ปฐมบท-วิวาทะ ‘ขุนแผนพรายกุมาร’ ปี 15 VS ปี 17

ปฐมบท-วิวาทะ ขุนแผนพรายกุมารปี 15 VS ปี 17 : คอลัมน์ 'จิปาถะพระเครื่อง' โดย 'ธุลีธรรม'

 

 

“มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ”

ข้าพเจ้าขอพรอันประเสริฐ จงบังเกิดกับผู้อ่านทุกท่าน

บทสวดข้างต้นเป็นบทสวดของ “หลวงปู่ทิม อิสริโก” แห่งวัดละหารไร่ จังหวัดระยอง พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่สาธุชนทั่วไป ให้ความเคารพศรัทธากันอย่างกว้างขวาง

เนื่องจากท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีวัตรปฏิบัติที่น่าเลื่อมใสอย่างมาก มีเมตตาต่อญาติโยม

ในด้านวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง ล้วนมีประสบการณ์เป็นเรื่องเล่าขานกันมานักต่อนัก ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียง คือ “ขุนแผนผงพรายกุมาร”

 

 

อย่างไรก็ดี ในด้านมนต์คาถาต่าง ๆ “หลวงปู่ทิม” ท่านก็เมตตาให้ไว้เช่นกัน โดยหนึ่งในคาถาศักดิ์สิทธิ์ คือ  “มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ”

วันนี้ ผมจะขอมาเล่าจากความรู้อันน้อยนิดของผม ย้ำนะครับว่า ที่ผมจะเล่าให้ฟังอาจไม่ถูกใจใคร ไม่ตรงใจใคร หรืออาจจะไม่ได้สาระอะไรมากพอ

ก็ขอให้อ่านไปในทางบันเทิงก็แล้วกันครับ

 

 

“วัตถุมงคล” ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือ “ขุนแผนผงพรายกุมาร” ที่มีความเห็นแตกแยกกันเป็นหลายแง่หลายมุมว่า สร้างปีไหน เริ่มสร้างกันปีใด มีเนื้อมวลสารอะไร

ก็วุ่นวายถึงขนาดที่ว่า มาถึงตอนนี้ “นายกสมาคมพระเครื่องพระบูชา” จะขอไม่บรรจุ “ขุนแผนผงพรายกุมาร” ในการประกวดพระเครื่องอีก จนกว่าจะได้ข้อสรุปถึงการสร้างอย่างชัดเจนเสียก่อน

ฮ่า ๆ ๆ น่าคิดนะครับ ทั้งที่พระราคาหลักล้าน หลักแสน แต่ !!! งดการประกวด เนื่องจากข้อมูลไม่ชัดเจน 

 

 

 

เอาแล้วไง เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต้องเดือดร้อนถึงผม ที่เป็นผู้ที่ชื่นชอบการเป็น “ไทยมุง” คอยยุ่งวุ่นวายกับเรื่องของชาวบ้าน ที่ต้องมาหาข้อมูลว่า แล้วทำไมถึงจะไม่ให้ประกวดล่ะ ?

ผมสืบไปค้นมา ก็มาถึงบางอ้อจนได้ว่า เรื่องมันมีก็เพราะมันเกิดมีกลุ่ม “ชาวบ้านค่าย” ที่อยู่ใกล้ ๆ วัด ตีข้อมูลการสร้างว่า “ขุนแผนผงพรายกุมาร” ไม่ได้สร้างปี 17 เพราะชาวบ้านแถววัดไม่มีใครได้เลย

ไอ้ที่คนเฒ่าคนแกเขามีกัน ก็คือสร้างปี 03-15 เท่านั้นแหละครับ 

 

 

 

 

 

เอาแล้วไง อย่างนี้ก็งานงอกสิ เรื่องนี้ก็เลยทำให้เกิดเป็นการแบ่งแยกของคน  2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ กลุ่ม “ปี 2515 กับ กลุ่ม “ปี 2517

และนี่เองแหละครับ ที่กลายเป็นเหตุให้ “สมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย” ยกเลิกการประกวดพระรุ่นนี้

