“แม่โจ้” หนุน “พช.” มอบเมล็ดพันธุ์ผัก 485,000 ชุด แจกจ่ายประชาชน

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มอบเมล็ดพันธุ์ผัก จำนวน 485,000 ชุด แก่กรมการพัฒนาชุมชน เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน 77 จังหวัดทั่วไทยสู้ภัยโควิด-19 ตามแผนปฏิบัติการ 90 วัน “ปลูกผักสวนครัว  เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” 

          นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในนามผู้แทนกระทรวงมหาดไทย และ นายอาทร พิมชะนก พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ ในนามผู้แทนกรมการพัฒนาชุมชน รับมอบเมล็ดพันธุ์ผัก จาก รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จำนวน 485,000 ชุด เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน 77 จังหวัดทั่วไทยสู้ภัยโควิด-19 โดยมี นายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายกสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะผู้บริหารคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ณ อาคารแผ่พืชน์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่

 

          นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การส่งมอบเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวในครั้งนี้เป็นการประสานงานความร่วมมือระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งดำเนินการสนับสนุนแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวเพื่อมอบให้กับประชาชนตามแผนปฏิบัติการ 90 วัน “ปลูกผักสวนครัว  เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” โดยหลังจากนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้จะดำเนินการจัดส่งเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัวให้แก่ 77 จังหวัด จังหวัดละ 5,000 ชุด ผ่านทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดทุกจังหวัดต่อไป

 

 

          ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ที่กำลังส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน และประชาคมโลกในทุกมิติ และตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนได้เร่งดำเนินมาตรการเยียวยาต่างๆ เพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยหนึ่งในมาตรการของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ คือการจัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวทั่วไทยสู้ภัยโควิด – 19 ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญที่ทางมหาวิทยาลัยตระหนักถึงการเป็นที่พึ่งของประชาชน และการเป็นสถาบันอุดมศึกษาซึ่งเป็นแหล่งภูมิปัญญาทางการเกษตรมาอย่างยาวนาน จึงได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้  คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย  ศูนย์เมล็ดพันธุ์ผัก เกษตรอินทรีย์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และการสนับสนุนจากเครือข่ายทุกภาคส่วน “ผัก” มีความสำคัญ คือเป็นอาหารและเป็นยาสามัญประจำบ้าน เมล็ดพันธุ์หนึ่งเมล็ดจึงมีค่าเทียบเท่ากับหนึ่งชีวิต เมื่อประชาชนได้รับเมล็ดพันธุ์ผักจากแม่โจ้และส่งต่อความปรารถนาดีขยายไปสู่วงกว้าง จะช่วยให้ผู้รับมองเห็นคุณค่าของเมล็ดพันธุ์  สามารถสร้างความมั่นคงทางอาหารด้วยการปลูกผักสวนครัว  ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน กระตุ้นให้คนไทยสู้ภัยโควิด–19 ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยด้านการบริการวิชาการเพื่อสังคมชุมชน ซึ่งนับเป็นเป้าหมายที่แม่โจ้มุ่งทำเพื่อประชาชนมาโดยตลอด  ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันผนึกกำลังกันจนโครงการนี้ได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างดี

 


          “โครงการนี้ฯ ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานและประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งในเบื้องต้นโครงการได้ตั้งเป้าหมายแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์จำนวน  100,000 ชุด  จากศูนย์เมล็ดพันธุ์ผักเกษตรอินทรีย์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ต่อมาภาคเอกชนเครือข่ายแม่โจ้ได้ร่วมให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์อีกเป็นจำนวนหนึ่ง จาก บริษัทสยามสตาร์ซีดส์ จำกัด บริษัทเทพมงคลเมล็ดพันธุ์ จำกัด บริษัทพัลซาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด โอ.เค.เมล็ดพันธุ์ จึงได้ขยายผลส่งมอบให้ประชาชนเป็นจำนวนถึง 485,000 ครัวเรือน” อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้กล่าว

 

 

          ขณะที่ นายอาทร พิมชะนก พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในนามของตัวแทน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ที่มารับมอบเมล็ดพันธุ์ผักในวันนี้ ท่านอธิบดีขอขอบคุณมหาวิทยาลัยแม่โจ้และภาคเอกชนเครือข่ายแม่โจ้ที่ได้ส่งมอบเมล็ดพันธุ์เพื่อสนับสนุนโครงการ “ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” ที่กรมการพัฒนาชุมชนกำลังดำเนินการอยู่ รวมทั้งขอขอบคุณความร่วมมือจากคณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาได้สละเวลาเป็นจิตอาสาบรรจุเมล็ดพันธุ์ใส่ซอง พร้อมด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ที่สนับสนุนการกระจายส่งมอบสู่ประชาชน อาทิ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดต่างๆ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อให้กระจายสู่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเมล็ดพันธุ์หนึ่งชุด ประกอบไปด้วยผักสวนครัว 5 ชนิด แต่ละซองจะมีเมล็ดพันธุ์จำนวน 15 – 20 เมล็ด  โดยพันธุ์หลักๆ ได้แก่ พริก มะเขือ ถั่ว และอื่น ๆ ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบเปอร์เซ็นต์การงอก จากห้องปฏิบัติการภายใต้มาตรฐานของมหาวิทยาลัยก่อนบรรจุส่งมอบให้แก่ประชาชน ซึ่งคำนวณเป็นมูลค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ที่กระจายออกสู่  77 จังหวัดทั่วประเทศ 485,000 ครัวเรือน ผลผลิตที่ได้จึงเทียบเท่ากับเม็ดเงินกว่าหนึ่งพันเจ็ดร้อยล้านบาทในระยะเวลาหนึ่งปี และมูลค่าเชิงสังคมที่เกิดจากการแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ การส่งต่อคุณค่าในการปลูกผักสวนครัวเพื่อสุขภาพและสร้างความยั่งยืนในการพึ่งพาตนเอง ตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้เป็นอย่างดี

 

 

          “หลังวิกฤติ Covid-19 ในครั้งนี้  อนาคตของประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนจากความมั่นคงทางเศรษฐกิจไปสู่ความมั่นคงทางมนุษย์เป็นตัวตั้ง แพลตฟอร์มทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป  เกษตรยุคใหม่จะมีความสำคัญอย่างยิ่ง  โครงการ “ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร”  ของกรมการพัฒนาชุมชน และโครงการมหาวิทยาลัยแม่โจ้ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวทั่วไทยสู้ภัยโควิด–19  จะเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่เราจะได้ร่วมกันทำเพื่อประชาชนชาวไทย จึงขอเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศมาร่วมสู้และพลิกวิกฤติครั้งนี้ให้กลายเป็นโอกาสไปพร้อม ๆ กัน” พัฒนาการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว