10 พ.ย. นี้ สสส. จับมือ สมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งฯ จัดงาน “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019”

สสส.-สมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งฯ จัดงาน"ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019" ครั้งที่ 8 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 10 พฤศจิกายน 2562 ณ สวนหลวงพระราม 8 ชวนเริ่มต้นดีชีวิตดี กระตุ้น “นักวิ่งหน้าใหม่” เป็นนักวิ่งคุณภาพ รู้จักเตรียมพร้อม วิ่งดี-กินเป็น

 

           ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. เป็นประธานแถลงข่าว"ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019" (Thaihealth Day Run 2019) ครั้งที่ 8และในวาระครบรอบ 18 ปี สสส. ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 

 

 

           ดร.สุปรีดา กล่าวว่าประเทศไทยมีส่วนสำคัญในการผลักดันร่างแผนปฏิบัติการโลกเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกาย หรือ ร่างข้อมติ WHA71.6 WHO global action plan on physical activity (ฺGAPPA) 2018-2030 (GAPPA) ที่ผ่านการรับรองโดยที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลกในเดือนพฤษภาคมปี2561และผ่านการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์การอนามัยโลก สมัยที่ 142 ในเดือนมกราคมปี 2561 ซึ่งสสส.สนับสนุนบุคลากรไปร่วมพัฒนาแผนปฏิบัติการนี้ที่องค์การอนามัยโลก และร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ผลักดันจนเกิดเป็นแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายชาติ พ.ศ.2561-2573 ฉบับที่ 1มีเป้าหมายให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงด้วยกิจกรรมทางกาย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์ คือ 1. การส่งเสริมกิจกรรมทางกายประชาชนทุกกลุ่มวัย 2. การส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย และ 3. การพัฒนาระบบสนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย หากคนไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้ถึง 11,129 รายต่อปี และลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลได้ถึง 5,977 ล้านบาท 

           “ปีนี้สสส.ขอชวนคนไทยตั้งเป้าหมายให้ตัวเองมีสุขภาวะดีสุขภาพแข็งแรง ด้วยการวิ่งเพื่อสุขภาพ ภายใต้แนวคิด “ชีวิตดีเริ่มที่เรา (LIVE HEALTHIER)” เป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองสู่สุขภาพที่ดีกิจกรรมไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019 ช่วยสร้างนักวิ่งหน้าใหม่เป็นจำนวนมากจึงคาดหวังอย่างยิ่งว่า นักวิ่งหน้าใหม่จะวิ่งเพื่อสุขภาพ มีคุณภาพ และมีกิจกรรมทางกายที่เป็นวิถีชีวิต” ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว

 

 

           ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวเพิ่มเติมว่า สสส. ส่งเสริมให้คนไทยในแต่ละกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ซึ่งผลการสำรวจกิจกรรมทางกายประชากรไทย พ.ศ. 2562 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ปัจจุบันประชากรไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพออยู่ร้อยละ 74.6 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงปีที่ผ่านมา ปัจจุบันการวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการมีกิจกรรมทางกายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากผลการสำรวจพบว่าปัจจุบันคนไทยกว่า 16 ล้านคนออกกำลังกายด้วยการวิ่งเพื่อสุขภาพ มีผู้มาร่วมงานวิ่งต่างๆ ราว 10%แต่ก็ยังเป็นเพียงการเพิ่มขึ้นในเชิงปริมาณเท่านั้น ดังนั้นสสส.จึงให้ความสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการจัดงานวิ่งที่มีมาตรฐานขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้นักวิ่งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิ่งที่ปลอดภัยมีการเตรียมพร้อมก่อนวิ่งศึกษาและเคารพกฎกติกามารยาทการวิ่งรวมถึงเข้าใจหลักการกินที่ถูกต้องทั้งก่อนและหลังวิ่ง

 

 

           “เป้าหมายของงานวิ่งนี้คือการสร้างนักวิ่งหน้าใหม่เพิ่มขึ้น ผ่านการให้ข้อมูลและความรู้ในการเตรียมตัววิ่งอย่างถูกต้อง ซึ่ง สสส. ร่วมกับสมาพันธ์ฯ จัดทำคู่มือมาตรฐานงานวิ่งเพื่อสุขภาพเป็นไกด์ไลน์สำหรับผู้จัดงานวิ่ง โดยยึดหลัก ‘safe, fun, fair’ เน้นความปลอดภัย การจัดทีมแพทย์ดูแลกรณีฉุกเฉิน มีบรรยากาศที่สนุกสนาน และราคาเข้าร่วมงานไม่แพงจนเกินไป รวมถึงคู่มือเตรียมความพร้อม 10 สัปดาห์...วิ่ง... สู่ชีวิตใหม่ และคู่มือวิ่งดีได้ต้องกินเป็นด้วย ซึ่งจะส่งเสริมให้นักวิ่งหน้าใหม่เป็นนักวิ่งที่มีคุณภาพ” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

 

 

           ด้าน นายประสาร จิรชัยสกุลประธานมูลนิธิสมาพันธ์และสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย กล่าวว่าการจัดงาน Thaihealth Day Run 2019 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีถือเป็นงานวิ่งต้นแบบกิจกรรมงานวิ่งเพื่อสุขภาพ ที่นำมาตรฐาน Safe-Fair-Fun มาใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพให้เป็นไปตามมาตราฐานสากลที่เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ สำหรับรายละเอียดกิจกรรมภายในงานมีการแข่งขัน 3 ระยะทางคือ 10 กม. 5 กม. และ 3กม. ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะได้รับเสื้อที่ระลึก เหรียญเมื่อเข้าสู่เส้นชัย นอกจากนี้ ยังมีหมวกที่ระลึกสำหรับผู้เข้าถึงเส้นชัย100 คนแรก งานจัดขึ้นในวันอาทิตย์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ณ สวนหลวงพระราม 8