ด่วน !! นักวิจัย USA พบ สมุนไพร ‘โกฐจุฬาลัมพา’ ยับยั้ง ‘โควิด-19’

ด่วน !! นักวิจัย USA พบ สมุนไพร โกฐจุฬาลัมพา ยับยั้ง โควิด-19’

 

“มูลนิธิชีววิถี BIOTHAI” เผย คณะนักวิจัย “Columbia University” และ “University of Washington” พบ “โกฐจุฬาลัมพา” สมุนไพรที่ “หมอพื้นบ้านไทย” และ “เอเซีย” รู้จักดี สามารถต้านเชื้อ “โควิด-19” ในห้องปฏิบัติการ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “มูลนิธิชีววิถี BIOTHAI” ได้เผยแพร่รูปภาพและข้อความ ระบุว่า คณะนักวิจัย 7 คน นำโดย “M S Nai” จาก “Columbia University” และ “University of Washington” ค้นพบว่า “โกฐจุฬาลัมพา” สมุนไพรที่ หมอพื้นบ้านไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ เอเชีย รู้จักดี สามารถต้านเชื้อ “โควิด-19” ได้ในห้องปฏิบัติการ โดยมีเนื้อหา ดังนี้

 

“คณะนักวิจัย 7 คน นำโดย M S Nai จาก Columbia University และ University of Washington พบ โกฐจุฬาลัมพา สมุนไพรที่หมอพื้นบ้านไทย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียรู้จักดี สามารถต้านเชื้อโควิดได้ในห้องปฏิบัติการ

 

สารสกัดรวม ของ โกฐจุฬาลัมพา (โดยมีตัวอย่างหนึ่งเป็นใบแห้งมีอายุการเก็บมานานกว่า 10 ปี) มีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้ง เชื้อโควิด ซึ่งรวมทั้งสายพันธ์แอฟริกา และอังกฤษ โดยนักวิจัยเชื่อว่า สารที่มีบทบาทสำคัญในการยับยั้งไวรัสมรณะนี้ นอกจากสาร artemisinin และองค์ประกอบแล้ว น่าจะมาจาการทำงานของสารอื่น ๆ ใน โกฐจุฬาลัมพา ด้วย

 

 

 

โกฐจุฬาลัมพา ชื่อวิทยาศาสตร์ Artemisia annua Linn.

ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Artemisia chamomilla C. Winkl. , Artemisia stewartii C.B. Ckarke., Artemisia wadei Edgedw.

 

คําอธิบายตําราพระโอสถพระนารายณ์ซึ่งเป็นตําราอ้างอิงด้านสมุนไพรที่สมบูรณ์ที่สุดเล่มหนึ่งระบุว่า โกฐจุฬาลัมพา คือส่วนใบและเรือนยอดของ A. annua โดยเป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้เป็นสมุนไพรอย่างกว้างขวางทั้งการแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน

 

โดยในตำรายาไทย ระบุว่า โกฐจุฬาลัมพา เป็นเครื่องยาที่มีรสสุขุมหอมร้อนมีสรรพคุณแก้ไข้เจลียง (ไข้จับวันเว้นวัน)ไข้เจรียง (ไข้ทีมีเม็ดผื่นขึ้นตามตัว เช่น เหือดหัด สุกใส ดำแดง รากสาดประดง) แก้ไข้เพื่อเสมหะ แก้หืด แก้ไอเป็นยาขับเหงื่อ ใช้แต่งกลิ่น เป็นยาเจริญอาหาร เป็นยาระบายแก้ไข้จับ เป็นยาเร่งประสาทส่วนกลางเหมือนการบูร ขับลม แก้ตกเลือด ตำพอกแก้ลมแก้ชำใน แก้ปวดเมื่อยรูมาติก แก้บิด แก้ปวดท้องหลังคลอด แก้ระดูมากเกินไป

 

นอกจากนี้ ในบัญชียาจากสมุนไพร ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ปรากฏการใช้ โกฐจุฬาลัมพา ในยารักษาอาการโรคในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ ยาหอมเทพจิตรและตำรับ “ยาหอมนวโกฐมีส่วนประกอบของ โกฐจุฬาลัมพา อยู่ในพิกัดโกฐ ทั้ง 9 ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ในตำรับ มีสรรพคุณในการแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้อง ยาแก้ไข้ ปรากฏตำรับ ยาจันทน์ลีลามีส่วนประกอบของส่วนประกอบของ โกฐจุฬาลัมพา ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ในตำรับ ใช้บรรเทาอาการไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู ตำรับ "ยาเลือดงาม" มีส่วนประกอบของ โกฐจุฬาลัมพา ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ แก้มุตกิด

 

