หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติฯ

พช. ร่วมใจน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดำเนินโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

 

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงดำเนิน โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วยพลังการมีส่วนร่วมของชุมชน ยกระดับหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตั้งเป้าสร้างความอยู่ดีกินดี 878 อำเภอทั่วประเทศ

 

นายสมหวัง พ่วงบางโพ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกระหว่างวันที่ 11 – 12 กรกฎาคม 2562 ในพื้นที่หมู่บ้าน 3 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ บ้านวัดโบสถ์ หมู่ที่ ๕ ตำบลเมืองบางขลัง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย บ้านร้องลึก หมู่ที่ 6 ตำบลผักขวง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ และบ้านจอมทอง หมู่ที่ ๖ ตำบลจอมทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

นายสมหวัง เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับปวงชน ชาวไทยที่ได้ร่วมใจกันจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายพระพรชัยมงคล ซึ่งกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้ร่วมเป็นหนึ่งในการแสดงพลังแห่งความจงรักภักดี ผ่านการดำเนิน โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วยการน้อมนำการดำเนินงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต ของพี่น้องประชาชนในชุมชน/หมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อสร้างความอยู่ดีกินดี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างความสุขอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยวัตถุประสงค์หลักของการดำเนินโครงการในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ยังเป็นการสืบสาน รักษา และต่อยอดการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาใช้ในการพัฒนาชุมชนและสร้างความสุขของประชาชน ด้วยวิธีใช้พลังการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคีการพัฒนา ยกระดับหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน   

 

การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กรมฯ กำหนดดำเนินการในพื้นที่ 878 อำเภอ ๆ ละ 1 หมู่บ้าน ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฎาคม 2562 โดยมีผู้นำ อาสาสมัคร องค์กร เครือข่ายในชุมชน และคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาชนบทตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทั้งระดับอำเภอและระดับจังหวัด เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งการดำเนินโครงการที่ผ่านมา 2 เดือน ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพี่น้องประชาชน และภาคีการพัฒนาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ส่งผลให้การดำเนินโครงการในภาพรวมมีความก้าวหน้าไปแล้วมากถึง 90% มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 100,000 คน

 

โดยจุดเด่นของการดำเนินโครงการในครั้งนี้ คือ การดำเนินกิจกรรมรวมพลังจิตอาสาให้สมาชิกของชุมชนได้ร่วมมือร่วมใจกัน สร้างสิ่งดีงามให้แก่ชุมชนร่วมกันเป็นประจำทุกเดือน ในลักษณะโครงการจิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจเพื่อก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี และตระหนักถึงการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการเน้นให้ทุกครัวเรือนในหมู่บ้านได้มีส่วนร่วมและมีกิจกรรมต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการนี้ กรมฯ ได้ตระหนักถึงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน ด้วยกิจกรรมตามตัวชี้วัด 3 กลุ่มหลัก (มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน) โดยพิจารณาจาก 13 ตัวชี้วัด อาทิ การจัดทำบัญชีครัวเรือน การบริหารจัดการขยะ การบริหารจัดการหนี้ มีกองทุนสวัสดิการ และเป็นชุมชนปลอดอบายมุข เป็นต้น และหากชุมชนใดสามารถดำเนินการด้านใดได้โดดเด่นก็จะได้รับการพัฒนาส่งเสริม มากขึ้น พร้อมทั้งเป็นแนวทางให้แก่ชุมชนอื่น ๆ ได้อีกด้วย

 

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแนวทางขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม กรมฯ เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานที่สร้างการมีส่วนร่วมตั้งแต่ระดับครัวเรือน จะเป็นการเสริมสร้างความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชนในชุมชน/หมู่บ้านทุกมิติไปพร้อม ๆ กัน รวมถึงยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนแบบค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับของการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่จะนำไปสู่การสร้างความสุขให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงรองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว.