“จเด็จ-เกริกศิษฏ์” คว้า “รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง” MERLA 2020

คณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ปี 2563 (Mekong River Literature Award 2020) หรือ MERLA 2020 ประกาศยกย่อง “จเด็จ กำจรเดช” และ “เกริกศิษฏ์ พละมาตร์” หรือนามปากกา “พลัง เพียงพิรุฬห์” รับรางวัลปี 2563 ประเภทร้อยแก้วและร้อยกรอง

          นางกนกวลี กันไทยราษฎร์ พจนปกรณ์ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ปี 2563 (Mekong River Literature Award 2020 (MERLA 2020)) ได้พิจารณาตัดสิน และมีมติให้นักเขียนจำนวน 2 คนได้รับรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ปี 2563 ได้แก่ นายจเด็จ กำจรเดช รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ประเภทร้อยแก้ว และนายเกริกศิษฏ์ พละมาตร์ เจ้าของนามปากกา พลัง เพียงพิรุฬห์ รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ประเภทร้อยกรอง

 

 

          ทั้งนี้ รางวัลวรรณกรรมนานาชาติลุ่มน้ำโขง หรือ แม่น้ำโขงอวอร์ด (Mekong River Literature Award : MERLA) เป็นรางวัลระดับนานาชาติสำหรับคนวรรณกรรมในประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง จัดขึ้นโดยกองทุนวรรณกรรมลุ่มน้ำโขง เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยมีประเทศต่างๆเข้าร่วมคือ เวียดนาม ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ จีน (ยูนนาน) และไทย

          ปัจจุบันรางวัลนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีและมิตรภาพทางวรรณกรรมในภูมิภาค ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของการแลกเปลี่ยนความร่วมมือ และการหารือระหว่างวัฒนธรรมต่างๆ ของสมาคมนักเขียนทุกประเทศในลุ่มน้ำโขง โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณามอบรางวัลให้แก่นักเขียนที่ผลิตผลงานสร้างสรรค์และทรงคุณค่าทางศิลปะ เป็นผลงานได้รับการเสนอแนะโดยประเทศสมาชิก และผลงานจะต้องให้เกียรติมนุษยชาติ รวมถึงให้ความสำคัญกับผลงานที่เขียนเกี่ยวกับประเทศและประชาชนของประเทศสมาชิกในลำดับต้น นอกจากนั้นนักเขียนจะต้องมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความเข้าใจ ศรัทธา เชื่อมโยงวัฒนธรรมชุมชนกับโลก ไม่ขัดแย้งกับกระแสการสร้างสันติสุข ความร่วมมือ มิตรภาพ และการพัฒนาไปร่วมกัน

 

 

          นายจเด็จ กำจรเดช รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ประเภทร้อยแก้ว

          มีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของคนเราที่ถูกสะท้อนออกมาจากห้วงลึกภายใน…ผ่านวิถีแห่งจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายต่อสัญชาตญาณของการรับรู้เสมอ…ประสบการณ์แห่งชีวิตอันหลากหลายที่ก้าวย่างไปบนเจตจำนงอันพิสุทธิ์พิศาลของการกระทำ…เป็นส่วนสำคัญในการรังสรรค์ผลงานแห่งประพันธกรรมของ”จเด็จ กำจรเดช” ในทุกรูปลักษณ์ ให้ดำรงอยู่ในคุณค่าที่สมบูรณ์..เปี่ยมล้นไปด้วยการสืบค้นในหลากหลายทัศนะแห่งมุมมองที่ทั้งเปิดกว้างและเร้นลึก…เป็นศาสตร์และศิลป์แห่งการเรียนรู้ในเชิงตระหนักที่จักต้องเผชิญหน้าต่อกันและกันด้วยภาษาแห่งการก้าวแล่นที่ถูกกลั่นออกมาจากหัวใจ

          ในพื้นที่ชีวิตที่เปิดกว้าง  “…ในพื้นที่แห่งหัวใจที่ซาบซับบทเรียนนานา…” ทำให้ความเป็นนักเขียนของ    จเด็จ เป็นประหนึ่งตัวแทนแห่งเขตแดนของการแสวงหาวิถีแห่งสัจจะ “…มันไม่เคยหยุดยั้ง…มันไม่เคยทรยศต่อตัวเองและโลก”…แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น…กลับดำรงอยู่ดั่งอนุสรณ์สถานแห่งปัญญาญาณที่ไร้เขตแดน…เป็นนิยามที่อยู่เหนือความหมายใดๆ ในความเป็นสามัญ…นิรันดร์

          “หากหยั่งรู้ในโลกกว้าง…และสามารถก้าวข้ามผ่านมวลแห่งอุปสรรคของชีวิตไปได้….ใจของผู้ดำรงอยู่จะสรรสร้างภาพวาดแห่งความจริงแท้ออกมาได้อย่างเจิดกระจ่าง…และนั่นคือโยงใยแห่งความหมายของธรรมที่สั่นสะท้าน…โลกียสุขเสมอ”*

          คณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง จึงเห็นสมควรมอบรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ประจำปี 2563 แด่ นายจเด็จ กำจรเดช

 

 

 

          นายเกริกศิษฏ์ พละมาตร์ เจ้าของนามปากกา พลัง เพียงพิรุฬห์ รางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ประเภทร้อยกรอง

          มโนทัศน์…ในการมองเห็นและสื่อสารกับชีวิตของโลกกว้าง ถือเป็นต้นรากสำคัญแห่งการแสวงหาอารมณ์ร่วมต่อสรรพสิ่ง ด้วยสายตาแห่งจิตใจอันละเมียดละไม…ด้วยโครงสร้างที่สั่นไหวของผัสสะอันลึกซึ้ง…และด้วยความกล้าแกร่งแห่งจิตวิญญาณในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูทางความรู้สึก…เหล่านี้คือปฐมบทแห่งชีวิตของกวีนิพนธ์ที่ถูกปลูกสร้างขึ้นโดย”พลัง เพียงพิรุฬห์…ผ่านประสบการณ์ และ จินตนาการณ์อย่างใคร่ครวญ…สื่อสะท้อนถึงสิ่งที่สังเกตเห็นภายนอก…และการหยั่งรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกแห่งสำนึกคิดภายใน…ด้วยท่วงท่าแห่ง

          ความประจักษ์แจ้ง…รับรู้ในรู้สึกเคลือบแคลงในเคลือบแคลง กระทั่งหยั่งเห็นถึงสัญญาณแห่งข้อสรุปสุดท้ายของชีวิต…วิถีเดินทางแห่งกวีนิพนธ์ของ”พลัง เพียงพิรุฬห์”จึงมีขอบเขตกว้างไกล ผ่านแผ่นฟ้า แผ่นดิน…กระทั่งเป็นการเดินทางแสนไกลสู่โลกภายในอันดิ่งลึกและสลับซับซ้อน

          เหตุนี้… สัมผัสแห่งกวีนิพนธ์ของพลัง…จึงเป็นดั่งคีตญาณของคัมภีร์ที่เหนี่ยวรั้งจิตใจเอาไว้ในแง่งาม…และเปรียบเสมือนบทเพลงอันโศกสลดที่ใช้โบยตีอคติทางปัญญา…ขึ้นอยู่กับว่าในการสัมผัสรู้นั้นๆ ผู้สัมผัสจะเข้าใจโลกแห่งความหมายของชีวิตในนามแห่งตัวตนมากน้อยเพียงไหน…ก็เพียงนั้น*

          “หากแม้นชีวิตขาดก้าวย่างสู่นิวาสถานแห่งกวีนิพนธ์…ดวงตาของจิตใจก็จะมืดบอด…และการรับรู้ใดๆ ก็จะขาดภาษาสื่อสารลงอย่างเงียบงัน…และไร้ท่าทีของความสงบงาม”

          คณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง จึงเห็นสมควรมอบรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ประจำปี 2563 แด่ นายเกริกศิษฏ์ พละมาตร์ เจ้าของนามปากกา พลัง เพียงพิรุฬห์

 

 

          ทั้งนี้ คณะกรรมการรอบตัดสินรางวัลวรรณกรรมแม่น้ำโขง ปี 2563 ของประเทศไทย ได้แก่

          1. รองศาสตราจารย์ ดร. คุณหญิงวินิตา ดิถียนต์ ศิลปินแห่งชาติ

          2. นางชมัยภร บางคมบาง ศิลปินแห่งชาติ

          3. นางกนกวลี กันไทยราษฎร์

          4. นายธาดา เกิดมงคล

          5. นายสกุล บุณยทัต

 

CR : https://thaiwriter.club