และ โกฐจุฬาลัมพา ยังเป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในตำรับยาแผนโบราณของไทยหลายตำรับ เช่น มีการนำมาใช้ในเครื่องยาไทย ที่เรียกว่า พิกัดโกฐโดย โกฐจุฬาลัมพา จัดอยู่ใน โกฐทั้งห้า(เบญจโกฐ) โกฐทั้งเจ็ด(สัตตโกฐ) และโกฐทั้งเก้า(เนาวโกฐ) สรรพคุณโดยรวม ของยาที่ใช้ในพิกัดโกฐ คือ แก้ไข้ แก้ไข้ร่วมกับมีเสมหะ แก้หืดไอ แก้หอบ แก้ลมในกองธาตุ ชูกำลัง ขับลม แก้สะอึก บำรุงเลือด บำรุงกระดูก เป็นต้น

 

ถ้าใครจำได้เมื่อปีที่แล้ว นายแอนดรี ราโจเอลินา ประธานาธิบดี แห่ง มาดาร์กัสกา ได้ประกาศในประชาชนใช้ โกฐจุฬาลัมพา แต่กลับถูกวิจารณ์โดย องค์การอนามัยโลก โดยอ้างว่า เป็นการรณรงค์ยังไม่ได้มีงานวิจัยใด ๆ รองรับ แต่เขายังเดินหน้าเผยแพร่การใช้ยาสมุนไพรโดยไม่สนใจคำเตือน

 

เราต้องรอให้ต่างประเทศจดสิทธิบัตรก่อนหรือ จึงจะยอมรับว่า ความรู้และสมุนไพรจากท้องถิ่นสามารถรับมือกับวิกฤตนี้ได้ ?

 

++++

 

ข้อควรระวัง !

 

โกฐจุฬาลัมพา ในอดีตมีการเข้าใจกันว่าเป็นเครื่องยาที่ได้จากพืชในวงค์ COMPOSITAE เช่น A.pallens , A.vulgaris , A.argyi ซึ่งเป็นคนละชนิดกันกับ Artemisia annua ตามการวิจัยนี้

 

ต้นโกฐจุฬาลัมพา มีทั้งพันธุ์ดอกสีขาวและดอกสีแดงมีสรรพคุณทางยาเหมือนกัน สามารถนำมาใช้แทนกันได้ นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ดอกสีเหลืองชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Artemisia princeps Pamp ด้วย แต่พันธุ์นี้จะมีพิษ ถ้าใช้เกินขนาดก็อาจทำให้เสียชีวิตได้

 

การใช้ยา ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ควรใช้ตามคำแนะนำของหมอพื้นบ้าน และแพทย์แผนไทย เพราะอาจส่งผลกระทบต่อตับไต หญิงตั้งครรภ์ หรือไข้เลือดออก

 

+++

 

ลิงก์ งานวิจัย

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/33716085/#affiliation-1

 

ลิงก์ ข้อมูลพื้นฐาน โกฐจุฬาลัมพา ของ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

https://bit.ly/3liUH00

 


 ปริมาณการใช้และประสิทธิภาพการยับยั้ง ใบแห้งของโกฐจุฬาลัมพา 7 สายพันธุ์สกัดด้วยน้ำร้อน

 


 

“โกฐจุฬาลัมพา ซึ่งคณะนักวิจัยในสหรัฐอเมริกา Columbia University  และ University of Washington เพิ่งตีพิมพ์ผลการวิจัยในห้องปฏิบัติการเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา โดยพบว่า สารสกัดโดยน้ำร้อนของสมุนไพรนี้มีฤทธิ์ยับยั้งโควิดได้ สอดคล้องกับงานวิจัยก่อนหน้านี้ของนักวิจัยในจีน และการส่งเสริมโดยประธานาธิบดีแห่งมาดากัสการ์ นั้น

 

กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญไว้เบื้องต้น ดังนี้

 

1. ชื่อสมุนไพร โกฐจุฬาลัมพา (KOT CHULA LUMPA)

 

2. ชื่อวิทยาศาสตร์ Artemisia annua L. ชื่อวงศ์ Compositae (Asteraceae)

 

3. ชื่ออื่น ชิงฮาว, แชเฮา (ภาษาจีน), Sweet Wormwood Herb

 

4. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ไม้ล้มลุกอายุปีเดียว สูง 0.7-1.6 เมตร แตกกิ่งมาก ทั้งต้นมีกลิ่นแรง มีขนประปราย หลุดร่วงง่าย

ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงเวียน มีต่อมโปร่งแสง ใบบริเวณโคนต้นรูปไข่หรือรูปสามเหลี่ยมแกมรูปไข่ กว้าง 2-6 เซนติเมตร ยาว 3-7 เซนติเมตร ขอบใบหยักลึกแบบขนนก 3 หรือ 4 ชั้น เป็น 5-8 คู่ แฉกใบจักฟันเลื่อยลึกรูปสามเหลี่ยม เส้นกลางใบเด่นชัด ทางด้านบน แกนกลางใบมีปีกแคบ อาจจักฟันเลื่อยเล็กน้อยหรือเรียบ ใบบริเวณกลางต้นหยักลึกแบบขนนก 2 หรือ 3 ชั้น ใบใกล้ยอด รวมทั้งใบประดับหยักลึกแบบขนนก 1 หรือ 2 ชั้น ก้านใบสั้นมาก

ช่อดอก แบบช่อแยกแขนง รูปพีระมิดกว้าง ช่อย่อยแบบช่อกระจุกแน่น รูปกลม มีจำนวนมาก เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2.5 มิลลิเมตร สีเหลืองถึงสีเหลืองเข้ม ก้านช่อย่อยสั้น วงนอกเป็นดอกเพศเมีย มี 10-18 ดอก โคนกลีบ เชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายจักเป็นซี่ฟัน 2 หรือ 3-4 ซี่ ยอดเกสรเพศเมียแหลม ดอกย่อยตรงกลางเป็นดอกสมบูรณ์เพศมี 10-30 ดอก โคนกลีบเชื่อมติดกัน เป็นหลอด ปลายจักซี่ฟัน 5 ซี่ เกสรเพศผู้มี 5 อัน อับเรณูเชื่อมติดกัน แต่ละอันมีรยางค์ด้านบน 1 อัน รูปสามเหลี่ยมปลายแหลม และมีรยางค์ปลายมนที่โคน 2 อัน

ผล แบบผลแห้งเมล็ดล่อนรูปไข่แกมรี ยาวประมาณ 0.5 มิลลิเมตร

 

5. ส่วนที่ใช้ทำยา

ลำต้นแห้ง

 

6. สรรพคุณของแต่ละส่วนที่ใช้ทำยา

ตำราสรรพคุณยาไทยว่าโกฐจุฬาลัมพามีสรรพคุณแก้ไข้เจลียง (ไข้จับวันเว้นวัน-เป็นไข้จับสั่นประเภทหนึ่ง) แก้ไข้ ลดเสมหะ

แก้หืด แก้ไอ ใช้เป็นยาขับเหงื่อ โกฐจุฬาลัมพาจัดเป็นโกฐชนิดหนึ่งในพิกัดโกฐทั้ง 5 (เบญจโกฐ) โกฐทั้ง 7 (สัตตโกฐ) และโกฐทั้ง 9(เนาวโกฐ) ตำรายาของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีมอโนกราฟโกฐจุฬาลัมพา โดยระบุข้อบ่งใช้ว่าใช้แก้ไข้อันเกิดจากความร้อนในฤดูร้อน แก้ไข้ต่ำ ๆ ที่ไม่มีเหงื่อ แก้ไข้อันเนื่องจากวัณโรค และแก้ไข้จับสั่น

 

7. รายงานการวิจัยในปัจจุบัน

ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยพบว่าสารชิงฮาวซู (อาร์เทแอนนูอินหรืออาร์เทมิซินิน) แสดงฤทธิ์ต้านเชื้อไข้จับสั่นชนิด

ฟัลซิพารุม (Plasmodium falciparum) และชนิดไวแวกซ์ (Plasmodium vivax) โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ดื้อยา ปัจจุบันสารชนิดนี้กับอนุพันธุ์กึ่งเคมีสังเคราะห์ของสารชนิดนี้ถูกนำมาใช้เป็นยาแก้ไข้จับสั่นในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย

 

8. สารสำคัญ

โกฐจุฬาลัมพา มีสารอนุพันธ์เซสควิเทอร์พีนแลกโทน (sesquiterpene lactones) หลายชนิด แต่ที่สำคัญคือ

ชิงฮาวซู (qinghaosu) หรือ อาร์เทแอนนูอิน (arteannuin) หรืออาร์เทมิซินิน (artemisinin) และพบสารกลุ่มฟลาโวนอยด์

(flavonoids) อีกหลายชนิด เช่น คาสทิซิน (casticin) เซอร์ซิลินีออล (cirsilineol) คริโซพลีนอลดี (chrysoplenol-D)

คริโซพลีเนทิน (chrysoplenetin)

 

9. แหล่งกำเนิด และการกระจายพันธุ์

พืชชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ในทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปยุโรป ภาคเหนือของทวีปแอฟริกา และในทวีปเอเชีย

ในจีนมักพบขึ้นทั่วไปตามเนินเขา ข้างทาง ที่รกร้าง หรือตามชายป่า ที่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 200-3,650 เมตร มีผู้นำมาทดลองปลูกในประเทศไทยและพบว่าขึ้นได้ดี ออกดอกและเป็นผลได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน

โกฐจุฬาลัมพา ที่มีขายในท้องตลาด ได้จากพืชปลูกในมณฑลเหอเป่ย์ ชานตง เจียงซู หูเป่ย์ และฝูเจี้ยน ของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

 

10. พื้นที่เหมาะสมในการปลูกในประเทศไทย

- ลักษณะพื้นที่ พื้นที่ดอน

- ภาค ทั่วทุกภาคของประเทศไทย

- จังหวัด ทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย

 

11. การคัดเลือกพันธุ์ (พันธ์ุที่นิยมปลูกในประเทศไทย)

- พันธุ์ที่ใช้เป็นยา พันธุ์พื้นบ้านทั่วไป (ใบฝอย)

- พันธุ์ที่ใช้เป็นอาหาร พันธุ์พื้นบ้านทั่วไป (ใบฝอย)

 

12. การขยายพันธุ์

ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โกฐจุฬาลัมพาจะปักชำโดยการตัดต้นยาว 8 – 10 นิ้ว แล้วปักในถุงเพาะชำที่ผสมดินกับขี้เถ้าแกลบ เอาไว้ในเรือนเพาะชำ รดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอประมาณ 10 – 20 วัน จะงอกรากเป็นต้นใหม่ต่อไป

 

13. การปลูก/สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูก

- ฤดูกาลเพาะปลูก ปลูกได้ทุกฤดู นิยมปลูกฤดูหนาว และต้องรดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ

- การเตรียมดิน จะต้องขุดเป็นแปลงกว้างประมาณ 1 เมตร ความยาวแล้วแต่ละพื้นที่ เว้นทางเดิน 50 เซนติเมตร

เป็นร่องระบายน้ำผสมคลุกเคล้าด้วยปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก

- วิธีการปลูก เมื่อเตรียมแปลงปลูกแล้ว นำต้นกล้าอายุ 3 – 4 เดือน ลงปลูกห่างกันประมาณ 30 เซนติเมตร

ระหว่างต้น 30 เซนติเมตร กลบดินแล้วนำไปผูกเชือก รดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ

 

14. การปฏิบัติดูแลรักษา

- การให้ปุ๋ย เมื่อปลูกได้ 30 วัน ก็ควรพรวนดินและใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อ 1 ต้น พร้อมกำจัดวัชพืช ควรใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์สลับกันไป เดือนละ 1 – 2 ครั้ง

- การให้น้ำ ควรรดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่ถ้ามีฝนก็ควรงดบ้าง

- การกำจัดวัชพืช ควรทำพร้อมกับการพรวนดินและใส่ปุ๋ย

- การป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรู โกฐจุฬาลัมพาไม่ค่อยมีแมลงศัตรูเท่าไหร่ ควรฉีดพ่นด้วยสารสะเดา หรือสารชีวภาพก็ได้

 

15. การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังเก็บเกี่ยว

- ฤดูกาลการเก็บเกี่ยว เมื่อโกฐจุฬาลัมพาออกดอก เริ่มบานได้เกินครึ่งของช่อดอก ก็เริ่มเก็บเกี่ยวได้ และจะเก็บเกี่ยวได้ทุกฤดูกาล

- วิธีการเก็บเกี่ยว จะต้องให้ต้นสูงจากดินประมาณ 10 เซนติเมตร จะใช้มีด หรือเคียวเกี่ยวก็ได้ และส่งแปรรูปต่อไป

- การแปรรูปหลังการเก็บเกี่ยว เมื่อได้ต้นโกฐจุฬาลัมพามาแล้ว ก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดและตากแดดให้แห้ง หรือจะตัดเป็นท่อน ๆ ก็ได้ ตากแดดประมาณ 4 – 5 วัน ก็จะแห้ง แล้วนำไปอบอีกครั้งจนแห้งสนิท

- การบรรจุและการเก็บรักษา เมื่อได้โกฐจุฬาลัมพาแห้งมาแล้ว ก็บรรจุถุงพลาสติกมัดปากให้แน่น นำส่งจำหน่ายต่อไปหรือจะเก็บก็ควรเก็บใส่ถุงพลาสติกมัดปากให้แน่นไม่ให้โดนน้ำ แล้วเก็บไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ

 

16. การจำหน่าย

ต้นแห้งราคากิโลกรัมละ 100-200 บาท

 

ลิงก์อ้างอิง

1. Artemisia annua L. extracts inhibit the in vitro replication of SARS-CoV-2 and two of its variants

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/33716085/#affiliation-1

 

2.Anti-SARS-CoV-2 Potential of Artemisinins In Vitro

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/32786284/

 

3.โกฐจุฬาลัมพา โดยกรมการแพทยแผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

https://bit.ly/3liUH00

 

//..................

              CR : มูลนิธิชีววิถี BIOTHAI

//..................