ข่าวดี! ช่วยโลมาติดลอบปู คืนทะเลสงขลาสำเร็จ

 

ทช. แจ้งข่าวดี ช่วยโลมาติดลอบปูคืนทะเลสงขลาสำเร็จ พร้อมแจ้งผลชันสูตรซากโลมาหัวบาตรหลังเรียบที่เกาะช้าง รวมทั้งระบุคราบสีดำที่หาดพยูน จ.ระยองไม่ใช่คราบน้ำมัน

 

 

 

          เฟซบุ๊กแฟนเพจของ “กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง” เผยแพร่ภาพและข้อความเกี่ยวกับการช่วยเหลือโลมาที่ติดลอบปูคืนสู่ทะเลสงขลาสำเร็จ โดยระบุว่า

 

          "เฮ!!! เครือข่าย แจ้ง ทช. ช่วยโลมาติดลอบปูคืนทะเลสงขลาสำเร็จ"

 

 

          วันที่ 11 กันยายน 2562 กรม ทช. โดยศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยตอนล่าง รับแจ้งจากคุณสานันท์ ปิกดำ ว่ามีโลมา มีชีวิตติดเครื่องมือประมง อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กม. ในเขตพื้นที่ ต.ปากแตระ อ.ระโนด จ.สงขลา จึงรีบลงพื้นที่

 

 

          ผลการตรวจสอบพบเป็นโลมาหลังโหนก วัยเจริญพันธุ์ มีลอบปูม้าพันติดอยู่ ประมาณ 6-7 อัน เมื่อไปถึงพบว่าโลมามีอาการอ่อนแรง แต่ยังสามารถว่ายน้ำและพยุงตัวได้ จึงตัดสินใจเข้าล้อมและจับโลมาไว้ เพื่อช่วยตัดเชือกลอบปูที่พันอยู่ออกอย่างเร่งด่วน

 

          ผลการประเมินสุขภาพและวินิจฉัยเบื้องต้นพบว่าโลมายังสามารถว่ายน้ำและแข็งแรงดี จึงลองปล่อยให้โลมาว่ายน้ำเอง ก็พบว่าสามารถว่ายน้ำออกไปจากเรือได้ จึงเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไป ก็ไม่พบเห็นโลมาลอยขึ้นมาอีก จึงคาดว่าโลมาสามารถว่ายน้ำกลับสู่ทะเลได้ตามปกติแล้ว

 

          นอกจากนั้นยังมีข้อมูลของ “ผลชันสูตรซากโลมาหัวบาตรหลังเรียบ ที่เกาะช้าง” ที่พบซากเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2562 จาก “กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง” เพิ่มเติมว่า

          ...ผลการชันสูตรโลมาหัวบาตรหลังเรียบ เพศเมีย ความยาว 177 ซม. ช่วงอายุวัยรุ่น สภาพซากเน่า พบบาดแผลเป็นหลุมหลายบริเวณ ส่วนใหญ่เป็นแผลที่เกิดขึ้นหลังตาย มีรอยแผลเป็นที่เกิดจากพฤติกรรมฝูง พบรอยลักษณะคล้ายรอยเชือกไนล่อนคาด (imprint) ตามผิวหนังด้านซ้าย 4 รอย เมื่อเปิดผ่าผิวหนังพบรอยช้ำขนาด 25 ตารางเซนติเมตรใต้รอยคาดเชือก

          นอกจากนี้ยังพบรอยช้ำขนาดใหญ่บริเวณคอและหัวด้านซ้าย และกะโหลกมีรอยแตก หักและบิ่น พบพยาธิตัวกลมจำนวนมากในช่องหู รวมทั้งถุงพยาธิในกระเพาะอาหารส่วนที่ 3 และลำไส้เล็ก พบปลา 1 ตัวในกระเพาะอาหารส่วนแรก ไม่พบแผลหลุมหรือการอักเสบ ปอดมีการอักเสบ โดยเฉพาะด้านล่างของปอด และพบก้อนหนองกระจายทั่วปอด คาดว่าโลมามีอาการป่วยมาระยะหนึ่ง และเสียชีวิตในที่สุด แต่ไม่สามารถสรุปที่มาของกะโหลกหัวที่แตกหักได้ จากนั้นได้เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ ผิวหนังและฟัน เพื่อนำไปศึกษาต่อไป

 

 

          ทั้งนี้ล่าสุด “กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง”  ยังได้แจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคราบสีดำบริเวณหาดพยูน จ.ระยองว่าไม่ใช่คราบน้ำมัน โดยมีรายละเอียดว่า

          ... กรม ทช. โดยศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยฝั่งตะวันออก รับแจ้งจากคุณรัตนเกียรติ ไทยานนท์ ประธานกลุ่มรักษ์ทะเลระยอง ว่าพบคราบผงสีดำคล้ายถ่านหินขึ้นเกยบริเวณหาดพยูน จ.ระยอง ผลการลงพื้นที่ทราบว่ามีคราบสีดำขึ้นเกยหาดพยูน ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน ๒๕๖๒ ที่ผ่านมาและเริ่มหายไปในวันที่ 10 กันยายน ส่วนผลการตรวจสอบเศษสีดำ พบมีลักษณะคล้ายตะกอนของเศษอินทรีย์สาร จากกิ่งไม้ใบไม้ที่เน่าและย่อยสลาย เมื่อมีคลื่นลมแรงกวนตะกอนด้านล่างขึ้นมาทำให้ชายหาดมีลักษณะสีดำ ไม่มีกลิ่น และไม่ใช่คราบน้ำมัน ปะปนอยู่ในทรายตามแนวชายหาด จากนั้นได้ตรวจวัดคุณภาพน้ำทะเล พบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 4 เพื่อการนันทนาการ (กรมควบคุมมลพิษ, 2560)

 

CR : Facebook กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง