เตือนภัย ! ช่วงปิดสถานศึกษา ดูแลเด็ก ให้ปลอดโควิด-ปลอดภัยไม่จมน้ำ

เตือนภัย ! ช่วงปิดสถานศึกษา ดูแลเด็ก ให้ปลอดโควิด-ปลอดภัยไม่จมน้ำ

 

กรมควบคุมโรค เตือนผู้ปกครอง ช่วงปิดสถานศึกษา ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ป้องกันการติดเชื้อ “โควิด-19” และป้องกันเด็กจมน้ำ

 

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 นี้ สถานศึกษาในหลายพื้นที่ปิด เพื่อลดการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก และเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งบุตรหลานส่วนใหญ่จะอยู่กับบ้าน แต่อาจมีเด็ก ๆ บางส่วนที่มักชวนกันไปเล่นตามสถานที่ต่าง ๆ จึงขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หาพื้นที่เล่นที่ปลอดภัยให้กับเด็ก และระมัดระวังไม่ให้เด็กเข้าถึงแหล่งน้ำตามลำพัง เพื่อป้องกันเด็กจมน้ำ

 

“จากข้อมูลมรณบัตร ของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ในเบื้องต้นของปี 2563 ตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 63 พบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิต 423 ราย ลดลงจากปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน 77 ราย เป็นเด็กอายุ 5-9 ปี มากที่สุดถึง 188 ราย (ร้อยละ 44.4) เพศชายจมน้ำเสียชีวิตมากกว่าเพศหญิงประมาณ 2 เท่า วันเสาร์และวันอาทิตย์มีสัดส่วนการจมน้ำสูงที่สุด 155 ราย (ร้อยละ 36.6) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุด (161 ราย) รองลงมาคือ ภาคกลาง (152 ราย) ส่วน 5 จังหวัดแรกที่จมน้ำเสียชีวิตมากที่สุด ได้แก่ บุรีรัมย์ ขอนแก่น สุรินทร์ นครราชสีมา และสกลนคร”

 

ทั้งนี้ จากรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการตกน้ำ จมน้ำ ของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค ในเบื้องต้นของปี 2563 พบว่า มีรายงานเหตุการณ์การจมน้ำ 77 เหตุการณ์ ในจำนวนนี้ พบว่า ร้อยละ 61 ของเด็กที่จมน้ำจะเสียชีวิต โดยแหล่งน้ำที่เกิดเหตุเป็นคลองมากที่สุด (ร้อยละ 19.5) รองลงมาเป็นสระน้ำ ทะเล และหนองน้ำ ตามลำดับ

 

นอกจากนี้ ยังพบเหตุการณ์การจมน้ำในถังน้ำ โอ่งน้ำ สระว่ายน้ำพลาสติก ที่อยู่บริเวณบ้านถึงร้อยละ 5.2 โดยช่วงเวลาที่เกิดเหตุมากที่สุดคือ เวลา 12.00-17.59 น. (ร้อยละ 54.6) และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะเด็กจมน้ำเสียชีวิตพบว่าเด็กอยู่กับเพื่อนมากที่สุด (ร้อยละ 68.1) ซึ่งกิจกรรมก่อนเกิดเหตุ มีสาเหตุจากการเล่นน้ำ (ร้อยละ 63) รองลงมาคือ พลัดตกลื่น

 

นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ประชาชนหยุดอยู่บ้าน และเป็นช่วงปิดสถานศึกษาหลายแห่ง เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ขอเตือนผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ห้ามไม่ให้เด็กไปเล่นน้ำ เพราะอาจเกิดการรวมกลุ่มกันซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการจมน้ำได้ กรณีที่มีการทำสถานที่ให้เด็กเล่นน้ำชั่วคราวในบ้านขึ้น เช่น เปิดน้ำใส่สระยาง ถังน้ำ กะละมัง ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ไม่ปล่อยให้เด็กโตดูแลเด็กเล็กตามลำพัง

 

สำหรับคำแนะนำ มีดังนี้

 

1.ติดตั้งกลอนล็อคประตูห้องน้ำให้อยู่สูงที่เด็กไม่สามารถเปิดเองได้

2.เทน้ำในถังน้ำหรือในภาชนะทิ้งทุกครั้งหลังใช้งาน

3.คว่ำสระยางหรือภาชนะเพื่อไม่ให้มีน้ำขัง

4.จัดพื้นที่เล่นที่ปลอดภัย/คอกกั้นเด็กที่ไม่ใกล้แหล่งน้ำให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี

5.ไม่ให้เด็กเข้าถึงแหล่งน้ำตามลำพัง ทำรั้วรอบแหล่งน้ำ ปิดคลุมสระน้ำและยกบันไดออกหลังใช้งาน

6.เด็กต้องอยู่ในสายตาผู้ดูแล/ผู้ปกครองตลอดเวลาและไม่ควรให้เด็กอยู่ตามลำพังกับเด็กโต 

 

นอกจากนี้ ในกรณีสระว่ายน้ำที่ใช้ร่วมกัน เช่น ในคอนโด สนามกีฬา สระเอกชน ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญดูแลความปลอดภัยตลอดเวลาที่มีผู้มาใช้บริการ และต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยจนกว่าจะถึงสระว่ายน้ำและเก็บไว้ในถุงสะอาด จากนั้นให้สวมใส่อีกครั้งเมื่อขึ้นจากสระ ห้ามบ้วนน้ำลาย ปัสสาวะ หรือสั่งน้ำมูกลงในน้ำเป็นอันขาด ไม่ควรพูดคุยเล่นกับเพื่อน และเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร

 

ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 

 

 

//..................

              CR : “กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข”

              https://www.facebook.com/กรมควบคุมโรค-กระทรวงสาธารณสุข-470988516420706/

              https://is.gd/qkvZaw

//..................