อาลัย “มาเรียม” พะยูนน้อย จากไปเพราะขยะพลาสติก

อาลัย “มาเรียม” พะยูนน้อย จากไปเพราะขยะพลาสติก

           “มาเรียม” ลูกพะยูนกำพร้าขวัญใจคนไทย และมักเรียกกันว่า “นักเกยตื้นในตำนาน” จากไปแล้ว หลังเที่ยงคืนของกลางดึกวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา

 

           กลางดึกของคืนวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ข้อมูลจากเพจกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แจ้งว่า

“หลับให้สบายนะ น้องมาเรียม เจ้านางฟ้าตัวน้อย”

วันที่ 17 สิงหาคม 2562 กรม ทช. ขอแจ้งข่าวร้ายว่า น้องมาเรียม ได้จากพวกเราไปแล้ว ทีมแพทย์พบว่าน้องมาเรียม หยุดหายใจ และไม่เจอชีพจร จึงรีบนำขึ้นจากน้ำรอบแรก กระตุ้นหายใจ พบมีการตอบสนอง ตายังตอบสนอง จึงเอาลงบ่อ จากนั้นตรวจชีพจรซ้ำ แต่ไม่เจอชีพจรอีก จึงฉีดยาช่วยชีวิต และเอาขึ้นจากบ่อรอบที จนกระทั่งเวลา 00.09 น. น้องได้จากพวกเราไปอย่างสงบแล้วครับ

ต่อมาทีมสัตวแพทย์ ทีมพิทักษ์ดุหยง พร้อมด้วยผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งของกรม ทช. และเขตห้ามล่าฯ ร่วมกันเคลื่อนย้าย "น้องมาเรียม" ด้วยเรือ ทช.217 จากอ่าวดูหยง บ้านบาตูปูเต๊ะ ม.4 มายังท่าเรือบ้านโคกสะท้อน ม.1 เพื่อนำ น้องมาเรียม เข้าสู่กระบวนการผ่าชันสูตรซากที่มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง

 

           จากนั้นเช้าวันที่ 17 สิงหาคม 2562 มีข้อมูลจากเพจกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพิ่มเติมว่า

 

“ไม่อยากเชื่อ น้องมาเรียม จากไปจากขยะพลาสติก”

วันที่ 17 สิงหาคม 2562 เวลา 05.52 น. ทีมสัตวแพทย์ 10 คนจากกรม ทช. จุฬาฯ. กองทัพเรือ และ มทร.ศรีวิชัย ตรัง ร่วมรายงานผลการชันสูตร ผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตของน้องมาเรียม สาเหตุมาจากการช้อค นอกจากนี้ยังพบเศษพลาสติกเล็กๆ หลายชิ้นขวางลำไส้ จนมีอาการอุดตันบางส่วนและอักเสบ ทำให้มีแก๊สสะสมอยู่เต็มทางเดินอาหาร มีการติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดเป็นหนอง ตามมา

.....ช่วงแรกของการรักษา สามารถลดการติดเชื้อในระบบหายใจลงได้บางส่วน แต่ในทางเดินอาหารท่ีมีขยะพลาสติกนั้น ไม่สามารถรักษาได้ จึงลุกลามไปจนช้อค และทำให้เสียชีวิตในที่สุด

.....รอยโรคอีกส่วนหนึ่งที่พบคือ มีรอยช้ำเลือดในกล้ามเนื้อและผนังช่องท้องด้านใน ซึ่งอาจเกิดจากการกระแทกกับของแข็ง เช่น หินขณะที่เกยที่ตื้น

.....ทุกคนเศร้าเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ แต่สิ่งที่ตอกย้ำให้ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ถ้าจะอนุรักษ์ให้สัตว์ทะเลหายากยังคงอยู่กับเราต่อไป ทุกภาคส่วน ทุกคน ต้องช่วยกันเรื่องขยะทะเล

 

           โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา เพจกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพิ่งรายงานการจากไปของ “เจ้าโฮป” ลูกวาฬหัวทุยแคระ 

"สูญเสียแล้ว เจ้าโฮป ลูกวาฬหัวทุยแคระ"

วันที่ 13 สิงหาคม 2562 กรม ทช. โดยศูนย์วิจัย ทช. ทะเลอันดามัน รายงานการเสียชีวิตของเจ้าโฮป ลูกวาฬหัวทุยแคระ เมื่อเวลา 23.23 น. ของคืนวันที่ 12 สิงหาคม 2562 หลังจากที่ทีมสัตวแพทย์ (หมอฟ้า และหมอบิ๊ก) เฝ้าดูแลตลอด ๒๔ ชั่วโมง และพยายามยื้อชีวิตมาอย่างต่อเนื่องตลอด 9 วันเต็ม

.....ผลการตรวจทางโลหิตวิทยา พบภาวะการติดเชื้อในร่างกาย มีภาวะการแห้งน้ำรุนแรง พบค่าการทำงานของตับและไตสูง และมีภาวะกล้ามเนื้ออักเสบ

.....ผลการตรวจอัลตราซาวด์ พบแก๊สในกระเพาะอาหารและลำไส้จำนวนมาก และมีการเคลื่อนไหวของลำไส้มากกว่าปกติ

.....สาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากภาวะช๊อค (Pain and Septic Shock) การติดเชื้อในร่างกาย (Sepsis) และภาวะการแห้งน้ำอย่างรุนแรง (Severe Dehydrate)

 

           ทั้งนี้ข้อมูลจากรายงานด้านสิ่งแวดล้อมล่าสุดระบุว่า มีขยะทะเล 13 ล้านตัน โดยเป็นพลาสติก 8 ล้านตัน ไหลลงสู่ทะเลทุกปี และ 80% มาจากบนบก โดยในปี 2560 ประเทศไทย ติดอันดับ 6 ของโลก (1.03%) ซึ่งตามสถิตินี้ในปี 2593 โลกเราจะมีขยะพลาสติกเท่าน้ำหนักปลาในทะเล

 

R.I.P. โฮป และ มาเรียม

 

CR : ภาพและข้อมูลจากเพจกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง