‘เกาะหลีเป๊ะ’ วิกฤติ ! ‘ปะการังน้ำตื้น’ ไม่ใช่แค่เสียหาย แต่ถล่มทลายตายหมด !
‘เกาะหลีเป๊ะ’ วิกฤติ !‘ปะการังน้ำตื้น’ ไม่ใช่แค่เสียหาย แต่ถล่มทลายตายหมด !
"เกาะหลีเป๊ะ" วิกฤติหนัก ระบุ “แนวปะการังน้ำตื้น” ไม่ใช่แค่เสียหาย แต่ขั้นถล่มทลายตายเกือบหมดสิ้น “ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” ชี้ ไม่ได้เกิดจาก “ฟอกขาว” ตามธรรมชาติ เชื่อ เกิดจากมนุษย์ เหตุ ปะการังตายแบบแตกหัก ยืนยัน จำเป็นต้องร่วมมือทุกฝ่าย แก้ปัญหาอย่างบูรณาการ
“ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพประกอบ ผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว “Thon Thamrongnawasawat” ติดแฮชแท็ก #กอบกู้เกาะหลีเป๊ะ เนื่องจากพบความเสียหายยับเยินอย่างหนัก ของ “แนวปะการังน้ำตื้น” โดยมีเนื้อหา ดังนี้
“อาจารย์ Sakanan Plathong ส่งภาพของเครือข่ายจาก “เกาะหลีเป๊ะ” มาให้ดูว่า “แนวปะการังน้ำตื้น” เสียหายยับเยินขนาดไหน ?
ผมพยายามกลั้นใจ จะไม่ร้องกรี๊ดโวยวาย แต่จะพยายามอธิบายตามหลักวิชาการ
ปะการังเสียหายจริงไหม ?
ดูจากภาพคงไม่ใช่แค่เสียหาย แต่คงเป็นถึงขั้นถล่มทลาย ตายเกือบหมดสิ้น !
ตายเพราะอะไร ?
ดูจากสภาพแล้ว ปะการังไม่ได้ฟอกขาว ยังอยู่ในน้ำตื้น ไม่มีรายงานพายุรุนแรงในพื้นที่
ปะการังตายแบบแตกหัก เชื่อว่า เกิดจากผลกระทบจากมนุษย์
ผลกระทบอะไร ?
อาจเป็นการนำเรือเข้าออกระหว่างน้ำตื้น/น้ำลง การเดินในพื้นที่แนวปะการัง เพื่อสาเหตุต่าง ๆ ทำให้ปะการังอยู่ในสภาพแตกหักหรือพลิกคว่ำ
เพิ่งเป็นหรือเป็นนานแล้ว ?
ร่องรอยที่ปรากฏจากภาพ ดูแล้วเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจด้วยหลายสาเหตุดังที่บอกไว้เกิดร่วมกัน
แล้วเราควรทำอย่างไร ?
เกาะหลีเป๊ะเป็นพื้นที่กันออกจากอุทยาน แม้แนวปะการังรอบพื้นที่ จะคงอยู่ในการดูแลของอุทยาน แต่จำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย
แน่นอนว่า อุทยานคงต้องเป็นหลัก แต่หน่วยอื่น ๆ รวมทั้งผู้ประกอบการ/คนในพื้นที่ ต้องให้ความสนับสนุน ไม่สามารถจะจัดการโดยอุทยานตามลำพังได้
จัดการอย่างไร ?
1. ทุกฝ่ายยอมรับว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นจริง
2. ทำการสำรวจพื้นที่เสียหายให้ชัดเจน ทั้งทางอากาศและทางภาคพื้น เปรียบเทียบฐานข้อมูลเดิม ฯลฯ
3. ตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหาย เพื่อหาวิธีจัดการกับสาเหตุต่าง ๆ ซึ่งอาจต้องมีหลายวิธี
4. ระหว่างนี้ ทำแผนแม่บทในภาพรวมของอุทยานตะรุเตา ฯลฯ เพื่อเป็นแนวทางในภาพรวม
5. วางแผนการดำเนินการร่วมกัน โดยใช้ทั้งมาตรการและความร่วมมือจากหลายฝ่าย
6. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการ ยกระดับการดูแลรักษาพื้นที่ ฯลฯ
ยากแค่ไหน ?
บอกได้เลยว่ายากมาก การทำอะไรเพียงชั่วครั้งคราว ไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้
การนำวิธีจากที่อื่นมาใช้ ต้องคำนึงถึงสภาพพื้นที่ การใช้ประโยชน์ และการจัดการ ไม่สามารถจะนำมาครอบสวมลงได้ทันที
กรณีอ่าวมาหยา เกาะยูง หรือเกาะตาชัย มีความแตกต่างออกไป เพราะเป็นเขตอุทยานแบบเบ็ดเสร็จ
พื้นที่ก้ำกึ่งในลักษณะหลีเป๊ะ ฯลฯ จะจัดการได้ยากกว่า
ควรไปทางไหน ?
ผมรู้จักท่านปลัดทั้งกระทรวงทรัพยากรฯ และกระทรวงท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ทราบดีว่าท่านมีความรู้ ประสบการณ์ และความสามารถในการจัดการเรื่องทรัพยากร/การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ผมเชื่อว่าการทำงานแบบบูรณาการทั้งสองกระทรวง ร่วมกับคนในพื้นที่ มีความเป็นไปได้
แต่จะเป็นไปได้แค่ไหน ขึ้นกับท่านรมต.ทั้งสองกระทรวง ผู้มีอำนาจสั่งการให้เกิดผลปฏิบัติให้เกิดการเริ่มต้นก้าวแรก
นี่ไม่ใช่งานที่จะจบได้ในเวลาอันสั้น ไม่ใช่แค่การสืบหา/จัดการผู้กระทำผิด เพราะเป็นปัญหาที่เกิดจากการใช้ประโยชน์จากหลายฝ่าย
ภารกิจกอบกู้หลีเป๊ะไม่ง่ายแน่นอน แต่ถ้าเราไม่เริ่มก้าวแรก ทุกอย่างจะพินาศต่อไปเรื่อย ๆ
สุดท้าย เกาะสวยที่สุดในทะเลใต้ จะจางหายไปจากความทรงจำ
การฟื้นฟูจะเกิดขึ้นไม่ได้ ตราบใดที่ปัญหายังคงอยู่
อธิบายตามหลักการไปหมดแล้ว ถึงเวลาอธิบายโดยใช้อารมณ์บ้าง"
//........................
CR : Facebook Thon Thamrongnawasawat
//........................