ค้านสร้าง ‘อนุสาวรีย์ ร.7’ หน้ารัฐสภาแห่งใหม่ ชี้ องค์เดิมเหมาะสมกว่า
ค้านสร้าง ‘อนุสาวรีย์ ร.7’ หน้ารัฐสภาแห่งใหม่ ชี้ องค์เดิมเหมาะสมกว่า
“เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ค้านสร้าง “อนุสาวรีย์ ร.7” องค์ใหม่แทนองค์เดิม เพื่อประดิษฐานหน้ารัฐสภาแห่งใหม่ ยก 3 เหตุผลประกอบ องค์เดิมงามสง่าสมศักดิ์ศรีของรัฐสภาสถาน สมควรอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ บริเวณหน้ารัฐสภาแห่งใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันอังคารที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ได้ขอปรึกษาหารือต่อประธานในที่ประชุม โดยระบุว่า ประเด็นที่หารือ อาจดูเป็นประเด็นเล็ก ๆ แต่ถือเป็นเรื่องสำคัญและละเอียดอ่อนที่ไม่ควรมองข้าม นั่นคือเรื่องการประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์หน้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่
นายเนาวรัตน์ กล่าวว่า ได้ทราบข่าวเรื่องการประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ณ บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาแห่งนี้ แต่ประเด็นปัญหาคือ ทราบว่า จะมีการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์องค์ใหม่ โดยขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นถึง 4 เท่าพระองค์จริง ขณะที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระองค์เดิม ซึ่งเคยประดิษฐานอยู่หน้ารัฐสภาเก่า มีขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง ซึ่งดูงามสง่าสมศักดิ์ศรีของรัฐสภาสถาน
“ผมและเพื่อน ๆ ศิลปิน ไม่เห็นด้วยกับการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์องค์ใหม่ ที่ขยายสัดส่วนใหญ่ใหญ่ขึ้นถึง 4 เท่า และเห็นพ้องต้องกันว่า สมควรอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระองค์เดิม ที่เป็นองค์ปฐมต้นแบบมาประดิษฐาน ณ บริเวณหน้ารัฐสภาแห่งใหม่”
นายเนาวรัตน์ ได้อธิบายเหตุผลประกอบ 3 ประการ คือ 1.ขนาดสัดส่วนของพระบรมราชานุสาวรีย์องค์เดิม มีลักษณะสัมพันธ์ทางทัศนวิสัย ที่เป็นองค์รวมของความเป็นรัฐสภา คือขนาดของพระบรมรูป ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับประชาชน มากกว่าการขนาดขยายใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกเกรงขาม และห่างเหินกับประชาชน
2.พระบรมราชานุสาวรีย์องค์เดิม อันเป็นองค์ปฐมต้นแบบนั้น ถือเป็นดั่งองค์เอกอัครสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงบำเพ็ญจาคะธรรมอันยิ่ง คือ ทรงสละพระราชอำนาจเพื่อร่วมสถาปนาอำนาจใหม่ คือ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยพระบรมราชานุสาวรีย์นี้ กำเนิดจากความร่วมมือของภาครัฐ ภาคประชาชน และสมาชิกรัฐสภา สมชื่อราชประชาสมาสัย
“ด้วยจาคะธรรมอันยิ่งอย่างหาที่สุดมิได้นี้ สมควรเทิดพระองค์ท่านเป็นธรรมราชา โดยมีพระบรมรูปอันเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์องค์ปฐมต้นแบบนี้ ถือเป็นดั่งองค์เอกอัครสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ สมควรสถิตเสถียรเป็นศรีสง่าไว้หน้ารัฐสภาสถานสืบไป หาควรมีองค์จำลองขึ้นมาแทนที่ไม่”
3.เพื่อยืนยันถึงการพิทักษ์สืบทอดและธำรงไว้ ซึ่งกตเวทิตาธรรม ที่รัฐสภาพึงมีต่อบรรพบุรุษ เฉกเช่นหลักการพื้นฐานสำคัญที่รัฐธรรมนูญพึงมีในทุกฉบับ เช่นเดียวกับที่พระบรมราชานุสาวรีย์องค์ปฐมต้นแบบ ซึ่งจะสถิตธำรงอยู่หน้าอาคารรัฐสภาเป็นศรีสง่าสืบไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนท้าย นายเนาวรัตน์ ได้ขอนุญาตประธานในที่ประชุม อ่านบทกวีสั้น ๆ เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธันวาคม โดยขอถวายคารวะวันสำคัญนี้ ด้วยบทกวีชื่อ “จาคะธรรมราชา”
“องค์เอกอัครสัญลักษณ์
พระทรงศักดิ์และทรงสิทธิ์
จาคะธรรมสัมฤทธิ์
ประชาธิปไตยไทย
องค์ปฐมบรมรูป
ราชประชาสมาสัย
ธำรงธรรมาธิปไตย
สถิตประทับ ณ รัฐสภา”
//........................