#30by30 ปี 2030 'ทศวรรษแห่งการตัดสินอนาคตของโลก'
#30by30 ปี 2030 'ทศวรรษแห่งการตัดสินอนาคตของโลก'
โลกกำลังเข้าสู่ยุคการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ตั้งเป้า #30by30 รักษาพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติให้ได้ 30 % ของพื้นที่แต่ละประเทศ ภายในปี 2030 “ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” ห่วง “ทะเล” วอนทุกฝ่ายร่วมด้วยช่วยกัน เร่งปรับตัวก่อนตกขบวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เผยแพร่ข้อความและรูปภาพ ผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว “Thon Thamrongnawasawat” ระบุถึงการประกาศเป้าหมาย #30by30 ในการประชุมใหญ่ของ UN ที่คุนหมิง เพื่อรักษาพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติให้ได้ 30 % ของพื้นที่แต่ละประเทศ ภายในปี 2030 ซึ่งจะเป็น “ทศวรรษแห่งการตัดสินอนาคตของโลก” โดยมีเนื้อหา ดังนี้
“เพิ่งมีประชุมใหญ่ของ UN ที่คุนหมิง ว่าด้วยเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ เป้าหมายหลักคือการประกาศ #30by30
30 แรกหมายถึงการรักษาพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติให้ได้ 30 % ของพื้นที่แต่ละประเทศ
30 สองหมายถึงทำให้ได้ภายในปี 2030
เราพอรู้กันว่า โลกกำลังเข้าสู่ยุคการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ความหลากหลายทางชีวภาพลดลงพรวดพราด เร็วที่สุดในรอบ 10 ล้านปี
ผลกระทบที่เกิดขึ้นแม้ไม่เห็นชัดเหมือนโลกร้อน แต่ส่งผลแน่นอน เพราะชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนค่อนโลกที่ฝากปากท้องไว้กับความหลากหลายทางชีวภาพ
โดยเฉพาะผู้คนในชนบท
ยังเกี่ยวข้องถึงประเด็นต่าง ๆ ทางการแพทย์/สาธารณสุข เช่น โรคอุบัติใหม่ ยา ฯลฯ
เมื่อนำมารวมกับผลกระทบเรื่องโลกร้อน จึงกลายเป็นภัยพิบัติ 2 เด้ง ที่จะส่งผลรุนแรงต่อวิถีชีวิตในอนาคต
UN ทราบดี จึงจัดลำดับความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพเป็น 1 ใน 2 เรื่องเร่งด่วนของโลก ควบคู่มากับเรื่องโลกร้อน
แรงสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ ก็เห็นชัดขึ้น เช่น ประธานาธิบดีสีเจิ้งผิง เข้าร่วมประชุมที่คุนหมิง
ท่านแถลงว่า จีนจะสนับสนุนเงินกว่า 7 พันล้านเหรียญ ให้ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อเป้าหมาย 30by30
ปัญหาคือสำเร็จไหม ? เพราะในการประชุมครั้งก่อน ๆ เช่น ในค.ศ.2010 เราเคยตั้งเป้า 20by20 (20 เป้าหมายในปี 2020)
ผลปรากฏคือเมื่อถึงปี 2020 ไม่สำเร็จสักเป้า ว่าง่าย ๆ คือแห้วหมด
เรายังมี SDGs ตั้งเป้าในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ
ถ้าเป็นทางทะเล เราต้องการพื้นที่อนุรักษ์ 10 % ของทะเลในปี 2030
แต่เรื่องนี้ก็เหมือนโลกร้อน ผลการศึกษาระยะหลังระบุว่า ความเสียหายมีมากกว่าที่คิด
นั่นคือที่มาของ 30by30 เพิ่มเป้าให้มากขึ้น ทั้งบกทั้งทะเล
คราวนี้มาดูเมืองไทย เป็นไงบ้างนะ ?
