วธ. เชิญชมนิทรรศการเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ

 

         

          กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 15-30 สิงหาคม 2562  ณ ห้องนิทรรศการหมุนเวียน และหอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อเผยแพร่เกียรติคุณ ประวัติและผลงานของศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2561 ทั้ง 12 ท่าน ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนอย่างกว้างขวาง

 

          ทั้งนี้พิธีเปิดนิทรรศการเชิดชูเกียรติจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 14 สิงหาคม 2562 เวลา 17.00 น. โดยมี นายวิษณุ  เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และศิลปินแห่งชาติ ทั้ง 3 สาขาร่วมงาน  โดยภายในงานจะมีงานเลี้ยงแสดงความยินดีแก่ศิลปินแห่งชาติ รวมทั้งการแสดงและสัมภาษณ์ศิลปินแห่งชาติ ทั้ง 12 คน อาทิ การแสดงลิเกคณะวิโรจน์ หลานหอมหวน ชุด “เทิดไท้องค์ราชัน” / การสัมภาษณ์นายชิน ประสงค์ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) / การแสดงโนรา รำแม่ท่า คณะมโนราห์กั้น บันเทิงศิลป์ / การสัมภาษณ์นายปริญญา ตันติสุข สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) / การบรรเลงและขับร้องเพลงของคณะศิษย์ นางสุคนธ์ พรพิรุณ / คณะการแสดงโดย นายประภาส ชลศรานนท์ สาขาศิลปะการแสดง  และชมการนำเสนอผลงานด้านการแสดงของ นางเอก นันทนาคร (เพชรา เชาวราษฎร์) สาขาศิลปะการแสดง ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก กลุ่มประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม 02 247 0028 ต่อ 1207-8

 

          โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศผลการคัดเลือก ยกย่องศิลปินแห่งชาติประจำปีพุทธศักราช 2561 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ใน 3 สาขา คือ สาขาทัศนศิลป์ สาขาวรรณศิลป์ และสาขาศิลปะการแสดง รวมทั้งสิ้น 12 คน ซึ่งผู้ที่ได้รับยกย่องในสาขาทัศนศิลป์ จำนวน 4 คน ได้แก่ นายชิน ประสงค์ นายปริญญา ตันติสุข นางคำปุน ศรีใส และนายคงศักดิ์ ยุกตะเสวี  สาขาวรรณศิลป์ จำนวน 2 คน ได้แก่ นายจำลอง ฝั่งชลจิตร และนายเสน่ห์ สังข์สุข ส่วนสาขาศิลปะการแสดง จำนวน 6 คน ได้แก่ นายวิโรจน์ วีระวัฒนานนท์ นางกั้น เชาวพ้อง นางสุคนธ์ พรพิรุณ นายประภาส ชลศรานนท์ นางสมสุข กัลย์จาฤก และ นางเอก ชาวราษฎร์ (เพชรา เชาวราษฎร์)

  

          ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติจะได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 25,000 บาท ตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลว่าด้วยเงินสวัสดิการเว้นแต่มีสิทธิ์เบิกจากหน่วยงานอื่นโดยให้เบิกจากหน่วยงานนั้นก่อน ถ้าเบิกจากหน่วยงานนั้นได้ต่ำกว่าสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาให้มีสิทธิเบิกในส่วนที่ยังขาดอยู่ได้อีกภายในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีงบประมาณ อีกทั้งได้ค่าช่วยเหลือเมื่อประสบภัยครั้งละไม่เกิน 50,000 บาทต่อครั้ง ค่าของเยี่ยมในยามเจ็บป่วยหรือโอกาสสำคัญเท่าที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 3,000 บาทต่อครั้ง หากเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือบำเพ็ญกุศลศพรายละ 20,000 บาทและเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 150,000 บาท