5 ทีม “โอทอปรุ่นเยาว์” สุดเจ๋ง คว้าแชมป์ OTOP Junior Contest 2019

 

ทีมโอทอปเยาวชน จาก 5 จังหวัด คว้ารางวัลชนะเลิศ จากผู้เข้าประกวดทั่วประเทศ ในพิธีประกาศผลและมอบรางวัล OTOP Junior Contest 2019 ภายในงาน OTOP City 2019 ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ก้าวแรกสู่การเป็นผู้ประกอบการโอทอปรุ่นเยาว์

 

 

          นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ สมาชิกวุฒิสภา และประธานที่ปรึกษามูลนิธิสถาบันพัฒนาวิสากิจเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวด OTOP Junior Contest 2019 โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมเป็นเกียรติและมอบรางวัล พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางรชตพร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ สื่อมวลชนและสักขีพยานจากหลายหน่วยงาน ภายในงาน OTOP City 2019 ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

 

 

 

          นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ สมาชิกวุฒิสภา และประธานที่ปรึกษามูลนิธิสถาบันพัฒนาวิสากิจเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประกวดในครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ (E3) คณะทำงานด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ (E5) โดยจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและสร้างเสริมวิชาชีพให้กับเยาวชนในโรงเรียน เป็นการค้นหาผู้ประกอบการโอทอปรุ่นเยาว์ ที่สามารถประยุกต์วิชาการมาริเริ่มการค้าขาย เน้นการทำงานเป็นทีมและการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ผู้ประกอบการ และคนในชุมชน ในการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ คุณภาพ มาตรฐาน ของผลิตภัณฑ์ OTOP ทั้ง 5 ประเภท ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ของตกแต่งของที่ระลึก และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร รวมทั้งต้องใช้วัตถุดิบหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น และประเด็นสำคัญคือ ต้องสามารถเชื่อมโยงช่องทางการตลาดเข้าสู่โรงเรียน เพื่อให้มีแนวทางในการพัฒนาอาชีพและรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว

 

 

          ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของโครงการเป็นกลุ่ม/ชมรมของโรงเรียนระดับประถมศึกษา (ป.4 – ป.6) หรือชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 – ม.3) โดยในปีนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมการประกวดทั้งสิ้น 167 โรงเรียน 172 กลุ่ม/ชมรม จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยการประกวดผลงานระดับประเทศรอบแรก และได้คัดเลือกผลงานทั้งหมดให้เหลือ 20 กลุ่ม/ชมรม เพื่อเข้าร่วมประกวดระดับประเทศรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา

 

 

          ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม เพราะช่วยให้น้องๆ อนาคตของชาติมีความเข็มแข็งในการปลูกฝั่งและพัฒนาสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถดูแลตนเองและครอบครัวในอนาคต สิ่งหนึ่งที่ได้เห็นคือใบหน้าเปื้อนยิ้มและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ 

          “ผมมั่นใจว่าทุกคนทุกโรงเรียนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ชนะในหัวใจของกรรมการทุกคน ขอชื่นชมและขอแสดงความยินดีกับน้องๆ ทุกคน ที่ส่งผลงานทั้ง 5 ประเภท อยากเห็นความยั่งยืน เราจะชนะได้ต่อเมื่อเราไม่หยุดยั้งในการศึกษาหาความรู้ ในการคิดค้นและต่อยอด ถ้าเราไม่หยุดยั้งการพัฒนาตัวเอง มั่นใจและเชื่อมั่นว่าน้องๆ จะประสบผลสำเร็จในชีวิต และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดและอำเภอได้ต่อไป” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวย้ำอย่างมั่นใจ

 

 

          ทั้งนี้ ผลการประกวด OTOP Junior Contest 2019 พร้อมรางวัลพิเศษ มีผู้ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 26 รางวัล โดย รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และประกาศนียบัตรรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และประกาศนียบัตรรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และประกาศนียบัตรรางวัลชมเชย ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร 

