กสอ. โชว์ Success Case ผ่าน DIP e-learning เสริมกลยุทธ์ผู้ประกอบการ

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โชว์ Success Case ผ่านสื่อการเรียนรู้ DIP e-learning เผยแพร่ความสำเร็จเทคนิค แนวทางการแก้ไขปัญหาธุรกิจ เพื่อช่วยผู้ประกอบการใหม่พัฒนาองค์ความรู้ทางด้านการตลาด กลยุทธ์ และกำหนดแผนการดำเนินธุรกิจ ผ่านตัวอย่างผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ

 

          นางนวลจิตต์ เรืองศรีใส  นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เป็นหน่วยงานหลักในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ให้มีสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการที่เป็นเลิศ ตลอดจนมีความยั่งยืนสู่สากล อีกทั้ง ยังผลักดันให้ผู้ประกอบการมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการรายใหม่ได้เข้าถึงองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการเริ่มต้นธุรกิจ กสอ. จึงได้ดำเนินกิจกรรมการจัดทำ Success Case ผ่านระบบ DIP e-learning ภายใต้โครงการจัดทำองค์ความรู้ในรูปแบบสื่อดิจิทัล สำหรับ SMEs (e-learning for SMEs) ขึ้น เพื่อสร้างสื่อการเรียนรู้จากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในสาขาต่าง ๆ ในรูปแบบ Video Learning โดยติดตั้งบนระบบ e-Learning ของ กสอ. โดยเนื้อหาของ Video Learning จะถ่ายทอดเทคนิค แนวทางการแก้ไขปัญหาของธุรกิจต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการธุรกิจ Startup และผู้สนใจทั่วไป เข้ามาศึกษา เรียนรู้ ต่อยอด และนำไปปรับใช้ในธุรกิจของตนเอง

 

 


          “ในส่วนของโครงการ e-learning for SMEs นี้ได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งจุดประสงค์ของโครงการนี้มีความต้องการอย่างยิ่งที่จะให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้เรียนรู้ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทุกคนสามารถเปิดมือถือ และก็เรียนรู้ได้เลย เนื่องจากที่ผ่านมาทางกรมฯมีงบประมาณอันจำกัด ซึ่งก็มีหลายหลักสูตร แต่ก็ไม่สามารถที่จะเผยแพร่ให้คลอบคลุมให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศได้ ดังนั้น ทาง กสอ.จึงจัดทำระบบ e-learning เพื่อให้ทุกคนได้ศึกษา เรียนรู้ พัฒนาธุรกิจของตนเอง ได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ จากเดิมที่ในแต่ละปี ทาง กสอ.มีการฝึกอบรมไม่เกิน 10,000 ราย แต่ถ้าทำเป็นระบบออนไลน์ ทุกคนที่เป็น SMEs ที่มีจำนวนกว่า 2 ล้านรายนั้นก็จะสามารถเรียนรู้ได้อย่างทั่วถึงกัน”นางนวลจิตต์ กล่าวเพิ่มเติม

 

          สำหรับเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ประกอบการในโครงการดังกล่าว มีอยู่ 2 หลักเกณฑ์หลัก คือ ประการแรก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องมีแนวคิด มีองค์ความรู้ที่จะทำธุรกิจเพื่อที่จะเป็นตัวอย่างให้กับ SMEs ทั่วไป ได้นำเอาความรู้ ความคิดมาปรับใช้ ประการที่สอง กสอ. ได้เน้นในด้านการใช้เทคโนโลยีให้เข้าไปสู่ 4.0 การนำระบบ e-learning ก็เพื่อที่จะให้ SMEs ได้เข้ามาใช้ เรียนรู้ และปรับกระบวนการแนวคิดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ให้รู้จักพัฒนาธุรกิจของตนเอง เข้าไปสู่เทคโนโลยีใหม่ๆ

 

 

          “ปัจจุบันมีผู้ประกอบการในโครงการจำนวน 40 ราย สำหรับทิศทางในปี 2563 ทาง กสอ.ยังคงเดินหน้าโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงในปี 2564 ด้วย ก็จะมีการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น สามารถสู้ในตลาดในประเทศ และตลาดโลกได้”นางนวลจิตต์ กล่าวทิ้งท้าย

 

 

          ด้าน นางเณริศา อิศรางกูร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ ลิทเทิล ลัลลาบาย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจผ้าอ้อมเด็กแบรนด์ nappi เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่ผลิตจากใยไผ่ กล่าวว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างมาก การแข่งขันในตลาดของใช้สำหรับเด็กก็สูงมากขึ้นด้วย ทั้งมีการแข่งขันในเรื่องของราคา และผู้บริโภคมีการเปลี่ยนรูปแบบไปขายแบบออนไลน์ ดังนั้น ทางบริษัทจึงได้เข้าร่วมโครงการนี้ โดยได้นำเอาความรู้ในเรื่องการทำแบรนด์ดิ้ง การขายทางออนไลน์ นำมาปรับใช้ในธุรกิจ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ต้องไปสู้เรื่องการตัดราคากับธุรกิจรายอื่นๆเลย ถ้าเข้าใจในเรื่องของการทำแบรนด์ดิ้งที่ถูกวิธี ซึ่งโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองอย่างมาก

 

 

          นอกจากนี้ นายสุทธิชัย พนิตนรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะวอฟเฟิล ซัพพลาย จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์เดอะวอฟเฟิล กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจเป็นรูปแบบแฟรนไชส์มีสาขาทั้งหมดกว่า 200 สาขา เดอะวอฟเฟิลเป็นผู้นำตลาดของแฟรนไชส์ขนาดเล็ก และเป็นแฟรนไชส์ตัวอย่าง ซึ่งเป็นอีก 1 ในธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการนี้ โดยทางบริษัทได้นำเอาความรู้นำมาปรับปรุงเวบไซต์ และการทำตลาดในรูปแบบ Digital Marketing ที่ไม่ใช่การขายหน้าร้านเพียงอย่างดียว โดยได้มีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 1-2 แสนบาทต่อเดือน ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้นำเอาความรู้ไปจัดการในธุรกิจ และเป้าหมายของบริษัทในปี 2563 ก็จะมีการขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศต่อไป

 

 

          ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล  กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4535 หรือ เว็บไซต์ dip-sme-academy.com