อ่าน “เตือนใจ ดีเทศน์” เขียนถึง “บิลลี่” และ “ปู่คออี้”

 

“...บิลลี่ เป็นลูกของลูกชายของ “ปู่คออี้” ผู้นำจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยง บิลลี่พยายามจะสื่อสารเรื่องราวของชาวกะเหรี่ยงแห่งป่าแก่งกระจาน โดยหลายช่องทาง รวมทั้งผลิตสารคดี เพื่อให้สังคมเข้าใจว่า ปู่คออี้และลูกหลาน ชาวบางกลอยบน “ใจแผ่นดิน” จำนวน 30-40 ครอบครัว ถูกบังคับโดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้อพยพลงมาจากบ้านเดิม ด้วยการเผาบ้านและยุ้งฉาง แล้วอุ้มปู่ใส่ ฮ. ลงมาอยู่ที่บ้านโป่งลึก ซึ่งห่างจากไกลบ้านใจแผ่นดิน ซึ่งเป็นบ้านเกิด...”

 

 

           ส่วนหนึ่งของข้อความในเฟสบุ๊กของ “เตือนใจ ดีเทศน์” หลังจากที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้า กรณีการหายตัวไปของ “บิลลี่” หรือ “นายพอละจี รักจงเจริญ” แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย นับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 และต่อมามีการตรวจพบหลักฐานพื้นที่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน เป็นชิ้นส่วนกระดูก ถังน้ำมัน  เหล็กเส้น ถ่านไม้ และเศษฝาถังน้ำมัน ซึ่งผลหลังจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพิสูจน์พบว่า “วัตถุเป็นชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้ายของมนุษย์ ... ตรวจพบสารพันธุกรรมตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของนายพอละจี รักจงเจริญ” นำมาสู่ข้อสรุปว่า “บิลลี่”  เสียชีวิตแล้วนั้น

 

           ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562  “เตือนใจ ดีเทศน์” อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงราย นักพัฒนาสังคม และเพิ่งลาออกจากการเป็น “กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ” เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ในกรณีนี้พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของ “บิลลี่” ว่า …

 

           ข่าวที่ DSI พบหลักฐานกระดูกของ #บิลลี่ ผู้ถูกบังคับสูญหายเมื่อ 5 ปีก่อน ถูกเผาในถัง ทิ้งลงน้ำในเขตอุทยานแก่งกระจาน ทำให้สังคมมีความหวังว่าจะสาวไปถึงตัวผู้ทำผิดได้

 

           บิลลี่ เป็นลูกของลูกชายของ “ปู่คออี้” ผู้นำจิตวิญญาณของชาวกะเหรี่ยง บิลลี่พยายามจะสื่อสารเรื่องราวของชาวกะเหรี่ยงแห่งป่าแก่งกระจาน โดยหลายช่องทาง รวมทั้งผลิตสารคดี เพื่อให้สังคมเข้าใจว่า ปู่คออี้และลูกหลาน ชาวบางกลอยบน “ใจแผ่นดิน” จำนวน 30-40 ครอบครัว ถูกบังคับโดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้อพยพลงมาจากบ้านเดิม ด้วยการเผาบ้านและยุ้งฉาง แล้วอุ้มปู่ใส่ ฮ. ลงมาอยู่ที่บ้านโป่งลึก ซึ่งห่างจากไกลบ้านใจแผ่นดิน ซึ่งเป็นบ้านเกิด

 

 

           ปู่คออี้เคยพูดประโยคสะเทือนใจ ว่า น้ำนมหยดแรกของแม่ที่ปู่ได้ดูดกิน และก้าวแรกที่ปู่เดินคือที่บ้านใจแผ่นดิน ซึ่งปู่และเพื่อนบ้านมีพื้นที่ปลูกข้าวไร่ที่อุดมสมบูรณ์ ได้ปลูกไม้ยืนต้น คือทุเรียน หมาก มะขาม ฯลฯ เอาไว้กิน

 

           เป็นที่อยู่ที่ทำกินอันสงบสุขของปู่และลูกหลานผู้ใช้ชีวีตพอเพียง พึ่งพาธรรมชาติด้วยความเคารพในมิติทางจิตวิญญาณ

 

 

           ในรอบ 5 ปีนี้ ดิฉันได้ไปบ้านบางกลอยล่าง (โป่งลึก) ไปดูสภาพความเป็นอยู่และที่ทำกินของชาวบ้านที่ถูกอพยพลงมาในช่วงแรกๆ เห็นว่าพื้นที่ทำกินที่จัดให้ชาวบ้านเป็นที่ไม่เหมาะสม จึงเพาะปลูกไม่ได้ผล ข้าวและอาหารขาดแคลน ขาวบ้านหลายคนหน้าตาซูบซีด เครือข่ายกะเหรี่ยงจึงจัดผ้าผ่าระดมทุนหาข้าวและอาหารมาช่วยเป็นประจำ

 

           ทุกๆ ครั้งจะไปกราบคารวะ สนทนาเรียนรู้ภูมิปัญญาอันเปี่ยมด้วยธรรมะกับปู่

 

           ปู่พูดเสมอว่า อยากกลับไปอยู่ที่บ้านใจแผ่นดินการถูกอพยพลงมาที่บางกลอย ต้องมาพึ่งพา มาขอแบ่งพื้นที่ทำกินของคนที่เค้าอยู่เดิม อากาศก็ร้อน อยู่แล้วไม่สบาย

 

 

           ได้เยี่ยมภรรยาของบิลลี่ คือมือนอ กับลูกทั้ง 5 คน ผู้สูญเสียสามีและพ่อไปโดยไม่มีร่องรอยให้สืบค้นได้ มือนอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง ได้ปลูกฝังลูกทั้ง 5 คนให้อภัยต่อคนที่ทำร้ายพ่อลูก ให้กฎแห่งกรรมได้ทำหน้าที่ ลูกๆ จึงทำใจได้

 

           บิลลี่ได้ทำหน้าที่เป็นนักสื่อสารสังคม เพื่อปกป้องสิทธิของคนที่อยู่กับป่า ชี้ให้เห็นว่าชาวกะเหรี่ยงที่อยู่กับป่าได้ทำหน้าที่อนุรักษ์ป่า และใช้ประโยชน์จากป่าอย่างสมดุลและยั่งยืน

 

           ผืนป่าที่มีชาวกะเหรี่ยง หรือปกาเกอญอ ตั้งถิ่นฐานอยู่จึงมีความอุดมสมบูรณ์จนประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าได้ทั้งทางภาคเหนือและตะวันตก

 

           ขอให้สังคมช่วยกันเป็นกำลังใจให้ DSI และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบหาคนที่ทำร้ายบิลลี่มาลงโทษได้โดยเร็วค่ะ

 

ดูหนัง ของบิลลี่

 

 

 

           ทั้งนี้ “ปู่คออี้” หรือ “นายโคอิ มีมิ” อายุ 107 ปี ผู้อาวุโสนักต่อสู้แห่งป่าแก่งกระจาน ที่ชาวกะเหรี่ยงต่างให้ความเคารพนับถือ เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2561 เวลา 04.14 น. ที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จังหวัดเพชรบุรี

 

CR : Facebook Tuenjai Deetes