‘หนึ่งชั่วโมง อันสงัดเงียบ ในราวป่าโกงกาง’

หนึ่งชั่วโมง อันสงัดเงียบ ในราวป่าโกงกาง

 

1.

ทางเดินปูนซีเมนต์สีเทายกตัวพ้นน้ำ มันทอดหายลับเข้าไปในราวป่าโกงกางอันร่มครึ้ม ยามบ่ายที่แสงแดดรุนแรง แต่พื้นที่ติดทะเลแห่งนี้ก็หาได้ร้อนเกินไป เสียงลมที่กรูผ่านบรรดาต้นไม้ในป่าชายโกงกางดังอยู่รอบ ๆ ตัว หากขวัญอ่อนจินตนาการของเราอาจวิ่งพล่านราวฟองอากาศยามน้ำเดือด แต่ความสงบและความงามที่แบ่งตัวเองออกก่อนจะไปปรากฏกายอยู่ตรงโน้นบ้าง ตรงนี้บ้าง ทั่วไปทั้งราวป่า ทำให้เราไม่ก่อเกิดจินตนาการในด้านที่มืดหม่นต่อป่าผืนนี้

 

2.

เช่นเดียวกันกับป่าโกงกางอีกหลายผืน มันถูกรุกรานโดยมนุษย์ ด้วยการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์นานับรูปแบบ หากเป็นไปโดยเกื้อกูลต่อกันก็คงเป็นเรื่องที่ดี ในความเป็นจริงมักไม่เป็นเช่นนั้น ป่าโกงกางผืนนี้แม้ผ่านความบอบช้ำมาบ้างในกาลก่อน ทว่าก็สามารถยืนหยัดอยู่ได้ ด้วยเพราะความร่วมมือกันของผู้คนในชุมชนที่อิงอาศัยอยู่กับผืนป่าแห่งนี้ ผ่านการชักจูงจากผู้นำชุมชนที่มีคุณธรรมและมีความรักในถิ่นฐานบ้านเกิด ทำให้เกิดการร่วมมือกันดูแลปกป้องและใช้ประโยชน์จากป่าอย่างเพียงพอและสมดุล

 

 

3.

เสียงใบไม้แห้งใต้ฝ่าเท้าปริแตก ไม่น่าเชื่อว่ามันจะส่งเสียงดังได้ขนาดนี้ ท่ามกลางความสงบของป่าโกงกางแห่งบ้านเปร็ดใน เดินบ้างหยุดยืนนิ่ง ๆ บ้าง ไปตลอดทางที่ก้าวเดิน ป่าแห่งนี้ได้กลืนกินเราไปชั่วขณะหนึ่ง ปูดำตัวนั้นทิ้งตัวลงน้ำเมื่อเรามองเห็นมันในทันทีทันใด เรามิได้อยู่เพียงลำพัง แม้ว่าในรัศมีราวสองถึงสามร้อยเมตรรอบตัวเมื่อใช้ตนเองเป็นจุดศูนย์กลางแล้วลากเส้นวงกลมวิ่งวนไปรอบตัว จะยืนยันได้ว่าไม่มีมนุษย์คนอื่นย่างกายเข้ามาในขณะเวลานี้ แต่เราอยู่ท่ามกลางสิ่งมีชีวิตมากมาย ต้นไม้ที่ยืนต้นเบียดเสียดกันอยู่รอบตัวเราก็หลายชีวิตแล้ว ยังไม่นับบรรดาสรรพสัตว์ใต้ผืนน้ำอีกมากที่อาศัยอยู่เป็นชุมชนใหญ่

 

 

4.

สะพานปูนที่ทอดตัวจากชายป่ามาสุดเอาริมลำน้ำสายหนึ่งในราวป่าโกงกางเมื่อเดินมาได้ระยะหนึ่ง ผืนป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยลำคลองสายเล็ก ๆ ที่แตกออกเป็นช่องทางมากมายลัดเลาะลับหายเข้าไปในราวป่า มีแต่ชาวประมงพื้นถิ่นที่ชำนาญทางเท่านั้นที่จะล่องไปได้อย่างอิสระเสรี เมื่อข้ามพ้นลำคลองไป ทางเดินทอดตัวลงไปอยู่กับพื้นดิน ในยามบ่ายน้ำทะเลหนุนสูงทำเอาระดับน้ำในป่าสูงขึ้นท่วมท้นทางเดิน สัมผัสแรกเมื่อวางเท้าลงไปคือความเย็นของน้ำ เราย่ำเท้าต่อไป จากระดับน้ำที่สูงเพียงข้อเท้า จนมาถึงหัวเข่า มันก็สามารถหยุดความมุ่งมั่นของเราไว้ได้ มองไปตามทางเดินที่ทอดตัวฝ่าแนวต้นโกงกางหายลับตาไป ยังมองไม่เห็นผืนทะเล แม้ว่าจะรับรู้ว่าเมื่อไปจนสุดทางเราจะเห็นผืนทะเลกว้าง แต่ในยามนี้ลำพังตัวคนเดียว กับอุปกรณ์กล้องที่อยู่ในกระเป๋าสะพายก็เป็นข้ออ้างที่บอกกับตัวเองให้หันหลังกลับ

 

 

5.

เมื่ออยู่คนเดียวท่ามกลางธรรมชาติ เราจะสามารถสร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้ก่อเกิดได้หรือไม่ ศิลปินผลักดันตนเองอย่างไรให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานอันสุดแสนวิเศษได้ ธรรมชาติส่งมอบแรงบันดาลใจนั้นต่อเรา หรือเป็นตัวเราที่จุดมันขึ้น เราไม่รู้เลยว่าเรามองเห็นอะไรในราวป่า เรามิรู้เลยว่าเราเข้าถึงหรือเพียงแค่เข้าไปในราวป่าแล้วกลับออกมา แต่เราก็มีภาพถ่ายจากป่าผืนนั้นกลับออกมา

 

 

//...............

หมายเหตุ : หนึ่งชั่วโมง อันสงัดเงียบ ในราวป่าโกงกาง: คอลัมน์ : 'ชีวิต...วิ่งขึ้น...วิ่งลง...' โดย 'ทรงยศ กมลทวิกุล'

//..............