คำตอบคือหากเป็นบก เราผ่านสบาย หากเป็นทะเล เราคิดหนัก
ป่าไม้ในเมืองไทยมีพื้นที่เกิน 30 % ของประเทศมานานแล้ว และคงอยู่ในระดับ 30-35 % ไม่ลดต่ำกว่านี้ค่อนข้างแน่
แต่ถ้าเป็นในทะเล เรามีพื้นที่ทะเลทั้งประเทศ 323,000 ตร.กม. อนุรักษ์ไปแล้ว 15,000+ ตร.กม. คิดเป็น 4.75%
ตัวเลขนี้ใช้ตามที่ปรากฏในฐานข้อมูลระดับโลก (UN - WCMC)
หมายถึงเราต้องการอีก 5.25 % หรือ 17,000 ตร.กม. ภายในปี 2030 เพื่อให้ครบ 10 %
เรากำลังวางแผนประกาศ/อยู่ระหว่างการประกาศ 11,000 ตร.กม.
จึงยังเหลืออีก 6,000 ตร.กม.ที่ต้องหาทางไปให้ถึงให้ได้ภายใน 2030
นั่นหมายถึง 10 % ตาม SDG14 ยังไม่ต้องพูดถึง 30by30
เพราะถ้าให้ถึง 30 % ของทะเลไทยทั้งหมด เราต้องการ 97,000 ตร.กม.
ตอนนี้มีต้นทุน 1.5 หมื่น มีวางแผน 1.1 หมื่น ต้องการอีก 7.1 หมื่น ภายในปี 2030
Mission Impossible เป็นยังไง อันนี้แหละครับของจริง
แต่ถ้าโลกไป 30by30 ผมคิดว่าเมืองไทยจำเป็นอย่างมากที่ต้องทำให้ได้อย่างน้อย 10 % ตาม SDG14 ที่เราให้คำมั่นไว้
ไม่งั้นโลกจ้องมองเมืองไทยแน่นอน
เค้าไป 30 % กันแล้ว ประเทศยูแค่ 10 % ยังทำไม่ได้
ถ้าจ้องเฉย ๆ ก็ไม่เป็นไร แต่จ้องแล้วมันจะตามมาด้วยมาตรการต่าง ๆ
เอาแค่เรื่องผลกระทบประมงกับ Marine Mammal ที่อเมริกาประกาศมา เท่านั้นก็เหนื่อยมากแล้วครับ
การจัดทำพื้นที่คุ้มครองทางทะเลให้ได้อย่างน้อย 10 % จึงเป็นเหมือนเกราะคุ้มกันภัยสำหรับคนทำมาหากินในทะเลในอนาคต
ยังรวมถึงการเร่งศึกษาและดูแลความหลากหลายทางชีวภาพในทะเล
หากให้ภาครัฐทำอย่างเดียว คงไม่มีทางเป็นไปได้ โดยเฉพาะช่วงที่งบโดนตัดไปจากผลของโควิด
ภาคเอกชนควรช่วยสนับสนุน เพราะท้ายที่สุด Biodiversity Loss มันก็กลับไปกระทบภาคธุรกิจลงทุนพัฒนา
โดยจะมีมาตรฐานต่าง ๆ จากโลกยุคกรีน เข้ามาควบคุมดูแล คนทำลายความหลากหลายทางชีวภาพจะไม่มีคนคบ เข้าไม่ถึงแหล่งทุน ฯลฯ
เตือนไว้นิดว่าเรื่องพวกนี้มาเร็วมาก ค.ศ.2030 อยู่ไม่ไกล
ยิ่งถ้าคิดถึงโควิด ทำให้งานหลายอย่างหยุดชะงัก เราต้องเร่งเครื่องใน 3-4 ปีต่อจากนี้แหละ
บทสรุปคือทั้งโลกร้อนทั้งความหลากหลายทางชีวภาพ ทุกอย่างบ่งบอกรวมกันว่า จากปีนี้ไปถึงปี 2030 จะเป็นช่วงสำคัญสุด
เป็น “ทศวรรษแห่งการตัดสินอนาคตของโลก”
และเป็นช่วงที่เมืองไทยต้องปรับตัวอย่างเร่งรีบและเท่าทัน ไม่งั้นตกขบวนนี้แล้ว ไม่มีขบวนหน้าแน่นอน
เป็นกำลังใจให้คนที่เกี่ยวข้อง ทั้งทะเลทั้งป่า
และจะพยายามหาทางสนับสนุนให้มากที่สุดครับ
ข่าวการประชุม
//.................
//.................