้ง 8 ตัวนั้น ไม่ได้เป็นแค่กวางเรนเดียร์ธรรมดา ๆ แต่พวกเขามีพลังวิเศษที่เหนือกว่ากวางเรนเดียร์ทั่วไปอีกด้วย ...เจ้าแดชเชอร์เป็นกวางที่วิ่งได้เร็วที่สุดโดยไม่มีกวางตัวไหนตามทัน เจ้าบลิทเซ่นและดอนเดอร์มีพลังพิเศษในการซึมซับพลังของสายฟ้าให้ทีมของเขาพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งเดอะแฟลช เจ้าคิวปิดเป็นกวางที่มีแต่คนรักสามารถส่งความรักไปยังผู้คนอื่นได้ เจ้าโคเมทเป็นกวางที่หล่อที่สุด มีเสน่ห์ แถมยังเป็นกวางง่าย ๆ เข้ากับเด็ก ๆ ได้ดี เจ้าวิคเซ่นนั้น ขี้เล่นมีเสน่ห์คอยทำให้ทุกคนหัวเราะอยู่เสมอแม้ยังไม่ได้รับของขวัญ ส่วนเจ้าแพรนเซอร์ได้รับสมญานามว่าเป็นกวางที่สง่าผ่าเผยที่สุด คอยสร้างแกรนด์โอเพนนิ่งให้คุณลุงซานต้า และเจ้าแดนเซอร์ที่มักจับคู่เต้นกับเจ้าแพรนเซอร์และลากเลื่อนไปพร้อม ๆ กัน
“พี่ ๆ กวางเรนเดียร์ทั้ง 8 ตัว ที่พรั่งพร้อมไปด้วยพลังสุดวิเศษก็ดูเหมือนจะเพียงพอแล้วสำหรับการออกทริปจากขั้วโลกเหนือ” ...เจ้ากวางเรนเดียร์น้องเล็กสุด ที่ชื่อ รูดอล์ฟ คิดในใจ
#รูดอล์ฟ เป็นกวางเรนเดียร์อายุน้อยที่สุด หน้าตาก็บ้าน ๆ แถมยังไม่มีพลังพิเศษอย่างใครเขา มีเพียงแต่จมูกสีแดง ๆ ที่ต่างไปจากคนอื่น เลยกลายเป็นเป้าหมายให้ถูกล้อเลียนจากกวางตัวอื่น ๆ อยู่เสมอ ... ‘รูดอล์ฟ’ ถูกมองเป็นความแตกต่าง ‘รูดอล์ฟ’ ถูกมองเป็นความแปลกแยก ‘รูดอล์ฟ’ ถูกมองเป็นความไม่สมบูรณ์ ‘รูดอล์ฟ’ ถูกมองว่าไร้ค่าไร้ประโยชน์
ไม่มีใครอยากเล่นด้วยกับกวางจมูกแดงอย่าง รูดอล์ฟ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องการรับหน้าที่ลากเลื่อนอันทรงเกียรติเลยด้วยซ้ำไป
“คงไม่มีใครต้องการฉัน ในวันคริสต์มาส ทำไมฉันไม่เหมือนกวางตัวอื่น ๆ นะ” รูดอล์ฟก้มหน้าลงพร้อมจมูกสีแดงของเขาในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ พร้อมกับพายุหิมะที่แรงขึ้นจนปกคลุมทั่วท้องฟ้า
“ฉันต้องการเธอ !” เสียงหนึ่งดังขึ้น “ฉันอยากให้เธอมาช่วยฉันลากเลื่อนในคืนนี้ ฉันอยากให้เธอมานำหน้าสุดของขบวนกวางเรนเดียร์ทั้งหมด จมูกสีแดงที่กำลังส่องแสงของเธอจะนำทางเราฝ่ายพายุหิมะไปแจกของขวัญเด็ก ๆ กัน” คุณลุงซานต้าผู้ใจดีบอกกับกวางน้อยจมูกแดง
กวางเรนเดียร์ทั้ง 8 ตัวและเจ้ารูดอล์ฟ จึงเริ่มสังเกตเห็นแสงสว่างบนจมูกสีแดงของน้องเล็กอย่าง รูดอล์ฟ แสงบนจมูกนั้นส่องสว่างเสียจนสามารถพาคณะของซานต้าผ่านเส้นทางวิสัยทัศน์แย่ ๆ ไปได้อย่างง่ายดาย โอ้วววว
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้นตรงกัน จึงเข้ามาคุยกับรูดอล์ฟดี ๆ ขอโทษ ให้กำลังใจ และยอมรับในกวางตัวน้อยจมูกแดงตัวนี้ และตัวรูดอล์ฟเองก็กล้าพอที่จะขึ้นนำขบวน กลายเป็น “กวางตัวที่ 9” พาคุณลุงซานต้าฝ่าพายุหิมะไปแจกของขวัญให้เด็ก ๆ ได้สำเร็จในที่สุด
ในชีวิตจริง เราเองทุกคนคงเคยรู้สึกเหมือนเจ้ากวางน้อยรูดอล์ฟจมูกแดงไม่มากก็น้อย
เราทุกคนเคยรู้สึกแตกต่าง เราเคยรู้สึกแปลกแยก เราถูกคนอื่นมองว่าไม่สมบูรณ์ เราถูกมองว่าไร้ประโยชน์ และหลายๆครั้งเราถูกปฏิเสธ ถูก bully
อาจมีคนเคยบอกว่าเราแตกต่าง เพียงเพราะเราอ้วนกว่าเขา เราดำกว่าเขา เราเตี้ยกว่าเขา และเราพูดไม่เก่งอย่างเขา
อาจมีคนเคยบอกว่าเราแปลกแยก เพียงเพราะคิดไม่เหมือนเขา เราไม่ชอบทำในสิ่งที่คนอื่นเค้าชอบกัน แต่เราชอบในสิ่งที่คนอื่นไม่เข้าใจ
อาจมีคนเคยบอกว่าเราไม่สมบูรณ์ เพียงเพราะหน้าตาเราแย่กว่าเขา ทั้ง ๆ ที่เราเองก็อยากจะสมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่น ไม่มีใครอยากเกิดมาพร้อมข้อบกพร่อง
อาจมีคนเคยบอกว่าเราไร้ประโยชน์ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เปิดโอกาสให้เราได้ทำประโยชน์เลยสักครั้งเดียว
เราถูกกลั่นแกล้งและปฏิเสธไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจากคนที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา แน่นอนการถูกปฏิเสธย่อมทำให้เราเสียใจ อาจทำให้เราหมดความมั่นใจ
....แต่เราเคยถามตัวเองบ้างไหม ว่าการถูกปฏิเสธนั้น ลดคุณค่าในตัวตนของเราจริงหรือ ?
การที่ รูดอล์ฟ ถูกปฏิเสธจากกวางตัวอื่นไม่ได้ทำให้จมูกของเขาสีแดงน้อยลง และก็ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการส่องแสงนำทางของเขาลดลงไปด้วย เขาเพียงอดทนรอโอกาสที่จะได้โชว์มันออกมาให้คนอื่นได้เห็น เพราะหาก รูดอล์ฟ มีความสามารถเหมือนกวางเรนเดียร์ตัวอื่น ๆ แล้ว คณะของซานต้าคงไม่สามารถฝ่าพายุหิมะไปได้อย่างแน่นอน
เราทุกคนควรเรียนรู้จาก รูดอล์ฟ เรียนรู้ที่จะแตกต่าง ลองคิดดูว่า หากทุกคนนิสัยเหมือนกันและคิดเหมือนกันไปซะหมด เราคงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรบนโลกนี้ได้เลย วันนี้คนอื่นอาจไม่เข้าใจในคุณค่าของความแตกต่างในตัวเรา ก็ไม่เป็นไร เราจะเก็บความแตกต่างนี้ไว้ รอวันที่มันจะส่องแสงเหมือนจมูกของ รูดอล์ฟ
...เพราะโลกใบนี้ต้องการความแตกต่างในการก้าวไปข้างหน้า โลกใบนี้ถูกแต่งเติมสีสันด้วยความแตกต่างของแต่ละคน ทุกคนล้วนสมบูรณ์แบบในความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง
“ขอเป็น ‘รูดอล์ฟ’ ในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !”
นอกจากเรียนรู้ที่จะเป็น เจ้ากวางน้อยรูดอล์ฟ ผู้มีคุณค่าในตัวเองแล้ว เราก็ควรจะเรียนรู้ที่จะเป็น “ซานต้าคลอส” ให้กับใครสักคนด้วย ....
เจ้ากวางน้อยรูดอล์ฟ คงจะเป็นเหมือนเพียงกระสือในวันคริสต์มาส ที่ลอยไปลอยมาไม่มีแก่นสาร หากไม่มีคนแบบซานต้าคลอส ที่สังเกตเห็นความแตกต่างของเจ้ากวางน้อยตัวนี้ เอาจริง ๆ แล้วคุณลุงซานต้าไม่ได้เพียงแค่สังเกตเห็นความแตกต่างหรอกนะ แต่เขายอมรับในความแตกต่าง เขารู้ว่าสิ่งนั้นสามารถสร้างมูลค่าได้ขนาดไหน ลุงซานต้าไม่ได้เห็นจมูกสีแดงมีไฟวิบวับของรูดอล์ฟแล้วบอกว่า “เออ สวยดี” แล้วจับ รูดอล์ฟ ไปแขวนประดับบนต้นคริสต์มาส
ซานต้าคลอสเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เห็นในสิ่งที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ จมูกของ รูดอล์ฟ ที่ส่องสว่างไม่ได้เกิดจากแค่ตัว รูดอล์ฟ เองเพียงอย่างเดียว แต่แสงสว่างนำทางนั้นเกิดจากการ “ให้โอกาส” ของคุณลุงซานต้าผู้ใจดี โอกาสที่ให้กับผู้ที่ถูกคนอื่นมองข้ามไป
จริง ๆ แล้วการให้โอกาสไม่เพียงเกิดประโยชน์กับ “ผู้รับโอกาส” เท่านั้น แต่ยังเกิดผลดีกลับมาที่ “ผู้ให้โอกาส” อีกด้วย... ลองคิด ๆ ดู ถ้าไม่มีแสงไฟจากจมูก รูดอล์ฟ แก๊งค์กวางลากเลื่อนก็คงไม่สามารถพุ่งทะยานไปในท้องฟ้าที่วิสัยทัศน์ย่ำแย่ได้ คุณลุงซานต้าเองก็คงกลายเป็นตาลุงไร้ตัวตนนั่งจมกองของขวัญอยู่กับบ้านที่ขั้วโลกเหนือ เพราะฝ่าพายุหิมะออกไปเจอเด็ก ๆ ไม่ได้นั่นเอง
“คนที่ชอบให้โอกาสผู้อื่น จะกลายเป็น คนที่ได้รับโอกาสจากผู้อื่น ในที่สุด”
//...............
CR : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
//...............