5 นาทีในมือ 50 ปี(ขยะ)ในทะเล วอน งด ‘กระทงโฟม-ลอยกระทง’

5 นาทีในมือ 50 ปี(ขยะ)ในทะเล วอน งด กระทงโฟม-ลอยกระทง

 

เผย ปี 61 เฉพาะ “กทม.” เก็บกระทงโฟมมากกว่า 4 หมื่นใบ ระบุ แม้กำจัดโดยการฝังกลบ ก็ยังเป็น “ภูเขาขยะ” รอเวลาลงทะเล “ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” ชี้ 5 นาทีในมือ 50 ปี (ขยะ) ในทะเล วอน งดใช้ ลดผลกระทบย้อนกลับสู่มนุษย์

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเพณี “ลอยกระทง” ใกล้เข้ามาแล้ว โดยในปีนี้ ตรงกับวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.2562 ซึ่งในทุกปีจะมีการรณรรงค์เพื่อรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการเชิญชวนให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และลดการใช้วัสดุจากโฟม พลาสติก และ ฯลฯ ที่จะทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

 

        “ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพประกอบ ผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว “Thon Thamrongnawasawat” โดยมีเนื้อหา ดังนี้

 

“ลอย ๆ กระทง อยากจะลอยหรือไม่ลอยก็ตามใจเถิด แต่ถ้าเป็นกระทงโฟม นี่คือผลที่จะเกิดขึ้นครับ #5นาทีในมือ #50ปีในทะเล

               

อ๊ะ ๆ อย่าคิดว่า ยุคนี้ใครเค้าลอยกระทงโฟมกันจ๊ะ ? ในปี 2561 กรุงเทพมหานครเก็บกระทงโฟมได้ 44,883 ใบ

 

นั่นเฉพาะที่เก็บได้ในกทม.นะครับ มีอีกเพียบเลยที่เก็บไม่ได้ และมีอีกเพียบๆๆ จากทุกจังหวัดทั่วไทย ที่จะไหลลงไปในทะเล

 

ฉันลอยในที่ปิด แฮ่ม ! ต่อให้เก็บกระทงโฟมไปกำจัดโดยวิธีกลบฝัง แต่ส่วนใหญ่ก็กลายเป็นภูเขาขยะ รอเวลาลงทะเล

 

โฟมแตกตัวเป็นเม็ดโฟม ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ต่อสรรพสัตว์ ย้อนกลับมาถึงมนุษย์

 

เม็ดโฟมเล็กจิ๋ว เก็บแสนลำบาก ในภาพคือเม็ดโฟมเต็มหาดแห่งหนึ่งในอันดามัน มีมากจนมองแทบไม่เห็นเม็ดทราย

 

จะให้คนใจดีมาช่วยเก็บทีละเม็ด คงเป็นไปไม่ได้ เม็ดโฟมจะอยู่คู่ทะเลไทยไปอีก 50 ปี

 

เด็กน้อยที่ลอยกระทงโฟมในวันนี้ โตขึ้นมาทำงานยันเกษียณ เม็ดโฟมจากกระทงของเด็กน้อยก็ยังอยู่คอยทำร้ายเด็กน้อย

 

แน่นอนว่าเม็ดโฟมพวกนี้เกิดได้จากสาเหตุอื่นอีกนานัปการ แต่ทำไมเราต้องเพิ่มให้มันมากกว่านี้ อีกหลายล้าน อีกหลายสิบล้านเม็ดในชั่วค่ำคืน

 

สถิติมีไว้ทำลาย คนรักทะเลทั้งหลาย มาช่วยกันทำลายสถิติเถิด

 

ทำลายให้แหลก ลดกระทงโฟมให้เหลือน้อยกว่าเดิมเกินครึ่ง หรือสักค่อนหนึ่งเป็นไปได้ไหม ?

 

อย่าให้สิ่งที่เราหมายมั่นว่าจะขออภัยแม่คงคา กลายเป็นสิ่งที่ทำร้ายเจ้าพระยาและมหานทีทะเลไทย ไปจนชั่วลูกหลานครับ”

 

 

//........................

          CR : Facebook Thon Thamrongnawasawat

//........................