ว่าก็ว่านะครับ พระที่ชาวบ้านบอกว่า “พระขุนแผนผงพรายกุมาร ปี 15 มีราคาแค่หลักพัน หลักหมื่น ขณะที่รุ่นที่เขาเล่นกันบนห้างดัง กลับมีราคาถึงหลักล้าน หลักแสน

มันมีการแบ่งกลุ่มกันชัดเจน บางคนก็เอาที่ตัวเองสะสมไปให้ต่างกลุ่มดู ก็ตีกัน ตีเก๊ ตีแท้  มั่วกันไปหมด

ผมขอเล่าจากที่ผมศึกษาก่อนนะครับ คือ  “ขุนแผนผงพรายกุมาร” ยุคต้น ปี 2503-2515 ที่ “ชาวบ้านค่าย” เขาสะสมกัน “มวลสารหลัก” จะเป็น “เนื้อข้าวเหนียวสุก” แล้วผสม “มวลสาร” จาก “ว่าน” ต่าง ๆ จากนั้นทาทับด้วยแร่ทองคำ มีฝังตะกรุด ฝังเหรียญต่าง ๆ  มีทั้งตะปูตอกฝาโลง สายไฟ และอีกมากมาย ที่ไม่อาจจะบอกได้หมด

มากมายจริง ๆ ครับ และก็น่าคิดนะครับว่า ทำไมถึงมีมากมายจัง

 

 

 

เรื่องนี้ ผมสืบไปสืบมาจนมาได้คำตอบว่า ในสมัยก่อนการสร้าง “วัตถุมงคล” ก็เพื่อหาเงินมาสร้างศาสนสถาน ของวัด ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก

อันนี้ก็เห็นว่า น่าจะจริง เพราะถ้าสร้างกันออกมาไม่กี่องค์ ก็คงได้แค่เสาแน่ ๆ ใช่ไหมครับ

อีกอย่าง “หลวงปู่ทิม อิสริโก” จะปลุกเสก “วัตถุมงคล” แค่ปี 2517 ก็คงไม่ใช่ เพราะการสร้างศาสนสถานต้องใช่เงินจำนวนมาก

เอาเป็นว่า เรื่องนี้ ก็คงต้องแล้วแต่คนจะคิดกันนะครับ แต่โดยส่วนตัวของผมแล้ว ผมขอเอาตามชาวบ้านที่เขาสะสมกันมาครับ เพราะจากข้อมูลหลาย ๆ อย่างมันสอดคล้องกัน

เรื่องนี้ ยังต้องว่ากันยาว ๆ ครับ เดี๋ยวผมค่อย ๆ ขยายข้อมูลแบบเจาะลึกให้ฟังกันไปตามลำดับ โดยเฉพาะเรื่องที่เขาตีกันอย่างเมามันเหลือเกิน ระหว่างพระบนห้างที่ชาวบ้านไม่มี กับพระที่ชาวบ้านมีแต่ไม่มีบนห้าง

 

 

ไม่ว่าอย่างไร ผมก็ยังเชื่อครับว่า การประพฤติดี ประพฤติชอบ ไม่เบียนเบียนผู้อื่น จะส่งผลดีเสมอ

ท่านทั้งหลายเองก็เช่นกันครับ เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะคล้องพระองค์ไหน ก็คงไม่สามารถช่วยให้ท่านพ้นไปจากบาปได้

และที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ “แก่นแท้” ของ “ธรรม” ครับ

ท่านจะ “ศรัทธา” พระองค์ไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ขอให้ท่านจงเชื่อใน “คำสอน” ของ “พระพุทธองค์” อยู่ด้วยเสมอ

ทำแต่กรรมดี ละเว้นจากการก่อบาปทั้งปวง เพียงเท่านี้ ท่านก็จะมีแต่ความสุขอย่างแท้จริงครับ

 

หมายเหตุ : ขอบคุณ ภาพประกอบ จาก “ดร.ภิเษก ศรีสวัสดิ์”

 

เพจ “กลุ่มอนุรักษ์พระเครื่องเลือดบ้านค่ายศึกษาประวัติศาสตร์พระเครื่องหลวงปู่ทิม”

https://www.facebook.com/groups/375245112834640/

 

//.......................