ด่วน ! สั่งปิดเพิ่ม สถานที่เสี่ยงใน กทม. 22 มี.ค. -12 เม.ย. 63

 

กทม. สั่งปิดสถานที่เสี่ยงติด COVID-19 เพิ่ม 22 วัน  เริ่ม 22 มี.ค. - 12 เม.ย. 63 เว้นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารขายได้เฉพาะหิ้วกลับบ้าน

 

 

 

 

          พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หารือมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนอาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 กระจายขยายวงกว้าง ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง

 

 

          ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติสั่งปิดสถานประกอบการตามมาตรา 35 พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพิ่มเติม เป็นระยะเวลา 22 วัน ตั้งแต่ 22 มีนาคม-12 เมษายน 2563

 

          โดยสถานที่เสี่ยงปิดเพิ่มเติม ได้แก่

 

          - สปา นวดเพื่อสุขภาพ

          - สถานบริการควบคุมน้ำหนัก

          - สปาอาบน้ำ ตัดขนสัตว์

          - ลานสเก็ตหรือโรลเลอร์เบรด

          - กิจการเสริมสวย และคลินิคเสริมความงาม

          - สวนสนุก โบว์ลิ่ง ตู้เกม

          - กิจการบริการคอมพิวเตอร์

          - สนามกอล์ฟ สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ

          - สระว่ายน้ำ

          - กิจการสักผิว

          - กิจการบริการเลี้ยงและดูแลเด็กที่บ้าน

          - บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

          - สนามพระ

          - สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่

          - สถานที่จัดประชุมและนิทรรศการ

          - ตลาดทุกประเภท ยกเว้นแผงของสด และแผงค้าที่จำหน่ายอาหารตามความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน

          - ห้างสรรพสินค้า ยกเว้นส่วนซูเปอร์มาร์เก็ต

          - สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย สถานศึกษารัฐ เอกชน โรงเรียนประจำ โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนกวดวิชาทุกแห่ง

          - สถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย บัณฑิตวิทยาลัย ทั้งของรัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันอบรมวิชาชีพทั่วกรุงเทพฯ

 

 

          นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังขอความร่วมมือหน่วยงานเอกชนให้อนุญาตพนักงานทำงานที่บ้าน ส่วนหน่วยงานของรัฐให้ใช้วิธีเหลื่อมเวลาหรือสลับวันการทำงาน ตามความเหมาะสม  ส่วนระบบขนส่งมวลชนขอให้จัดเว้นระยะที่นั่งเพื่อลดความแออัดของผู้โดยสาร และขอความร่วมมือประชาชนลดการเดินทางไปในที่มีคนหนาแน่น

 

 

          ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนไม่ต้องกักตุนสินค้า ร้านอาหารยังเปิดตามปกติ เพียงแต่ขอให้ปรับรูปแบบเป็นแบบกล่องกลับบ้าน (take away) และซูเปอร์มาร์เก็ต ก็ยังเปิดตามปกติ ร้านสะดวกซื้อให้หมั่นทำความสะอาด มีจุดบริการแอลกอฮอล์บริเวณทางเข้า เพื่อความสะอาด ปลอดภัย