หนุน “ตุ๊กตุ๊ก” ฝ่าวิกฤติ ด้วย “NEXT Deli” บริการส่งอาหารของคนไทย

“NEXT Deli” บริการส่งอาหารของคนไทย ใช้ “ตุ๊กตุ๊ก” เป็นพาหนะหลัก  เริ่มต้นด้วยอาหารจากร้านดัง 4 กล่อง ราคา 300 บาท รวมค่าส่ง ระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร นับจุดเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

          บริการส่งอาหาร “NEXT Deli” เป็น “น้องใหม่” ล่าสุดของ “เวิลด์ รีวอร์ด โซลูชั่น” World Reward Solution บริษัทของคนไทยซึ่งมีชื่อเสียงจากการเป็นที่ปรึกษาด้านไลฟ์สไตล์ ทั้งในรูปแบบส่วนบุคคลและให้บริการบริษัทชั้นนำ ภายใต้การบริหารงานของ “เก่ง-จักรพันธ์ รัตนเพชร” กรรมการผู้จัดการ การันตีด้วยรางวัลระดับนานาชาติ Asia Innovation Awards ด้วยการนำ 'ดิจิตอล โซลูชั่น' (Digital Solution) มาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไลฟ์สไตล์เซอร์วิสเต็มรูปแบบ

          “ณัฐรัตน์ แก้วระวัง”  Head of Next Technology บอกเล่าเรื่องราวของ “NEXT Deli” ไว้อย่างน่าสนใจ เพราะต้องยอมรับว่ามีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมากมายในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19  และหนึ่งในนั้นคือ “NEXT Deli” นั่นเอง

           “ทางบริษัททำการส่งอาหารให้คุณหมอผ่านทาง White Glove Delivery ในช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนัก และได้พบกับทีมรถตุ๊กตุ๊ก ที่ว่างงานจากการรับส่งนักท่องเที่ยว จึงมีแนวคิดร่วมกันว่า จะสามารถรวมตัวกันเพื่อหารายได้ช่วยผู้ที่เดือดร้อนได้อย่างไร ในที่สุดจึงได้ออกแบบระบบสั่งจองอาหารล่วงหน้า ที่เชื่อมกับการขนส่งโดยตุ๊กตุ๊ก และรถ Eco car อื่นๆ ที่กำลังขาดรายได้และว่างงาน โดยสามารถรับส่งอาหารให้กับผู้ประกอบการในราคาถูกได้”

          แน่นอนว่าหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมจึงเลือก “ตุ๊กตุ๊ก” เป็นพาหนะหลักในการจัดส่ง คำตอบก็คือ ทีมงานต่างมีความเห็นตรงกันกว่า “ตุ๊กตุ๊ก” เป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางแบบไทย สัญลักษณ์ที่ต่างชาติรู้จักประเทศไทย รวมไปถึงพี่ๆ ตุ๊กตุ๊ก ต่างก็ขาดรายได้อย่างหนักจากที่เคยได้รับเพราะการท่องเที่ยวเฟื่องฟู 

           “เราอยากรักษารถตุ๊กตุ๊ก ไว้ให้ยังอยู่กับสังคมไทย และหาทางช่วยให้พี่ๆ คนขับตุ๊กตุ๊ก มีรายได้ ในระหว่างวิกฤตินี้ และมองไปในระยะยาวด้วยว่า วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ New normal ที่พูดกัน คนสั่งอาหารออนไลน์น่าจะมีจำนวนมากขึ้น รถตุ๊กตุ๊กสามารถส่งอาหารในปริมาณมากๆ ได้ และช่วงหน้าฝนก็ไม่มีปัญหาด้วย” ณัฐรัตน์เล่าต่อ

          เมื่อสอบถามถึงการคัดเลือกร้านอาหารที่เข้าร่วมกับ “NEXT Deli” ในระยะแยก คำตอบที่ได้รับก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะร้านเหล่านี้ล้วนเป็นพันธมิตรในการทำโครงการ “ข้าวเพื่อหมอ - Food For Fighters” ซึ่งเปิดรับบริจาคแบบสาธารณะ Crowdfunding เพื่อระดมทุนจัดทำอาหารส่งให้บุคลาการทางการแพทย์ในช่วงวิกฤติ COVID-19 ขณะเดียวกัน ก็ทำให้ร้านอาหารขนาดเล็กและขนาดกลางที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้ ดูแลพนักงานของร้านควบคู่กันไปได้ด้วย

          “เราเริ่มต้นด้วยการชักชวนผู้ประกอบการร้านอาหารที่มาจากโครงการ ข้าวเพื่อหมอ - Food For Fighters ก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นเครือข่ายที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดร้าน และมีรายได้ลดลง ที่สู้มาด้วยกัน เช่น หงส์ฟ้าข้าวมันไก่ ครัวยี่เหลา ซูชิคิว ครัวชื่นใจ แซ่บคัก ศรีขมิ้น บ้านรับรอง พุงกลมข้าวแกงใต้ จากใจเย็นตาโฟทรงเครื่อง มะลิซ้อน และร้านอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีร้านเข้าร่วมกว่า 20 ร้าน” ณัฐรัตน์อธิบาย

          “ในช่วงแรกนี้เราไม่อยากให้มีร้านจำนวนมากเกินไป เพราะต้องการให้ผู้ประกอบการร้านอาหารได้มีโอกาสในการขายอาหารให้กับลูกค้าของ “NEXT Deli” ในปริมาณที่เหมาะสม แต่ในอนาคตอาจจะมีการขยายมากขึ้น และอาจจะมากกว่าการขายอาหาร โดยมองกันว่าจะเพิ่มการช่วยเกษตรกรขายผลผลิตทางการเกษตรควบคู่กันไปด้วย” ณัฐรัตน์ให้เหตุผล พร้อมทิ้งท้ายว่า

          “ฝาก NEXT Deli บริการของคนไทยที่ช่วยคนไทยด้วยกันไว้ด้วยนะครับ อยากให้ทดลองใช้บริการกันดู ตอนนี้เป็นช่วงแรก หากมีข้อติชม เราจะได้นำไปปรับปรุงให้เหมาะสมต่อไปครับ” 

          ขณะที่ “ลุงสี - บุญสี ลาเบิกบาน” อายุ 59 ปี หนึ่งในคนขับตุ๊กตุ๊ก ที่ร่วมงานกับ “NEXT Deli” บอกกับทีมบางกอกไลฟ์นิวส์ว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กที่ได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากที่เมื่อก่อนเคยรับส่งนักท่องเที่ยวของบริษัททัวร์มีรายได้วันละ 500 - 700 บาท หลังจากเกิดวิกฤติ นักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ไม่มีรายได้มาใช้จ่ายภายในครอบครัว เมื่อได้รับการติดต่อจาก “NEXT Deli” จึงตัดสินใจได้ทันทีในการเข้าร่วม

          “เขาการันตีรายได้อย่างต่ำวันละ 300 บาท ให้ด้วย โดยเขาเป็นคนกลางที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊ก เพื่อนำอาหารไปส่งให้ถึงมือลูกค้า จึงทำให้เรายังพอมีรายได้ที่จะมาเลี้ยงครอบครัว ถึงแม้จะไม่ได้มากเหมือนอย่างก่อนก็ตาม”  ลุงสีเปิดใจ

          เรามักได้ยินกันบ่อยๆ ว่า ในวิกฤติยังมีโอกาส ตราบเท่าที่เรายังคงมีความหวัง “NEXT Deli” ก็มองเห็นหนทางนั้นเช่นกัน จากบริษัทแม่ที่ให้บริการผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ มีแพลตฟอร์มเครื่องมือที่พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ สู่การเป็นแพลตฟอร์มของคนไทย ที่ช่วยทั้งคนขับตุ๊กตุ๊กให้มีรายได้ ช่วยทั้งร้านอาหารให้สามารถมีออเดอร์ พนักงานในร้านมีงานทำต่อไปได้ ภายใต้เงื่อนไขที่ทั้งร้านค้าและคนขับตุ๊กตุ๊กตอบรับอย่างเต็มใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ใช้บริการ “Next Deli” ที่ลองใช้แล้ว จะรู้สึกว่า นอกจากจะจ่ายค่าบริการในราคาที่พอรับได้แล้ว ยังรู้สึกว่า ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นเครือข่ายคนตัวเล็กๆ ในสังคมนี้ไปพร้อมกันด้วย

          “NEXT Deli” ให้บริการส่งอาหารในราคาเริ่มต้น 300 บาท ประกอบด้วยอาหาร 4 กล่องจากร้านดัง จัดส่งฟรีในระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร นับจุดเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หากเกินกว่านั้น คิดค่าส่งเริ่มต้นที่ 150 บาท โดยสามารถเลือกร้านอาหารได้จากกว่า 20 ร้านดังที่เข้าร่วม พร้อมบริการจัดส่งถึงมือผู้รับในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างปลอดภัย โดยรายได้จากการบริการ “NEXT Deli” บางส่วน ยังนำไปร่วมสนับสนุนโครงการ ข้าวเพื่อหมอ - Food For Fighters ที่ขยายความช่วยเหลือไปยังคนไร้บ้าน คนจนเมือง ชุมชนต่างๆ ที่ต้องการอาหารอีกด้วย

          สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมของ “NEXT Deli”  ได้ที่ 02-016-9995
          หรือ www.Nextdeli.club

          ตราบเท่าที่เรายังมองเห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ระหว่างกัน และจับมือช่วยกันมองหาช่องทางฝ่าวิกฤติ เราก็จะก้าวข้ามทุกอุปสรรคไปด้วยกันได้...