ชัด !! ‘ปฏิรูปทะเลไทย’ ทำได้ ‘ท่องเที่ยว-ธรรมชาติ’ ไปด้วยกัน-ยั่งยืน !!
ชัด !!‘ปฏิรูปทะเลไทย’ ทำได้ ‘ท่องเที่ยว-ธรรมชาติ’ ไปด้วยกัน-ยั่งยืน !!
“ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” เปิดภาพเปรียบเทียบ รูปธรรมการฟื้นฟูธรรมชาติ-ทะเลไทย ผ่าน “อ่าวมาหยา-พีพีโมเดล” ปี 2016 – 2020 ชี้ชัด “ปฏิรูปทะเลไทย” เป็นไปได้ การท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เผยแพร่ข้อความและรูปภาพ ผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว “Thon Thamrongnawasawat” ยืนยันว่า “การปฏิรูปทะเลไทย” มีความเป็นไปได้ และการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ ก็ไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน โดยมีเนื้อหา ดังนี้
“การท่องเที่ยวยั่งยืนดีอย่างไร นิวนอร์มัลมีจริงในทะเลไทยหรือเปล่า ? #ปฏิรูปทะเลไทย เป็นไปได้ไหม ?
ผมนำตัวอย่างจาก อ่าวมาหยา มาให้ เพื่อนธรณ์ ดูชัด ๆ ว่า ของจริงมี และเราเห็นได้แม้จากดาวเทียม
ภาพบน ปี 2016 ยังไม่มีการจัดการใด ๆ พีพีโมเดล ยังไม่เริ่ม
ภาพล่าง ปี 2020 การปฏิรูปอุทยานก้าวหน้า ฟื้นฟูมาหยาเข้าสู่ปีที่ 3
เทียบ 2 ภาพ เริ่มจากเรือ
เห็นชัดว่า เรือ16 วิ่งกันตามใจชอบ จอดตรงไหนก็ได้ ทิ้งสมอลงแนวปะการัง วันละไม่รู้เท่าไหร่
เรือ20 จอดเรียงเป็นระเบียบ มีทุ่นกั้นเขตห้ามเข้าชัดเจน
สังเกตจำนวนเรือ 20 ยังมีอยู่พอสมควร
ผมบอกเสมอว่า นี่ไม่ใช่ปิดท่องเที่ยว อ่าวมาหยา
นี่เป็นการจัดการแบบใหม่ เที่ยวได้โดยไม่ต้องทำร้ายธรรมชาติ และยังมีคนไปเที่ยว
ไปชื่นชมอ่าวสวยที่สุดในโลกด้วยสายตา ดีต่อใจ...
คราวนี้ดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เริ่มจากจุด a
A 16 เห็นพื้นทรายขาว ปะการังหายหมด เพราะเรือทั้งวิ่งทั้งทิ้งสมอขนาดนั้น ปะการังคงรอดยาก
a 20 เริ่มเห็นปื้นดำกระจาย เป็นปะการังที่กรมอุทยาน/ผู้ประกอบการ/อาสาสมัครช่วยกันฟื้นฟูขึ้นมา
ข้อมูลล่าสุด ปะการัง 7 ชนิด รอดตายและกำลังโต 17,480 กิ่ง/ก้อน (เอาเฉพาะรอดนะครับ ปลูกเยอะกว่านั้น)
ทุกวันทุกเดือนทุกปีที่ผ่านไป ปะการังเหล่านี้จะขยายพื้นที่ไปเรื่อย ๆ
อ่าวมาหยา เขยิบเข้าใกล้สวรรค์ทีละนิด
ฝูงฉลามครีบดำ ที่เคยนับได้มากที่สุดถึง 108 ตัว ว่ายวนเข้ามาหากินผสมพันธุ์ออกลูกสบายในปี 2020
เทียบกับปี 2016 ไม่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญก็บอกได้ มีเรือขนาดนั้น ฉลามจะไปอยู่ตรงไหน ?
คราวนี้มาดูจุด b บนชายหาด
b16 เห็นป่าแหว่งเป็นสีขาว ต้นไม้ตายเพราะคนเหยียบย่ำไปทั่ว เกิดการพังทลายของชายหาด
b20 ดูแล้วเขียวเป็นปื้น รอยแหว่งหายไปเพราะไม่มีคนเหยียบ ป่าฟื้นคืน แม้แต่เส้นทางเดินก็โดนป่ากลืนเกือบมองไม่เห็น
อันที่จริง ปี20 เริ่มวางเส้นทางเดินยกพื้นแล้วครับ
เมื่อเปิด อ่าวมาหยา อีกครั้ง คนจะเดินบนเส้นทางนี้ ไม่ไปเหยียบย่ำอะไรอีกแล้ว
ทั้งหมดนี้ คือหลักฐานความจริงว่า เมื่อเราจัดระเบียบท่องเที่ยว เอาจริงกับคำว่า “ให้ธรรมชาติมาก่อน” ความเปลี่ยนแปลงเกิดได้
และเห็นได้แม้จากดาวเทียม โดยไม่ต้องใช้คำพูดสร้างฝัน
แหล่งท่องเที่ยวที่มีการดูแลดีขนาดนี้แหละที่ชาวโลกอยากเห็นในยุคหลังโควิด
ททท.ตั้งเป้าว่า ในช่วง 3-4 ปี เราอาจมีนักเที่ยวไม่เท่าเมื่อก่อน แต่การจับจ่ายรายหัวจะมากขึ้น
คนที่ยอมจ่ายมากขึ้น ย่อมอยากเห็นของดีจริงสมค่าใช้จ่าย
ย่อมอยากเห็นทะเลสงบสวยจัง
เพื่อนธรณ์ ลองดูอีกครั้ง ปี 16 กับปี 20 คิดว่าคนจะยอมจ่ายมากขึ้นเพื่อไปที่ไหน ?
จึงบอกอยู่เสมอ ท่องเที่ยวกับธรรมชาติไปด้วยกันได้
ฉลามมีพื้นที่เพียงพอ และผู้ประกอบการมีรายได้พอเพียง
ขอเพียงเราให้ความสำคัญคนท้องถิ่น ทำให้การกระจายรายได้ส่วนใหญ่ตกอยู่กับพ่อแม่พี่น้องแถวนั้น
พีพีโมเดล - อ่าวมาหยา จะเป็นต้นแบบที่เห็นจริงสำหรับพื้นที่อื่น ๆ
ที่สำคัญ อ่าวมาหยา เป็นนำร่องยักษ์ใหญ่ระดับโลก
ต่างจากพื้นที่นำร่องอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่เริ่มจากพื้นที่เล็ก
เมื่อนำมาต่อยอดกับที่ใหญ่ บางทีก็ลำบากไปไม่รอด
ผมพูดตั้งแต่วันแรก ๆ ที่ทำ พีพีโมเดล หากเราที่นี่ได้ ทำไมจะทำที่อื่นไม่ได้
เชื่อว่าภายในปีนี้ กรมอุทยานฯ คงพร้อมเปิด อ่าวมาหยา โฉมใหม่ให้คนไทยลองไป
ไปแบบ new normal ด้วยการจำกัดจำนวน ไม่เข้าไปรบกวนปะการัง ไม่ไปแย่งที่ฉลาม ไม่เหยียบย่ำพันธุ์ไม้
และเมืองไทยจะได้อวดสถานที่ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับ Flag Ship ให้คนทั้งโลกชื่นชมครับ
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ช่วยกันมาตลอด”
หมายเหตุ - ภาพถ่ายดาวเทียม google Earth เปรียบเทียบ 2 ช่วงเวลา
//.......................
//.......................