พช. ผนึกกำลัง สภาสตรีฯ ผวจ.หนองบัวลำภู ร่วมใจใส่ผ้าไทย เสริมแกร่งชุมชน

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน  ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ โครงการ สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จฯ พระพันปีหลวง หนุนสร้างรายได้ เสริมแกร่งเศรษฐกิจชุมชน

 

          นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์และประธานแม่บ้านกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยนางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร สภาสตรีฯ นายสมเจตน์ จงศุภวิศาลกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นายจารุวัฒน์ ศรีชุย ประธานคณะกรรมการบริษัทประชารัฐรักสามัคคี นางศรัณยา สุวรรณพรหม ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู และ นางพรรณี จันทะศรี ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ โครงการ สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ณ โรงแรมณัฐพงศ์แกรนด์ จังหวัดหนองบัวลำภู

 

 

          นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า นามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ในการสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง โดยการอนุรักษ์ ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทย อันเป็นศิลปะ และภูมิปัญญาอันล้ำค่า ในดำรงอยู่คู่ชาติไทยและให้เป็นความชื่นชมของชาวโลก อีกทั้งเพื่อเผยแพร่และรณรงค์ให้ ประชาชนทุกเพศ ทุกวัยใส่ผ้าไทย ทุกวัน ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการรณรงค์การใส่ผ้าไทย เพื่อสืบสานพระราชเสาวณีย์ของสมเด็จพระพันปีหลวง ที่ได้ทรงมีพระวิริยะ อุตสาหะในนำผ้าไหม ผ้าฝ้าย ในทุกวันเพื่อเป็นการรักษา สืบสาน และต่อยอดภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น

 

          “ผ้าทอไทยทุกผืน เสมือนได้ว่าเกิดจากการถักทอ ด้วยลมหายใจของผู้หญิง รายได้ที่เกิดจากการขายผ้า ก็นำมาส่งเสียบุตรหลานให้ได้รับการศึกษา ยกระดับคุณภาพชีวิต นอกจากนี้ยังสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจครัวเรือน ในจังหวัดหนองบัวลำภูมีคนที่สามารถทอผ้าได้เป็นจำนวนนับหมื่นคน ดังนั้นถ้าทุกคนได้ร่วมมือร่วมใจกันใส่ผ้าไทย แต่ละคนจะได้ซื้อผ้าไทย อย่างน้อย 10 เมตร หากว่ามีคนหนองบัวลำภูใช้ผ้าไทย 2 แสนคน ก็จะเกิดความต้องการผ้าถึง 2 ล้านเมตร เป็นการสร้างตลาด สร้างความต้องการ เพื่อต่อไปลูกหลานเราจะได้หันมาทอผ้าเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังเป็นการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นไปยังลูกหลานเราเพื่อรักษาเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยให้ไม่ขาดสาย” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว

 

 

          ขณะที่ ดร.วันดี กล่าวเพิ่มเติมว่า สภาสตรีฯ ตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญาผ้าไทย จึงจัดทำโครงการอนุรักษ์ รณรงค์การสวมใส่ผ้าไทยในทุกๆวันกับกรมการพัฒนาชุมชนและขยายผลไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นการใส่ผ้าไทยในทุกพื้นที่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจครัวเรือนและชุมชน อันจะนำมาซึ่งความสามารถในการพึ่งตนเองและเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

 

 

          ด้าน นายสมเจตน์ กล่าวว่า จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจังหวัดแห่งการทอผ้าสวยงาม สีของจังหวัดเป็นสีชมพู  มีความยินดีที่จะร่วมมือรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทยทุกวันกับสภาสตรีฯและกรมการพัฒนาชุมชน และรู้สึกซาบซึ้งว่า การใช้ผ้าไทย ก่อให้เกิดห่วงโซ่ของกระบวนการผลิต การสร้างงาน และจำนำประโยชน์กลับมายังครัวเรือนและชุมชนอย่างยั่งยืนหากคนไทยทั่วประเทศเพียง 35 ล้านคน ร่วมใจกันใส่ผ้าไทย ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย ผ้าไหม ทุกวันก็อาจโดยประมาณเฉลี่ย คนละ 10 เมตรๆ ละ 300 บาท จะเกิดรายได้กลับไปครัวเรือน/ชุมชนทอผ้าถึง 10,000 ล้านบาท

 

 

          “ผ้าไทยทุกผืน นับได้ว่าเกิดจากลมหายใจของสตรีผู้ทอผ้า กรณีผ้าไหมซึ่งต้องมีกระบวนการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวไหม ย้อมไหม คิดลายผ้าจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ผ้าทุกผืนมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง กรณีเป็นผ้าฝ้าย ต้องมีกระบวนการปลูกต้นฝ้าย เก็บดอกฝ้าย ปั่นให้เป็นเส้น ย้อมสีจากธรรมชาติ ทอผ้าให้เป็นลวดลายตามภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างดงาม” ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าว