          ผลการประกวดประเภทอาหาร ชนะเลิศ ได้แก่ ชมรมแปรรูปตะไคร้ คุณค่าอยู่ใกล้ตัว โรงเรียนบ้านคลองเรียงงาม จังหวัดอุตรดิตถ์รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ชมรมข้าวหมากรสสวรรค์ โรงเรียนดงสวรรค์วิทยา จังหวัดหนองบัวลำภูรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ กลุ่มกิจกรรมอาหารไทยสร้างอาชีพ โรงเรียนห้วยน้ำนักวิทยา จังหวัดตาก และชมเชย ได้แก่ ชมรมบางจานอาหารพื้นบ้าน โรงเรียนบางจานวิทยา จังหวัดเพชรบุรี 

 

 

          ผลการประกวดประเภทเครื่องดื่ม ชนะเลิศ ได้แก่ โครงการทำมาค้าขาย (กาแฟ) โรงเรียนบ้านมูเซอ จังหวัดตาก รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ชมรมทำมาค้าขาย โรงเรียนอนุบาลแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ชมรมรักษ์ใบฟักข้าว โรงเรียนบ้านหนองไหล (พุธเพิ่มวัฒนราษฎร์) จังหวัดอุบลราชธานี และชมเชย ได้แก่ ชมรมสมุนไพร PKC โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ 

 

 

          ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ชนะเลิศ ได้แก่ ชุมนุมหัตถกรรมไทพวนบ้านเชียง โรงเรียนบ้านเชียง (ประชาเชียงชิด) จังหวัดอุดรธานีรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ชุมนุมอนุรักษ์หัตถกรรมจักสานไม้ไผ่รมควัน โรงเรียนเหมืองแบ่งวิทยา จังหวัดเลย รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ กลุ่มนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ โรงเรียนชุมชนวัดจงโกมิตรภาพที่ 157 จังหวัดลพบุรี และชมเชย ได้แก่ กลุ่มทอรักษ์ โรงเรียนดงดาวแจ้งพัฒนศึกษา จังหวัดนครพนม

 

 

          ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก ชนะเลิศ ได้แก่ กลุ่มไทลื้อคิดส์ โรงเรียนริมโขงวิทยา จังหวัดเชียงรายรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ชมรมต้นกล้าโกสัมพีวิทยา โรงเรียนโกสัมพีวิทยา จังหวัดกำแพงเพชรรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ กลุ่มตาโขนรักษ์โลก โรงเรียนศรีสองรักษ์วิทยา จังหวัดเลย และชมเชย ได้แก่ ภูมิพัฒน์ กลุ่มผ้าครามด้นมือ โรงเรียนสกลนครพัฒนศึกษาจังหวัดสกลนคร

 

 

          ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร ได้แก่ ชุมนุมหม่อนไหม สายใยเปือยหัวดง โรงเรียนอนุบาลลืออำนาจ (ชุมชนเปือยหัวดง) จังหวัดอำนาจเจริญรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ชมรมแก้วเก้าเซียน โรงเรียนวัดดอนทรายแก้ว จังหวัดชุมพรรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ชมรม OSOP หนึ่งโรงเรียนหนึ่งผลิตภัณฑ์ โรงเรียนบ้านสระมาลา จังหวัดปัตตานี และชมเชย ได้แก่ กลุ่มส่งเสริมอาชีพนักเรียนโรงเรียนเทศบาล2 วัดโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา

 


 

          นอกจากนั้นแล้วยังมีรางวัลพิเศษสำหรับโอทอปจูเนียร์ปีที่ 1 - 2 ที่ยังคงผลิตและจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง คือ รางวัลความยั่งยืน สู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ OTOP Junior 2017 จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ ชมรมเรารักขนมไทย โรงเรียนวัดกระทุ่ม (โสมประชาสรรค์) จังหวัดฉะเชิงเทรา  ชุมนุมนักธุรกิจน้อย โรงเรียนบ้านเมืองกาญจน์ จังหวัดเชียงรายและชมรมจักรสานไม้ไผ่ โรงเรียนพังทุยพัฒนศึกษา จังหวัดขอนแก่น ส่วนรางวัลความยั่งยืน สู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ OTOP Junior 2018 จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ชมรมกลุ่มไส้เดือนตัวน้อย โรงเรียนท่าแร่ศึกษา จังหวัดสกลนครชมรมกลุ่มทอผ้า โรงเรียนหนองขาวโกวิทพิทยาคม จังหวัดกาญจนบุรีและชมรมแปรรูปอาหารจากเสาวรสและฟักข้าว โรงเรียนหนองไหล จังหวัดอุบลราชธานี